...+

วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ระวัง...อย่าบริจาคเงินผ่านเจ้าหน้าที่ระดมทุนที่ได้รับมอบหมายจากองค์กรต่างๆ เช่น unicef

Before you donate, make sure that it goes right to the non-profit organization directly and not through any agents that charge commissions for their soliciting.


http://www.appcogroup.com/news/130000newdonorsforUNICEF

ระวัง…อย่าบริจาคเงินผ่านเจ้าหน้าที่ระดมทุนที่ได้รับมอบหมายจากองค์กรต่างๆ เช่น unicef



ระวัง…อย่าบริจาคเงินผ่านเจ้าหน้าที่ระดมทุนที่ได้รับมอบหมายจากองค์กรต่างๆ เช่น Unicef แต่ให้บริจาคในเว็บไซด์หรือที่ตั้งหน่วยงานแทน


ตอนนี้ท่านอาจจะเจอเจ้าหน้าที่ระดมทุน สวมยี่ห้อ เช่น ยูนิเซพ หรือองค์กรต่างๆ ตามย่านสีลม ตามสุรศักดิ์ ช่องนนทรี หรือตามห้างต่าง ๆ ปั๊มน้ำมันใหญ่ๆ ฯลฯ ซึ่งไม่ควรสนับสนุนเป็นอย่างยิ่ง ด้วยเหตุผลหลาย ๆ ประการ

1. เจ้าหน้าที่เหล่านี้ถูกฝึกมาอย่างดี เพื่อกล่อมให้คุณบริจาคเงินตัดผ่านบัตรเครดิต ให้ยูนิเซพเป็นเวลาอย่างต่ำ 2 ปี โดยทุก ๆ application ที่หาได้ เจ้าหน้าที่จะได้ค่าคอม 500-800 บาท (บริจาค 300/เดือน ได้ 500, 400/เดือนได้ 600) สูงสุดคือ 800 ต่อเดือน
ซึ่งเงินเหล่านี้ก็มาจากงบการตลาดของ unicef ที่อเมริกาส่งมาให้ที่ไทย หาได้วันนึง 2 ใบ

ก็ได้เงินเยอะกว่าเรา ๆ ท่าน ๆ กันแล้ว นี่ยังไม่รวมถึงเปอร์เซ็นเพิ่มเติมที่ทาง Appco จะจ่ายให้กับอัพไลน์อีก

2.เป็นการสนับสนุนบัณฑิตของชาติในทางที่ผิด เจ้าหน้าที่เหล่านี้คือเจ้าหน้าที่ของ Appco อยู่ในเครือ Cobra Group ซึ่งในเน็ตมีเสียงวิจารณ์ด้านลบเอามาก ๆ ลองหาใน google ว่า "Cobra Group Scam" หรือ "DS-MAX Scam" มีคนทั่วโลกที่โดนกล่อมให้ทำงานคล้าย ๆ กันนี้ และจบลงด้วยการเสียเวลา เสียสุขภาพ เสียโอกาสในการทำงานที่สร้างคุณค่าให้กับสังคมมากกว่านี้ แต่ทำงานเพื่อเงิน

คนที่เข้ามาทำในองค์กรนี้ส่วนมากจะจบป.ตรี มีทั้ง เอแบค ธรรมศาสตร์ จบนอก หรือแม้แต่คนที่บ้านมีกิจการตัวเอง แต่เห็นว่ามาทำที่นี่ได้เงินมากกว่าการเป็นมนุษย์เงินเดือน (องค์กรนี้ทำกับเหมือนเป็น MLM แบบ full-time) การตลาดแทบจะถอดแบบ Quixtar หรือ Amway กันมาเลยทีเดียว และคนในองค์กรนี้บางคน มีทัศนคติที่สมเพชมนุษย์เงินเดือนเอามาก ๆ ว่าได้เงินน้อย และยังดูถูกคนที่ทำงานคล้าย ๆ กับตนคือพวก Innovast ที่ขายซิมดีแทค ทั้ง ๆ ที่แผนการตลาดก็มาจากรากเดียวกันคือ DS-MAX หากท่าน ๆ บริจาคผ่านตัวแทนเหล่านี้ ก็เป็นการสนับสนุนให้บัณฑิตเหล่านี้ไม่ใช้ความรู้ที่เรียนมาช่วยพัฒนาประเทศกันเลย แต่หลงเข้ามาในระบบ "Get-Rich Quick Scheme" ของ Appco ทั้ง ๆ ที่ใคร ๆ ก็รู้ว่ามันเป็นระบบปีระมิดขนาดใหญ่

Reference

1. Unicef เป็นองค์กรระดับโลก ถ้าระบบการระดมทุนมันไม่ดีจริง Unicef คงไม่เอาไว้ ?

มันดีสำหรับ Unicef เพราะ Unicef ไม่ต้องจ่ายเงินค่า Marketing ล่วงหน้าเลยสักบาท ถ้าเจ้าหน้าที่ระดมทุนหาเงินได้เมื่อไหร่ Unicef ถึงจะหักค่านายหน้าให้ ทำให้สามารถทำเงินให้กับ Unicef ได้มหาศาล Unicef ถึงชอบระบบแบบนี้มาก ๆ เจ้าหน้าที่ระดมทุนที่ยอมทำงานตั้งแต่ 8 โมงเช้า ถึง 2 ทุ่ม ทำงานจันทร์ถึงเสาร์ ค่าแท็กซี่ ค่าข้าวออกเอง ถ้าหาผู้บริจาคไม่ได้ unicef ไม่ต้องจ่าย แต่หาได้ ค่อยเก็บค่าคอมไป มันดีกับทาง unicef มาก ๆ

2. เทคนิคการขายของพวก Appco มีอะไรบ้าง

พี่ครับ/คะ ขอสอบถามข้อมูลนิดนึง ไม่ได้มาขายของนะครับ/คะ ไม่ทราบว่าเคยได้รับเอกสารจากยูนิเซพหรือเปล่า ที่จะแนบมากับใบแจ้งยอดบัตรเครดิตน่ะครับ/ค่ะ ถ้าไม่มี ไม่ทราบว่าใช้บัตรเครดิตอะไรอยู่เหรอคะ เลยไม่ได้รับเอกสารจากทางเรา(ตรงนี้เป็นการถามอ้อม ๆ ว่ามีบัตรเครดิตหรือเปล่า)

ขอเวลาประชาสัมพันธ์สัก 3 นาทีนะคะ หลังจากนั้นจะยื่น pitch card ให้เรา ต่อจากนั้นจะเป็นการคุย Chit Chat เพื่อสร้างความสนิทสนม เช่น พี่ทำงานที่ไหน ยังไง คำถามเพื่อให้มีส่วนรวม เช่น พี่ทราบไหมคะ ว่าเอดส์มีโอกาสติดจากแม่สู่ลูกกี่เปอร์เซนต์

คำถามที่ให้ตอบใช่ สามครั้ง เพื่อให้เราคล้อยตาม
เด็ก ๆ เหล่านี้เลือกเกิดไม่ได้ใช่ไหมคะ
ถ้าเลือกได้ เค้าก็ไม่อยากเกิดมาเป็นแบบนี้ใช่ไหมคะ
ถ้ามีโอกาส ก็อยากจะช่วยน้อง ๆ เหล่านี้ใช่ไหมคะ
ขอบคุณที่เข้าใจนะคะ

หลังจากนั้นก็จะแสดงแบบฟอร์มให้ตัดเงินผ่านบัตรเครดิต และตัวอย่างใบลดหย่อนภาษี

ลูก Turn (การเกลี้ยกล่อมให้จ่ายเงิน) ไม่ว่าเหตุผลอะไร เช่น อยากจ่ายเป็นครั้ง จะไปจ่ายทางเน็ต ไม่อยากทำผ่านบัตรเครดิต ปรึกษาคนที่บ้านก่อน ก็จะเริ่มต้นด้วย เข้าใจค่ะ ก็เหมือนกับพี่ ๆ หลายคนที่คุยกับหนูในวันนี้ แต่เมื่อหนูอธิบายเหตุผลให้เขาแล้ว เขาก็เข้าใจและบริจาคกัน (ดึงคนส่วนใหญ่มาเป็นตัวอย่าง ทั้ง ๆ ที่วันนั้นอาจจะไม่มีเคสนั้นเลยก็ได้)

3. บริษัทที่ทำแบบนี้ ชื่ออะไรบ้าง
Appco, Image Professional , Prime Solution และ MV Marketing และกำลังเพิ่มสาขาขึ้นเรื่อย

4.ข้อมูลสำหรับผู้ที่อยากเป็นเจ้าหน้าที่ของ Appco

- เวลาทำงาน คือ เข้างาน 8 โมงครึ่ง และสำหรับพวกที่เป็น Leader ขึ้นไปจะต้องมาประชุมตอน 8 โมง ทำงานวันจันทร์ถึงเสาร์ ส่วนมากจะเลิกกันตอนสองทุ่ม หากไปเดินตามสีลมตอนเย็น ๆ ช่วงหน้า CP tower หรือ Au bon Pair ใกล้ ๆ รถไฟฟ้าใต้ดินสีลม รับรองว่าเจอแน่ ๆ
- ค่าใช้จ่ายเกือบทุกอย่าง FR เป็นผู้ออกเอง ไม่ว่าจะเป็นค่าแท๊กซี่ ค่าข้าว ค่ารถไป Road Trip หรือแม้แต่เที่ยวต่างจังหวัดที่บริษัทจัดก็ต้องออกเอง
- ทำงานที่นี่ไม่ต้องเสียภาษีนะ
- บางคนได้เดือนนึงสามหมื่นแน่ะ แต่คนส่วนใหญ่ทำไม่ได้แบบนั้นหรอก T-T
- ที่นี่จ่ายเงินเป็นอาทิตย์
- 15% ของเงินที่ได้จะถูกหักเข้า bond จนครบ 8,000 เงินนี้จะเอาไว้หักเมื่อลูกค้ายกเลิกการบริจาคก่อนครบ 2 ปี หรือเราทำอะไรเสียหาย

- แผนโครงสร้างคือ FR, Leader, Team Leader, Assistance Manager และ Branch Manager ตรงนี้ไม่ค่อยแม่นนะ

FR - Stage 1 ต้องหาคนบริจาคได้ 2 ชิ้นภายใน 1 วัน จะได้เป็น leader
Leader -Stage 2 ต้องหาคนบริจาคได้ 2 ชิ้น อย่างน้อย 3 วัน จะได้เป็น Team Leader สามารถ take off คน (branch manager หาคนมาเป็นดาวน์ไลน์ให้) หรือ pr (ชวนคนเข้ามาเป็นดาวน์ไลน์ได้)
Team Leader -Stage 3 ต้องมี Leader ที่เป็น First Gen (ดาวน์ไลน์เราโดยตรง) 3 คน และมี 6 คนในทีมทั้งหมด มียอดขายทั้งสัปดาห์ 60 pts แล้วเราจะได้เงิน 5% จากคนในทีมทั้งหมด จะได้เลื่อนเป็น Assistance Manager
Assistance Manager - Stage 4 มี 5 leader first gen และมี 12 คนในทีม 120 pts/week 2 อาทิตย์ติดกัน จะได้เงินจากคนในทีม 15% เป็น และรอเป็น Branch Manager จะมีคนเปิดสาขาให้ เปิดออฟฟิศให้

อ่อ จริง ๆ แต่ละ Stage ต้องอ่านหนังสือสอบด้วยนะ แต่มันก็ไม่ยากมาก

- การเป็น FR จะได้เข้าเรียนทฤษฏีประมาณ 3 วัน (แต่พวกลีดเดอร์ก็จะพยายามกระตุ้นให้อยู่ถึงสองทุ่มเพื่อหาเงินเพิ่ม) และจะมีสองวันในหนึ่งอาทิตย์ที่บังคับให้ต้องกลับเข้าออฟฟิศเพื่่ออบรมต่อถึง 2 ทุ่ม เมื่อเริ่มใหม่ ๆ วันนึงจะเข้าหาคนประมาณ 200-300 คน แต่จะมีคนหยุดคุยด้วยน้อยมาก อาจไม่ถึงสิบคน และในนั้นจะมีคนยอมจ่ายเงินโดยเฉลี่ยวันนึง 0-2 คน แต่คนเก่งมาก ๆ อาจจะได้เฉลี่ย 2-4 คน

- ถ้าลากิจที่นี่ เค้าจะทำตัวไม่เป็น Professional มากเค้าจะถามว่าไปไหน ไปสัมภาษณ์งานหรือเปล่า
- การลาออก ทำได้โดยคืนของให้ที่อัพไลน์ของตัวเอง หรือที่ Branch Manager ได้เลย ไม่ต้องเซ็นเอกสารอะไร
- คนที่นี่จะมีกฏอยู่ว่า ห้ามปล่อย negative หรือห้ามบอกว่าตัวเองจะออก หรือไม่พูดถึงคนที่ออกไปแล้วเลย หากมีคนออกวันนี้ วันต่อมาจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะผลกระทบจะเป็นลูกโซ่ (Jone's Theory)
-การทำงานเช้ายันเย็น เดินหาคนบริจาค พูดแต่ pattern ซ้ำ ๆ มีเวลาว่างแค่วันอาทิตย์ คุณแทบจะไม่ได้พัฒนาตัวเองด้านอื่น ๆ เลย และอาจจะไกลห่างจากเพื่อน และ ครอบครัวเอามาก ๆ นอกจากเพื่อนใน Appco เหมือนกัน

แรงกระตุ้นที่ให้ทำต่อ
- เรื่องเล่าความสำเร็จ โดยมากผู้ที่เป็น Branch Manager จะใช้เวลาไม่เกิน 2 ปี ทำให้ถูกเชื่อว่ามันเป็นได้ง่าย
Branch Manager สี่คนแรกเปิดโดยคุณ วาริน,กุลชดา,สันติ และ Nuttawat สามคนหลังมีอายุเพียง 20 ต้น ๆ เท่านั้นแต่ได้เป็น Branch Manager ได้เดือนละแสน-สองแสน ส่วนคุณวารินเป็นลูกครึ่งไทย อินเดีย จบปริญญา 4 ใบ ตรีสอง โทสอง โทใบนึงจบไอทีจากอินเดีย พูดได้ 6 ภาษา และทำงานมา 18 ปี เงินเดือนสุดท้ายคือ 5 หมื่น เป็นผู้จัดการฝ่ายไอที ดูแล 2 Department ไปไหนต่อไม่ได้ เลยมาทำงานตรงนี้ โดยตอนแรกทำกับ คุณ Wong Chee Wai (คนสิงคโปร์ที่เป็น Organizational Head) มาเปิดเมื่อ สิงหาคม 2007 ทำมา 6 เดือนได้เป็น Branch Manager ตอนนี้เงินเดือนราว ๆ สองแสน Branch เค้าคือ MV Marketing อยู่ตึกธนิยะ ศาลาแดง MV ย่อมาจาก Mr. Varin
- ในบริษัทมักมีคนสำเร็จสองสามคน ที่ได้เดือนนึงราว ๆ 4 หมื่น โดยมีอายุแค่ 20 ต้น ๆ และกำลังจะได้เป็น Branch Manager
- ผู้บริหารชาวต่างประเทศจะเชิญ Team Leader ที่ทำงานได้ดีไปทานข้าวด้วย อาจจะในไทยหรือที่อังกฤษ และปฏิบัติกับเค้าเหมือนกับคนพิเศษ
- มีการไปรับเหรียญรางวัลต่างประเทศ สำหรับ sale ที่ทำยอดขายได้ดี หรือผู้ที่เป็น team leader
- บรรยากาศในตอนเช้าของที่นี่ค่อนข้างสนุกสนาน

โปรเจคต่อไปเห็นว่าจะเป็น WWF ช่วยเหลือสัตว์ป่า

ศัพท์ในวงการ
Juice (จุ๊ยซี่) - เป็นคำที่ใช้บ่อยมาก ย่อมาจาก Join Us In Creating Excitement ไว้พูดตอนที่ขายได้เยอะ ตอนได้รางวัล หรือการพูดตอนเช้า
Break (เบรค) - หาคนบริจาคได้ 1 ชิ้น b2b หรือ 2 ชิ้น event
Bell - หาคนบริจาคได้ 2 ชิ้น b2b หรือ 3 ชิ้น event
Gong - หาคนบริจาคได้ 4 ชิ้น b2b หรือ 5 ชิ้น event
Bullshit - ลูกค้าให้เลขบัตรเครดิตปลอม ให้เบอร์ปลอม ไม่รับสาย หรืออะไรก็ตามที่ทำให้ application ไม่สมบูรณ์
Road Trip - การนั่งรถทัวร์ไปขอรับบริจาคตามจังหวัดต่าง ๆ
ลูก - ดาวน์ไลน์ แม่/พ่อ - อัพไลน์
ทีมแตก - หัวหน้าทีมลาออก
Take off - คนมาสมัครงานกับทางบริษัท แล้ว Branch Manager ส่งคน ๆ นั้นไปให้ Team Leader Survey
PR - Team Leader ชวนคนมาทำงานด้วย ระหว่างอยู่ในสนาม หรือการชวนเพื่อน หรือคนรู้จักมาทำงาน
ปล่อย Neg - การบ่น วัฒนธรรมขององค์กรที่นี่จะไม่ยอมให้มีการปล่อยข้อมูลด้านลบ หากปล่อยบ่อย ๆ จะโดนตักเตือน


5. ข้อมูลเพิ่มเติม
http://en.wikipedia.org/wiki/Get-rich-quick_scheme
http://en.wikipedia.org/wiki/Cobra_Group_(company)http://www.facebook.com/group.php?v=info&gid=2230119953#/group.php?v=info&gid=2230119953
http://www.mvmarketing.co.th/
http://www.appcogroup.com/thailand/thailand-home.html
http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2009/01/B7393285/B7393285.html
http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2008/09/B7001615/B7001615.html
http://jijocho.spaces.live.com/blog/cns!C357EB3B82EEFBA5!2986.entry?sa=10012441
http://www.unicef.org/thailand/tha/support_11992.html
http://topicstock.pantip.com/silom/topicstock/2009/08/B8232813/B8232813.html
http://www.consumercomplaints.in/complaints/cobra-group-of-international-c113293.html
http://blogs.mirror.co.uk/investigations/2005/08/just-6-for-eight-days-work-for.html
http://www.youtube.com/watch?v=Qhr0C3OWYME
http://yingweitan.wordpress.com/2010/01/11/appco-and-fundraising-for-charities/
http://www.ripoffreport.com/Con-Artists/DS-Max/ds-max-scam-central-takes-adva-BM447.htm

ที่มา http://talk.mthai.com/topic/94368

37 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ16 กรกฎาคม 2554 เวลา 09:07

    ส่วนตัว ก็เห็นด้วยว่า หาก มูลนิธิ สามารถแข็งแกร่ง อยู่ได้ ด้วยคนไทยเอง พึ่งตนเองได้ แล้วตั้งใจ ใช้เงิน ส่วนนี้ให้ได้ประโยชน์ที่สุด ...

    ขอบคุณที่เล่าให้ฟัง เจออยู่เหมือนกันในห้าง ก็เลยแวะเข้ามาพิจารณา หาข้อมูลเพิ่ม แต่ไม่ได้หวังให้เป็นการโจมตี หรือ คิดแง่ร้าย นะ

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ15 สิงหาคม 2555 เวลา 12:27

    วันนี้เพิ่งมีคนจาก Appco Groups โทรเรียกไปสัมภาษณ์ บอกว่าเป็นงานเกี่ยวกับการจัด EVENT ซะอย่างงั้น ก็เลยเข้ามาหาข้อมูลดู ขอบคุณข้อมูลดีๆค่ะ

    ตอบลบ
  3. ไม่ระบุชื่อ23 ธันวาคม 2555 เวลา 14:46

    โลกมีสองด้านเสมอ เรียนรู้โลกเถอะ

    ตอบลบ
  4. Hey there Fred, merely done, together with you and also Simon through the Via the web.
    Feel free to surf my blog post Genital Warts Cure

    ตอบลบ
  5. Howdy Paul, merely accomplished, on hand in addition to Simon via the Webinar.
    my page - Cheap Car Insurance Quote

    ตอบลบ
  6. วันนี้เพิ่งเจอเลยค่ะ สดๆร้อนๆ พูดจาไม่ดีมากๆ ดูถูกงานที่เราทำอยู่ พูดประมาณว่าน้องค่ะ น้องจะเป็นขี้ข้าเค้าตลอดไปหรอค่ะ น้องไม่อยากเจริญก้าวหน้าต่อไปหรอค่ะ อะไรประมาณนี้ เราก็ชักสีหน้าแล้วนะว่าไม่สน เราชอบงานของเราทำไมต้องมาดูถูกงานของเรา เงินเดือนของเรา พูดจาไม่ดีแล้วยังพูดข่มอีกว่าตนและเพื่อนๆจบกันมาสูงๆทั้งนั้น จะว่าเราจบแค่ตรีว่าง้าน โธ่ แค่ทัศนคติคุณยังแย่ขนาดนี้ คุณอย่ามาทำงานชักจูงคนอื่นเลย แย่มาก วันนี้นะเสียความรู้สึกทั้งวัน

    ตอบลบ
  7. อยากทราบว่าเงินที่บริจาคไปให้น้องๆ จะถึงน้องๆครบทุกบาทหรือเปล่าคะ

    ตอบลบ
  8. พี่งจะบริจาคไปเมื่อวันศุกร์นี้เอง 4/10/56 บริจาคเงินผ่านเจ้าหน้าที่ระดมทุน แต่พึ่งเข้ามาอ่านเจอบทความนี้ ถ้าเป็นแบบนี้เราจะยกเลิกได้มั้ยครับเพราะพึ่งจะตกลงบริจาคไป ช่วยแนะนำด้วยครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่ระบุชื่อ19 กรกฎาคม 2562 เวลา 00:42

      ไม่ได้เเล้วครับเงิน บริจาค เเค่ 80% ที่เหลือเป็นค่าคอมพวกเซล ค่าตั้งบูท รับบริจาค ค่าเดินทางอะไรก็ว่าไป

      ลบ
  9. ตามนั้นครับ ผมรอให้เขาเสนอจบแล้วค่อยบอกว่าไม่สนใจ ปฏิกิริยาต่างกันจากตอนเดินเข้ามาหน้ามือเป็นหลังเท้าเลยครับ ผมไม่รู้หรอกว่ามันเป็นยังไง แต่ของดีเขาไม่น่าจะเล่ขายกัน

    ตอบลบ
  10. ไม่ระบุชื่อ12 มีนาคม 2557 เวลา 02:48

    บทความเขียน อ่านเข้าใจยากไป

    ตอบลบ
  11. เรื่องบริจาค ผมมองว่า มันเป็นเรื่องธรรมดานะ
    ถ้าองค์กร ไปโฆษณาออกสื่อ โทรทัศน์ วิทยุ
    สื่ออื่นๆ

    มันยิ่งเสียมากกว่าให้น้องๆ appco เขาทำครับ

    ถามว่า อยู่มาวันหนึ่ง ผมตั่งองค์กรการกุศลขึ้นมา
    แต่ไม่ได้ทำการโฆษณา แล้วองค์กรของผม
    จะมีเงินทุนที่ไหนไปช่วยเหลือล่ะครับ

    แสดงว่าคนเขียนบล๊อค ไม่เคยทำธุรกิจ
    หรือว่าไม่เคยมีส่วนร่วม กับองค์กรการกุศลใดๆ

    อยากให้มองโลกให้กว้างกว่านี้ก็ดีนะครับ

    ตอบลบ
  12. เรื่องบริจาค ผมมองว่า มันเป็นเรื่องธรรมดานะ
    ถ้าองค์กร ไปโฆษณาออกสื่อ โทรทัศน์ วิทยุ
    สื่ออื่นๆ

    มันยิ่งเสียมากกว่าให้น้องๆ appco เขาทำครับ

    ถามว่า อยู่มาวันหนึ่ง ผมตั่งองค์กรการกุศลขึ้นมา
    แต่ไม่ได้ทำการโฆษณา แล้วองค์กรของผม
    จะมีเงินทุนที่ไหนไปช่วยเหลือล่ะครับ

    แสดงว่าคนเขียนบล๊อค ไม่เคยทำธุรกิจ
    หรือว่าไม่เคยมีส่วนร่วม กับองค์กรการกุศลใดๆ

    อยากให้มองโลกให้กว้างกว่านี้ก็ดีนะครับ

    ตอบลบ
  13. ไม่ระบุชื่อ28 พฤษภาคม 2557 เวลา 19:51

    เคยเจอ เดินมาถามว่า ขอสอบถามความเห็นเพื่อการกุศลหน่อยได้ไหม เราได้ยินคำว่าการกุศลเลยเดินไปนั่ง เขาถือสมุด ทำเป็นถาม 2 ข้อ ว่าคิดยังไงกับเด็กด้อยโอกาส พอเราตอบ เขาก็ทำเป็นจดๆ แล้วถามอีกว่า เห็นด้วยไหมที่คนในสังคมต้องช่วยกัน แล้วบอกว่า เสร็จแล้ว ขอให้เราช่วยกรอกรายละเอียดส่วนตัว เราก็กรอกให้ พวก ชื่อ ที่อยู่ ที่ทำงาน เงินเดือน ขอลายเซ็น แล้วก็มาเอะใจว่า ทำไมถามเลขที่บัตรเครดิต เขาก็บอกเราว่า นี่ไง เราได้เข้าโครงการหักบัตรเครดิตเพื่ิอช่วยเด็กแล้ว งงโดนไปปีละ 6 พันบาท เราก็ยินดีที่ได้ช่วยเด็กนะ แต่งง วิธีการ เหมือนหลอกลวงมาก

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. แบบนั้น แจ้งไปทาง call center ที่จะโทรมาถาม ได้เลย
      บอกว่าวิธีการเหมือนหลอกลวง เขาจะได้ปรับปรุงวิธีการได้

      ลบ
  14. ไม่ระบุชื่อ31 สิงหาคม 2557 เวลา 22:17

    ต้องขอชี้แจงก่อนเลยว่า เงินทุกบาทนั้นส่งทางให้unicefจริงๆ ส่วนเงินที่FRได้มาจากรัฐบาลแต่ละประเทศให้ ไม่แปลกที่คนไทยจะคิดแบบนี้ แต่ประเทศอื่นๆทั่วโลกทำระบบแบบนี้ ไม่งั้นก้อจะไม่มีผู้บริจาค และใครละ??ที่จะช่วยเหลือพวกคนที่เดือดร้อน เงินคงไม่ลอยมาหาพวกเขา จริงไหมค่ะ:)

    ตอบลบ
  15. ไม่ระบุชื่อ4 กันยายน 2557 เวลา 00:00

    สรุปอ่านแล้วเหมือนเจ้าของกระทู้ตั้งหัวมู้แรงเกินไปหน่อยนะ ถ้ามองอย่างเป็นกลางจริงเหมือนคนที่มาทำงานพวกนี้เปนคนที่เรื่ยไรให้คนอื่นมาทำบุญซะมากกว่า แต่แค่วิธีการที่เรื่ยไรอาจดูไม่เป็นที่น่าพอใจซักเท่าไร และบวกกับการที่มีเรื่องการหักค่าหัวคิวจากงินทำบุญอีก ซึ่งจริงรึเปล่าไม่รู้ ยังไงก็ดูกันต่อไป

    ตอบลบ
  16. ไม่ระบุชื่อ6 กันยายน 2557 เวลา 12:28

    ผมไม่เข้าใจนะครับว่าถ้าเค้าทำแบบนั้นจริงๆหรือโกงไปแล้วเอาเงินเข้ากระเป๋าตัวเองจริงๆนั้น ทางรัฐบาลหรือทางองกรที่จ้างจะไม่มีการตรวจสอบหรอครับ? แล้วถ้าเค้าทำเรื่องที่ไม่ดีจริงๆทำไมถึงอยู่มาได้ตั้ง7ปี ที่อ่านมารู้สึกจะมีสาขาต่างประเทศเยอะมากนะครับ แล้วก็ถ้าคิดว่าเค้าดูถูกอาชีพพนักงานเงินเดือน แล้วที่พวกคุณพูดกันก็เหมือนดูถูกเค้าแหละครับ ลองคิดดูดีดีนะครับ ว่าเค้าจะสามารถหักเงินได้ยังไงถ้าไม่ให้บัตรเครดิต หรือถ้าให้ไปแล้วจริงๆก็น่าจะสามารถยกเลิกได้นะครับ ส่วนเงินที่ทำไปแล้วถ้าเข้ายูนิเซฟจริงก็คิดไว้ว่าตัวเองเป็นส่วนนึงในการช่วยเหลือสังคมเถอะครับ ผมก็เป็นคนนึงที่ไม่ชอบการหลอกลวง แล้วก้ไม่ได้อยู่ฝั่ง Appco ลองมองดูดีดีมองในแง่ดีบ้างก้ได้นะครับ ผมว่าความเชื่อบางอย่างลองปล่อยมันออกไปแล้วเปิดใจรับด้านอื่นบ้างก็ดีนะครับ

    ตอบลบ
  17. ปรกติพวกนี้ unicef หรือ องค์กรระดมทุนพวกนี้ ตามความจริงต้องหาทุนจากประเทศที่ร่ำรวยหรือประเทศที่เจริญแล้วไปช่วยเหลือประเทศด้อยพัฒนาหรือที่พวกเราได้เรียนมาว่า "โลกที่สาม" ไม่ใช่หรือประเทศเราที่เรียนมาก็โลกที่ สองจุดเจ็ด สองจุดแปดหรือไม่ เห็นว่าประเทศที่เจริญแล้วเค้าว่ากันอย่างนั้นน่ะครับ ดูถูกเราน่ะครับ เคยโดนมาที ทำมาถามโน้นนี่ ตอบไปว่าไม่มีบัตรเครดิตจบเลย ไปหาเงินมาช่วยคนไทยกันดีกว่าครับ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ครับ งั้นถ้าคนไทยเป็นอะไร อย่าเสล่อดากขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศนะครับ เห็นแก่ตัว เคยทำอะไรตอบแทนสังคมบ้างไหม คำถามหน่อย เห็นแก่ตัวมากๆ

      ลบ
    2. ครับ งั้นถ้าคนไทยเป็นอะไร อย่าขอควาามช่วยเหลือจากต่างประเทศนะครับ พวกคนเห็นแก่ตัว จะมีใครอยู่ดีๆ เอาเงินไปช่วยคนอื่นป๊ะ ถ้าไม่มีคนกระตุ้น คิดโง่ๆ เห็นแก่ตัวแบบนี้ไงเลยไม่เจริญ รู้ครับ ว่า appco หักหัวคิว แต่คำถามคือ หักแล้ว โครงการที่ทำอะ มันดีขึ้นไหม แหกตาดูก่อนจะพูดอะไรนะครับ ขอร้อง รู้ว่าหักหัวก็ยังทำอยู่ ช่วยทุกโปรเจค ยอมโง่เพื่อให้บ้านเมืองเจริญ ยังดีกว่าฉลาดไม่ช่วยอะไรสังคม จบนะ

      ลบ
  18. การระดมทุนที่ว่ากันนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของงาน ซึ่งทุกบริษัทต้องทำที่เขาเรียกว่า Corporate Social Responsibility (CSR) ซึ่งแต่ละที่คิดกลยุธนี้ไม่เหมือนกันเพราะมีส่วนที่จะกระทบภาพลักษณ์สินค้าของตนถ้าเดินเกมผิด ดูแล้วที่นี่คงจะใช้กลยุธที่ไม่ต้องลงเงินแต่ได้ผลงานตามที่บังคับจากกฏ เป็นอีกแนวทางเพราะบริษัทไม่มีตัวสินค้าให้คำนึงถึงภาพลักษณ์ จากการดูคร่าวๆงานของที่นี่น่าจะมีสองส่วน 1 การตลาด 2 การจัดการ ส่วนใครสมัครตรงส่วนไหนก็เป็นไปตามสายงานนั้นๆ ยิ่งคนที่มองภาพรวมทั้งหมดไม่ออก (ไม่รู้จบมาได้ไงอินติเกรดไม่เป็น) อย่าทำเลย คิดว่ายังไงก็ไปไม่รอด แต่ถ้าใครเข้าไปแล้ว+มองภาพรวมได้ทะลุ ออกจากงานนี้ไปทำที่อื่นรุ่งแน่ หรือไปทำส่วนตัวก็จะมีมุมมองดีๆติดตัวไป ดูแล้วบริษัทนี้น่าจะเป็นที่ฝึกงานภาคปฏิบัติชั้นแนวหน้าอีกแห่งหนึ่ง ส่วนตัวแก่แล้วก็มองได้เท่านี้แหละ เลยขอแชร์มาเป็นแนวคิดเล็กๆ

    ตอบลบ
  19. จขกท. เคยทำงานที่ appco แล้วโดนไล่ออกมาใช่ไหมครับ เท่าที่ดูแล้ว คนทั่วไปอย่างเราไม่น่ารู้ละเอียดขนาดนี้

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่ระบุชื่อ12 ธันวาคม 2560 เวลา 10:51

      งานนี้มันไม่ไล่คนออกหรอกครับถ้าไม่ขาดงานบ่อยๆอะ มีแต่ออกเองทั้งนั้น แม่งหาแดกกับความสงสารของคน

      ลบ
  20. เพิ่งเจอมาวันนี้อีกครั้ง หล่งก่อนหน้านี้ช่วยสัตว์ไป พอเจออีกเลยขอค้น เจออันนี้ แม้อ่านยาก เขียนเรียบเรียงแปลกๆ แต่ก็เปนประโยชน์ให้รู้ว่ามีบริษัทแบบนี้อยู่ด้วย
    ส่วนเรื่อง CSR อันนี้โครงสร้างมันคือ CSR หรอ ถ้าCSR มันควรเกิดจากนำผลประกอบการมาตอบแทนสังคม ไม่ใช่เรี่ยไรเงินแล้วหักเปอเซนต์หรือรับจ้างเรี่ยไรเป็นหลัก แล้วมาบอกว่าทำCSR

    ตอบลบ
  21. ถ้าCSR มันควรเกิดจากนำผลประกอบการมาตอบแทนสังคม ไม่ใช่เรี่ยไรเงินแล้วหักเปอเซนต์หรือรับจ้างเรี่ยไรเป็นหลัก แล้วมาบอกว่าทำCSR

    ตอบลบ
  22. ไม่ระบุชื่อ9 เมษายน 2558 เวลา 21:11

    เงินที่บริจาคไปจะนำไปช่วยเหลือ 20% ส่วนอีก 80% ที่เหลือ เขาจะทำการหักค่าใช้จ่ายต้นทุนการผลิตสินค้าบ้าง ค่าเช่าพื้นที่ event ในห้างบ้าง และส่วนสุดท้ายก้คือ ค่าว่าจ้างพนักงานค่ะ
    เช่น ถ้าเป็นการซื้อสินค้ามูลค่า 300 บาท เงินช่วยเหลือที่จะไปถึงมูลนิธิ คือ 60 บาท เป็นต้น
    ซึ่งตามหลักความเป็นจริงแล้ว ลองหาข้อมูลของทางมูลนิธิแล้วโอนไปโดยตรงเลยก็ได้ค่ะ

    ตอบลบ
  23. ล่าสุดไปอบรมงานกับ Appco เหมือนโดนล้างสมองดีที่มีผู้ใหญ่แนะและหาขอมูลให้อ่าน พูดดีมากไอ้เราก็เริ่มคิดแล้วว่ามันใช่เหรอ มีแต่คนอายุ20ต้นๆ ส่วนตุวคิดในใจแม่งสงสัยเข้ามาแล้วออกไปเยอะแน่ๆ

    ตอบลบ
  24. ล่าสุดไปอบรมงานกับ Appco เหมือนโดนล้างสมองดีที่มีผู้ใหญ่แนะและหาขอมูลให้อ่าน พูดดีมากไอ้เราก็เริ่มคิดแล้วว่ามันใช่เหรอ มีแต่คนอายุ20ต้นๆ ส่วนตุวคิดในใจแม่งสงสัยเข้ามาแล้วออกไปเยอะแน่ๆ

    ตอบลบ
  25. เรื่องคือมันก็คล้ายๆขายประกันแหละ ข้อดีก็มีอยู่ ข้อติก็เช่นกัน มันมีภาพลักษณ์เชิงลบจากการที่ออกเจอคนเยอะๆเพื่อที่จะคุยขายของซึ่งบางคนก็อาจจะไม่ได้อยากคุยกับเรา แล้วยิ่งถ้าเป็นการกุศลยิ่งละเอียดอ่อน ยูนิเซฟทำการกุศลใหญ่ คำถามคือทำอย่างไรองค์กรสามารถดำรงอยู่ได้เพราะยูนิเซฟเองก็ไม่มีรายได้จากแหล่งไหนเลยแต่รายจ่ายเยอะมาก จะจ้างพนักงานประจำเยอะก็ไม่ได้เพราะทุนมีจำกัด ให้รายได้ต่ำไม่มีแรงจูงใจงานก็ไม่เดินอีก ทำอย่างไรดี สุดท้ายก็เลยไปตกตรงโมเดลของappcoตรงที่หาคนมาระดมทุนให้โดยที่ยอมให้หักหัวคิวบางส่วนออกไป ถือเป็นค่าดำเนินงาน ซึ่งก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับยูนิเซฟเพราะระดมได้เท่าไรก็จ่ายออกไปสัมพันธ์กันไม่เหมือนกับการทำการตลาดหรือการทำประชาสัมพันธ์ช่องทางอื่นที่ไม่สามารถคาดเดาผลรายรับได้และไม่มีความต่อเนื่อง ซึ่งความจริงโมเดลของappcoยังไม่เลวแต่ปัจจัยที่คุมได้ยากที่สุดก็คือ"คน" เพราะว่าคนส่วนมากแล้วจะคิดถึงตัวเองเป็นหลัก สมมติเช่นเจ้าหน้าที่บางคนอาจจะคิดถึงเรื่องเงินมากกว่าภาพลักษณ์องค์กร หรือคนที่เดินผ่านไปมาก็ไม่อยากถูกรบกวน การที่ถูกforceขายมากๆก็พาลเกิดเป็นทัศนะเชิงลบอันส่งผลต่อภาพลักษณ์องค์กรเช่นกัน

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ยูนิเซฟเองเป็นองค์กรเพื่อสังคมที่เน้นความยั่งยืน คือต้องสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเอง มีการบริหารงาน(โครงการต่างๆ) บริหารรายรับ(เงินช่วยเหลือบริจาค) รายจ่าย(ค่าดำเนินงาน)เหมือนกับบริษัทเอกชนทั่วไป เพียงแต่ไม่ได้แสวงหาผลกำไรเข้าตัวเอง เงินที่ได้ก็นำไปทำโครงการช่วยเหลือต่อๆไปเรื่อยๆ มันไม่เหมือนCSRที่วันนี้ขอเงิน ขอใจ ขอแรงช่วยสังคมแล้วทุกคนมาด้วยใจ แบบนั้นมันมีเจตนาที่บริสุทธิ์กว่าแต่ไม่ได้ยั่งยืนเท่าไม่ได้ต่อเนื่องเท่าไม่ได้ครอบคลุมเท่า

      ลบ
  26. อยากเจอกระทู้นี้เร็วกว่านี้ การันตีว่าเจ้าของบล็อคพูดรายละเอียดข้างล่างพูดถูกจริง ละเอียดขนาดนี้คนในองค์กรแน่นอน 55555 เราโดนเป็นขายสินค้า ไม่ใช่บริจาค คิดว่าดีกว่าเยอะ ก็สนุกดีนะแต่โคตรเหนื่อยป.ล.มีอีกหลายบริษัทที่อยู่ในเครือนี้นะ ถ้าไม่อยากทำเช็คดีๆเพราะข้อมูลน้อย ส่วนเรื่องทำบุญเราว่าใครอยากทำไม่คิดไรมาก ทำไปเหอะเพราะถึงเด็กจริงทาง unicef เค้าก็ต้องจ้างคนไป แต่จ้างผ่านบริษัทก็แค่นั้น
    แต่อยากรู้เค้าจะมี base salaryให้ไหมอะ พอดีพึ่งโดนแต่กะหาประสบการณ์

    ตอบลบ
  27. ไม่ระบุชื่อ18 กรกฎาคม 2562 เวลา 23:56

    ผมจะบอกว่า ผม เพิ่งไป ทำมาได้เมื่อกี่วัน สัมภาษไป 2 รอบ เหมือนจะไม่ำด้ เหมือนจะเข้า ยาก เเต่จริงๆเเล้ว มีคนเข้ามาสัมภาษทุกวัน กระทั่งวันที่ ผมเข้าไปทำงาน งันเเรก ก็ยัลมีคนมาสัมภาษ คิดในใจ รับสมัครเยอะไปมั้ย ก็ไม่ได้คิดอะไร วันเเรกไป นั่งฟังเกี่ยวกับระบบ การทำงานทั้งหมด ฟังๆเหมือนลูกโซ่เเต่ไม่ใช่ คล้ายๆขายตรง เเต่ไม่ต้องเสียเงิน หลีงจาก วันเเรกผ่านไป วันที่ 2 เริ่มการขายวันเเรก ให้เราเข้าไปบริษัท ตอนเช้า 8.30น. เพื่อไป กระตุ้นกำลังใจ เเบบที่ข้างบนว่ามาเลย ตรงมากๆ หลังจากนั้น ก็เเยกย้ยไปขายของตามที่ต่างๅเช่น maxvalue bigc lotus อะำรก็ว่าไป ไปตั้งบูท เพื่อเรียกลูหค้ามาซื้อสินค้า เเละเซลคนนั้นก็จะได้ค่าคอมถ้าปิดการขายได้ ***ถ้านึกไม่ออก ก็เวลาคุณเดินตามห้าง เเล้วมีพวก มายื่น กระดาษน้ำหิมให้คุณดม อะครับ **** พอดมเสร็จ ก็จะเรียก จะพยายาม รั้งคุณไว้ เพื่อให้เข้ามาที่บูท เเละพยายามกล่อมคุณ เพื่อให้คุณ ซื้ออะำรก็ได้ เเละจะพยายาม บอดราคาเเพงๆ เเละจบด้วยเรามีโปรโมชั่น ลด 50% จริงๅเเล้วเเบรนพวกนี้ถ้าอยากได้จริงๆ ไปซื้อในเว็บถูกกว่าซื้อผ่าน คนพวกนี้ มันจะโก่งราคาเเละ ลดเยอะๆ จนคุณตกใจเเละเสียดาย (ลดที่ว่า ไม่ได้ลดจน มันขาดทุนนะ คือราคาปลอมมันสูงมาก ราคาจริงมันต่ำกว่านี้) ที่เหลือก็อยู่ที่คุณจะซื้อมั้ย หลังจากที่ คุณฟังหรือ โดนเรียก พวกพนักงานจาก บริษัท APPCO จากตึก เสริมมิตร อโศก ในนาม กลุ่ม Elective mak...ting phen...menon ฯลฯ จะบอกว่า บริษัทไม่ได้หลอกอะไรเลยน้ะ เป็นบริษัทถูกกฎหมายเเต่ ไปทำได้ 2 วัน วันเเรก เเจงรายละเอียด วันที่ 2 ออกไป hit field เเล้วไปยืน ง้อลูกค้าให้ซื้อ ซึ่งต้องคนชิบงานเเบบนี้จริงๆ ถึงจะทำได้ ถ้าทำได้ เเละเก่งจริงๆ คุณจะมีเงินเข้า ทุกอาทิตย์ คนเก่งจริงๆ ที่สามารถขึ้นไปถึงระดับ Team leader หรือ Owner คนพวกนนี้หาเงินได้อาทิตย์ ละ เเสน เรื่องจริง เเต่มาจากการ Hard sale พูดกล่อม คิดถึงเรา เวลาไปเดินห้างมีคนมาง้อหรือยื่นห อะไรมาขายยังรำคาน เเล้วเราเข้าไปทำ รำคานตัวเอง หลังจากวันที่ 2 ก็ไม่ไปอีกเลย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. โดนแบบบนี้เหมือนกันครับ เห้อ

      ลบ
  28. ไม่ระบุชื่อ19 กรกฎาคม 2562 เวลา 02:01

    เเล้วก็อีกอย่าง นึงน้ะครับ จำได้ว่าเราเขาไปทำงานเเรกๆก็จะมีคนสอนงาน สอนทัศนคติเราๆ จะไปเข้าห้องน้ำต้องขออนุญาติ คือ คนละเพศกันน้ะ ต้องเดินตามมารอหน้าห้องน้ำ เเละ พาไปซื้อข้าวกิน มันโอเวอร์เกิน ไม่มาจับอวัยวะเเล้ว ช่วยเยี่ยวไปเลย จบ เเล้วก็ จะบอกว่า บริษัท Appco เป็นบริษัทเเม่ เเละ เมื่อใครทำถึงยอดได้เป็น Owner ก็จะมีสิทธิตั้งบริษัท ลูกในนามของ Owner คนนั้นๆ เเละจะมีชื่อบริษัท ตามนี้ Elective marketing บ้าง Phenomenon บ้าง
    Enterprise บ้าง รับงายขายจาก บริษัทใหญ่ๆ เป็นตัวเเเทนยืนขาย ตั้งบูทเล็กๆ ขาย เเละ รับงานจาก CSR พวก Unicef ไรพวกนี้ เเล้วเเต่ว่า บริษัทลูก จะได้รับโครงการอะไร เเล้วก็ไปยืนขายผลิตภัณท์ นั้นๆ ไม่มีสวัสดิการอะไรเลยน้ะ ประกันสังคม ค่ารักษาพยาบาล หรือ เเม้กระทั้งค่าเเท้กซี่ ที่เราต้องนั่งรถไป ขายของตาม ที่ไกล ต่างทั่ว กทม เสียเงินค่าเดินทางิย่างต่ำวันละหลายร้อย อย่าทำไม่ดี

    ตอบลบ
  29. กรูจะหลอก นัดไป เยส

    ตอบลบ
  30. เเย่ค่ะ

    ตอบลบ