...+

วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2554

คันตา อันตรายไหม...โรคภูมิแพ้ขึ้นตา?

คันตา อันตรายไหม...โรคภูมิแพ้ขึ้นตา?

อาคาร คันตา อาจเกิดจากสาเหตุได้หลายอย่าง เช่น ฝุ่นผงเข้าตา ขนตาทิ่มตา หรือโรคต้อลม แต่ถ้าท่านมีอาการคันตาเรื้อรัง เป็นๆหายๆ สาเหตุหนึ่งที่ท่านต้องนึกถึงคือ ท่านเป็นภูมิแพ้ขึ้นตาหรือเปล่า

โรคภูมิแพ้ทางตา เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วยเด็ก ซึ่งเป็นกลุ่มอายุที่พบได้มากกว่ากลุ่มอายุอื่นๆ ซึ่งแม้ว่าโดยทั่วไปปัญหาโรคภูมิแพ้ทางตาอาจไม่ก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรง ต่อการมองเห็น แต่มักเป็นปัญหาที่เรื้อรัง ก่อความรำคาญ และเกิดผลเสียต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและครอบครัวเป็นอย่างมาก

ทราบได้อย่างไรว่าเป็นภูมิแพ้ขึ้นตา
อาการคันตาจากโรคภูมิแพ้ มักมีอาการคันเป็นๆหายๆ อาจสัมพันธ์กับการสัมผัสสิ่งที่ทำให้เกิดอาการแพ้ เช่น ฝุ่น เกสรดอกไม้ ขนสุนัข อาหารทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีประวัติเป็นโรคภูมิแพ้ หอบหืด หรือในเด็กที่พ่อแม่เป็นโรคภูมิแพ้อยู่



อาการทางตาที่พบคือ มีอาการคันตาทั้ง 2 ข้าง เป็นๆหายๆอยู่บ่อยๆ ตาแดงเล็กน้อย มีขี้ตาเหนียวๆ ถ้าเป็นเด็กมักชอบขยี้ตาจนบางครั้งทำให้ตาขาวเป็นสีเหลืองหม่น ขอบตามีสีคล้ำ หากท่านสงสัยว่าอาจเป็นภูมิแพ้ขึ้นตา ควรพาไปพบจักษุแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยที่แน่ชัด และรับการรักษา

ถ้าเป็นโรคภูมิแพ้ขึ้นตา ต้องปฏิบัติตัวอย่างไร
หากท่านหรือบุตรหลานของท่านเป็นโรคภูมิแพ้ขึ้นตา การหาสิ่งที่แพ้หรือกระตุ้นให้เกิดอาการคันตา ถือเป็นหลักที่สำคัญที่สุด โดยพยายามสังเกตหรือจดบันทึกว่าเริ่มมีอาการเมื่อกำลังทำอะไรอยู่ เพราะสิ่งที่กระตุ้นการแพ้อาจ เป็นได้ทั้งทางการหายใจ เช่น ฝุ่น เกสรดอกไม้ ซากแมลง สารเคมี สิ่งสัมผัส เช่น ขนสุนัขหรือแมว หรือแม้กระทั่งอาหาร เช่นอาหารทะเล เป็นต้น ซึ่งเมื่อทราบตัวกระตุ้นแล้ว เมื่อหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นนั้น จะสามารถทำให้อาการคันตาดีขึ้น และไม่ค่อยเป็นซ้ำอีก

นอกจากนั้นการประคบบริเวณเปลือกตาด้วยความเย็น และหลีกเลี่ยงการขยี้ตา จะช่วยลดการหลั่งสารกระตุ้นการแพ้ที่ตาได้
ยาหยอดตาแก้โรคภูมิแพ้ขึ้นตา
ยาหยอดตาที่ใช้ในการรักษาอาการคันจากโรคภูมิแพ้ขึ้นตามีหลายประเภท อาจใช้ยาต้านฮีสตามีนหยอดเฉพาะเมื่อมีอาการคัน จะทำให้หายคัน แต่เมื่อถูกสารกระตุ้นก็จะมีอาการคันอีก หรือการใช้ยาลดความไวต่อสิ่งกระตุ้น เดิมเป็นยาที่ต้องใช้ประจำวันละ 4 ครั้งจะช่วยลดความไวของการแพ้ได้ ในปัจจุบันมีการพัฒนาเป็นยารวมของยาลดความไวต่อสิ่งกระตุ้นและยาต้านฮีสตา มีนซึ่งใช้เพียงวันละ 2 ครั้ง ข้อสำคัญควรหลีกเลี่ยงยากลุ่มสเตรียรอยด์ เพราะอาจทำให้เกิดโรคต้อหินแทรก ทำให้ตาบอดได้

ข้อแนะนำเกี่ยวกับโรคภูมิแพ้ขึ้นตา
1. ถ้ามีอาการคันตาเป็นๆหายๆ ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยที่แน่นอน
2. สังเกตหาสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการคันตา เพื่อหลีกเลี่ยง จะช่วยให้อาการคันตาดีขึ้น และควรหลีกเลี่ยงการขยี้ตา เพราะจะยิ่งทำให้อาการคันตาเป็นมากขึ้น และอาจทำให้ดวงตาบอบช้ำได้
3. การเลือกใช้ยาหยอดตา ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อเลือกใช้ยาหยอดตาชนิดที่เหมาะ สมโดยคำนึงถึงความ รุนแรง ความถี่ของการคัน ความถี่ของการใช้ยา ผลข้างเคียงและราคายา เช่น ยาในกลุ่มที่ใช้วันละ 2 ครั้ง จะสะดวกสำหรับเด็กในวัยเรียน, การให้ยาแก้แพ้ชนิดกินอาจทำให้เกิดอาการง่วง ไม่ควรใช้ในเวลากลางวัน เพราะจะทำให้เกิดปัญหาง่วงนอนขณะเรียน หรือทำงาน และต้องระวังการซื้อยาใช้เอง เพราะการหยอดยากลุ่มสเตรียรอยด์อาจทำให้เกิดโรคต้อหินและตาบอดได้
4. ในกรณีเป็นเด็ก ผู้ปกครองควรช่วยเหลือในการดูแลและใช้ยา ซึ่งโดยทั่วไปอาการโรคภูมิแพ้ที่ตามักดีขึ้น เมื่อเด็กโตขึ้น


ที่มา : www.doctorskinhouse.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น