...+

วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ก่อนจะจากกันไป

ก่อนจะจากกันไป


นึกไม่ถึงจริงๆนะครับว่า พวกเราจะเขียนตามหาแก่นธรรมกันมาให้ท่านได้อ่านกัน ถึงร้อยบทความแล้ว มันเร็วมากและเยอะมากจนอึ้งไปเหมือนกัน แต่พวกเราก็เขียนไปด้วยทำงานไปด้วย ก็เลยไม่ได้สนใจกันในด้านปริมาณ เราเน้นคุณภาพและคุณภาพของใจเป็นสำคัญ ไม่รีบไม่ร้อนให้กิเลสมาเผาใจ ตามหาแก่นธรรมของเราจึงเป็นบทความรายสะดวกออนไลน์ ไม่ฟรีนะครับ
เพราะเราต่างมาร่วมพิจารณาธรรมร่วมกันในชั่วขณะจิตหนึ่ง มีสัมมาทิฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาสติ และสัมมาสมาธิ ร่วมกันในบทความแต่ละตอน ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่าเรามี
จากการได้ฟังท่านผู้อ่านตอบรับกลับมา ตามหาแก่นธรรมขอกล่าวต้อนรับพี่น้องชาวบำบัดน้ำเสีย ที่ตามอ่านกัน โดยมีพี่ทวีซึ่งเป็นวิศวกรหนุ่ที่ทำงานดุดันมาก เป็นหัวเรือใหญ่ในการแจกจ่ายแก่นธรรม ก็ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป ในโลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์นี้
ในตอนเริ่มต้นตามหาแก่นธรรม เป็นแค่การชวนสนทนากันอิงธรรมะ แล้วก็ชวนไปพูดถึงหัวข้อธรรม จวบจนกระทั่งตอนนี้ต้องค้นคว้าหาข้อธรรมจากครูบาอาจารย์มาใส่ให้เห็นว่า สิ่งที่พระพุทธองค์ทรงตรัสเป็นหนทางที่ประเสริฐ ดังที่ผู้เขียนได้เห็นจริง แต่จะให้เห็นจริงแท้ก็ต้องอาศัยระยะเวลาและการปฏิบัติ การทำมากก็ได้มากครับ
การได้พบกับสิ่งที่รักเป็นสุข การพลัดพรากจากสิ่งที่รักเป็นทุกข์ การได้พบกับสิ่งที่ไม่รักก็เป็นทุกข์ เช่นเดียวกับการไม่ได้พบกับสิ่งที่ ไม่รักก็เป็นสุข เหมือน ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข พวกเราชอบ แต่เสื่อมลาภ เสื่อมยศ นินทา ทุกข์ ไม่มีใครชอบ ธรรมะเหล่านี้มันเหมือนกับมีดเล่มหนึ่งที่มีทั้งด้านสันมีดและคมมีด( มันไปด้วยกัน) เราจึงไม่สามารถแยกของคู่ที่กล่าวข้างต้นออกจากกันได้ เหมือนเราชอบกินอะไรเป็นของโปรด กินบ่อยๆเข้ามันก็เบื่อและไม่โปรดมันอีก
จนรอไปสักพักก็กลับมาโปรดมันเหมือนเดิม ทั้งที่ของโปรดของเราหรือโลกธรรม นั้น มันเป็นของมันอยู่อย่างนั้นแหละ ชั่วนาตาปี มะนาวยังไงๆก็เปรี้ยว พริกยังไงๆก็เผ็ด แต่ชอบหรือไม่ชอบ รักหรือไม่รัก มันอยู่ที่ตัวเราหรือจิตของเรา
เหมือนใครที่ชอบทะเล ภูเขา ป่า ลองไปอยู่สักพักสิ เดี๋ยวก็เบื่อ เพราะมันดูเหมือนซ้ำๆจำเจกับทะเล ภูเขา ป่า แต่หารู้ไม่ว่าชีวิตจริงๆมันจำเจยิ่งกว่าของโปรด มันเวียนวนอยู่อย่างนั้น แต่เราไม่รู้สึกกันเอง ที่พระท่านเรียกว่าสงสารวัฏหรือวัฎสงสาร ที่แปลว่าวงกลมนั่นแหละ เวียนว่ายตายเกิดกันมากี่ภพกี่ชาติกันล่ะ ไม่บื่อกันบ้างหรือ
พระโยคาวจรเจ้าท่านบื่อหน่ายคลายกำหนัดที่เรียกว่านิพพิทาในวัฏฏะแล้ว ท่านจึงตัดตรงดิ่งมุ่งไปสู่กระแสแห่งโมกขธรรม หรือธรรมอันนำไปสู่ความหลุดพ้น และเข้าสู่กระแสพระนิพพาน
ที่ครูบาอาจารย์ท่านสอนว่าเป็นความว่าง ว่างไปจากทุกสิ่งทุกอย่าง ว่างไปจากตัวตน ว่างไปจากสิ่งของ ว่างไปจากตัวกูของกู แต่ก็ยังมีหลายคนบอกว่าว่างไม่ดี...กูเบื่อ
ก็เลยต้องมานอนจมกองขี้้กันต่อไป นับตั้งแต่ ขี้ตา ขี้ฟัน ขี้ปาก ขี้อิจฉาตาร้อน ขี้เกียจ ขี้หึงขี้หวง ขี้ใจน้อย ขี้อะไรต่อมิอะไร แต่ก็ยังเห็นว่ามันสนุกเหมือนหนอนที่นอนจมกองขี้ มันบอกได้แต่ว่าอิ่ม อร่อย สะดวกสบาย เหมือนนอนอยู่ในร้านสะดวกซื้อกันเลยทีเดียว แล้วจะหาเจอหรือที่ว่า สงบ สะอาด สว่าง สบาย จริงๆ
หาเงินกันเข้าไป อยากได้ตัวเลขในบัญชีธนาคารสวย มีเลขหกหลัก เจ็ดหลัก จนกระทั่งมากกว่าแปดหลัก ถ้าไม่ร้อนเหมือนเอาฟีนไปใส่กองไฟก็แล้วไป เพราะต้องมาคอยรักษามัน ให้มันอยู่ในธนาคารที่เชื่อถือได้ ดอกเบี้ยงาม ธนาคารอย่าคิดผิดสักวันนะโว้ย...เดี๋ยวแม่ด่า
บ้างก็พูดพร่ำหาความรัก แต่ไม่รู้จักความรักจริงๆว่ามันเป็นเช่นไร ร้องเรียกหาแต่มันว่า"เอามาๆ" อยู่นั่นแหละ แต่ไม่รู้หรอกว่าความรักเกิดจากการให้ ให้ทุกอย่างที่เห็นว่าดีเท่าที่ตัวเองมี และที่สำคัญที่สุดคือให้อภัย ลองไปนึกสิครับดูว่าจริงหรือเปล่า
ถ้าเห็นเป็นจริง ความรักของคุณจะยั่งยืนยาวนานแสนนาน มันไม่ลัดสั้นสิ้นคิดเหมือนกับที่เราเห็นในสังคมปัจจุบันนี้ ที่ทวีความจอมปลอมมากขึ้นทุกวันๆ ยากที่จะหาความจริงใจจากใครได้ ที่สามารถพูดคำว่ารักตรงกับความหมายได้อย่างแท้จริง
พระเยซูเจ้าพระผู้ไถ่บาปของพี่น้องชาวคริสต์ยังทรงเป็นผู้ให้แต่ฝ่ายเดียว แม้กระทั่งชีวิตของพระองค์ที่ทรงสละเพื่อการไถ่บาปให้แก่มวลมนุษย์
พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพร้อมด้วยสมบัติและความรักทุกๆอย่าง ยังทรงออกผนวชเพื่อหาความรักที่แท้จริง สุขแท้จริง เมื่อทรงค้นพบแล้ว จึงนำกลับมาสอนเวไนยสัตว์ ผู้มีผงธุลีอยู่ในดวงตา เพื่อให้รู้ว่าจะเขี่ยหรือชำระล้างฝุ่นธุลีจากดวงตาได้อย่างไร แล้วทรงเสนอทางแห่งความสงบสุข สว่างหรือหนทางแห่งปัญญา อันเป็นทางสู่ความสุขอันเป็นนิรันดร์ คือ ทางสายกลาง
ครูบาอาจารย์หลายรูป ตั้งแต่หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต หลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่พุทธทาสภิกขุ เป็นต้น ท่านล้วนแต่มีความเมตตากรุณา และความรักต่อมวลมนุษย์เป็นอย่างยิ่ง จึงตั้งองค์สอนธรรมให้แก่ผู้คนทั่วไป จนลมหายใจสุดท้าย
พี่ชายคนถัดไปของผู้เขียน สนิทกันมาก เพราะอายุห่างกันแค่ไม่กี่ปี ต่อสู้กับชีวิตจนได้เรียนวิศวะ ลำบากในวัยเยาว์เหลือจะกล่าว นั่งตะไบเหล็ก ขัดเหล็กในงานช่างของมหาวิทยาลัย จนเพื่อนต้องหามกลับมาส่งถึงที่บ้านเพราะลุกไม่ได้ ขี่จักรยานยนต์ส่งหนังสือพิมพ์ รถคว่ำเกือบตาย จนมีอยู่วันหนึ่งต้องหามไปผ่าตัดกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทที่โรงพยาบาลศิริราชแล้ว จึงหายเป็นปกติ
หลังจากนั้นก็เข้าทำงานในบริษัทที่ตัวรัก หน้าที่การงานก้าวหน้าดี จนบริษัทได้เข้าไปอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ สิ่งที่พี่ชายพร่ำพูดกรอกหูน้องคนนี้อยู่เสมอว่า"อย่าทำให้แม่เสียใจ "เขาจึงตามใจแม่เป็นที่สุดรวมอีกทั้งยังตามใจน้องๆหลานๆมาก แม้กระทั่งคนที่ไม่รู้จักเดือดร้อน ยังควักเงินให้อย่างไม่แยแสในวัตถุเลย
เป็นลูกคนหนึ่งที่ทำให้แม่ปลื้มมาก ภายหลังที่มีครอบครัวแล้ว มีลูกที่อยู่ในความดูแลถึงหกคน แต่ก็ดูแลจนสามคนจบการศึกษาไปเป็นที่เรียบร้อย และอีกสามคนก็กำลังเรียนใกล้จะจบกันแล้ว
พี่ชายเป็นคนรักลูกแบบสุดฤทธิ์ แม้ยามตกต่ำ ถูกฟ้องเป็นหนี้มีปัญหา ก็ขวนขวายหาเงินส่งธนาคารและหลุดจากวงจรดังกล่าวมาได้ ลำบากแค่ไหนกับตัว แต่จะไม่ให้ลูกลำบากเลย
"ได้ครับ"คือคำพูดที่ได้ยินบ่อยๆ เวลาลูกๆ ขออะไร แล้วได้ตามนั้น
มีคนถามพี่ชายว่าลูกดื้อ ทำไมไม่ตีบ้าง
"เขาเกิดจากความรัก ตีเขาไม่ลงหรอก" นี่คือคำตอบจากพี่ชาย
ตอนแม่จะสิ้นลม พี่ชายเดินกัดกราม แล้วบอกผู้เขียนว่า ทนดูไม่ได้ จากนั้นก็เดินหายไป กลับมาอีกทีก็เข้ามาจัดการงานศพของแม่ร่วมกัน
เขาเป็นตัวอย่างนักต่อสู้ของผู้เขียนคนหนึ่ง แม้กระทั่งตอนที่เขาหัวใจวายครั้งแรก พี่ชายก็ยังไม่อยากไปหาหมอ เพราะบอกว่าจะไปรับลูกก่อน
ทนคะยั้นคะยอจากน้องชายคนนี้ไม่ไหวจริงๆ ต้องไปนอนโรงพยาบาลหลังจากสั่งลูกๆเรียบร้อย เสร็จแล้วคืนนั้นก็เข้าโคม่าไป โชคดีที่ได้รับการดูแลจากหมอที่เก่งและใกล้ตัว จนรอดชีวิตมาเกือบสิบปี ไม่มีการป่วยใดๆให้กังวลนัก
เมื่อคืนสามทุ่มตอนผู้เขียนกลับถึง บ้าน ได้ข่าวพี่ชายใจใหญ่คนนี้ ถูกรถยนต์ชนที่รามอินทรา ก.ม.8 มีผู้นำส่งที่โรงพยาบาลสินแพทย์ อาการน่าเป็นห่วง เข้าห้องไอ.ซี.ยู หัวใจวายไปสองรอบแล้ว ขณะนั้นอยู่ในช่วงที่หมออภิบาลขั้นอันตราย ผู้เขียนโทรแจ้งญาติและติดต่อประกันให้พี่ชาย เสร็จ จึงล้มตัวลงนอนหลับสนิทจนถึงเช้า ทั้งๆที่นอนไม่หลับมาหลายคืน กับสารพัดปัญหา แต่เมื่อคืนนอนเต็มอิ่มจริงๆ ตื่นมาสดชื่นมาก แล้วนึกถึงพี่ชายตอนเช้านี้
ขอบคุณครับพี่ที่ทำให้น้องคนนี้แข็งแกร่งและได้ใช้ธรรมะเวลานี้ พี่ด้วยล่ะจะรอพี่ตื่นจากฝันร้าย...นะครับ เอวัง

ธรรมะสวัสดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น