...+

วันเสาร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

"กามสุข และ สุขประณีต"

พระ พุทธเจ้าทรงอุปมาว่า เหมือนกับคนที่เดินมากลางแดด อากาศร้อนคอแห้งหิวกระหายมาก ถ้าหากเจอน้ำเต็มแก้ว มีสีสดใส แม้จะมีคนบอกว่าน้ำนี้มีพิษกินแล้วท ำให้ตายได้ คนที่หิวกระหายไม่ได้กินน้ำมา 2-3 วันแล้ว เขาจะฟังหรือไม่ เขาจะปฏิเสธน้ำแก้วนี้หรือไม่ ถึงอย่างไรเขาก็จะยังกินน้ำแก้วนั้นอยู่ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันอันตราย

ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ก็เพราะเขากระหายน้ำมาก ยังไงก็ขอดับกระหายก่อน ส่วนจะเป็นอันตรายอย่างไรค่อยว่ากั นทีหลัง แต่ตอนนี้ฉันหิวมาก ความรู้สึกหิวมันมีพลัง มันไม่ยอมทำตามความรู้ ความรู้บอกว่าอย่ากินๆ แต่ความรู้สึกบอกว่าไม่ไหว หิวน้ำเหลือเกิน ถึงอย่างไรก็ต้องกินแล้ว

พระพุทธเจ้าทรงอุปมาเรื่องนี้เพื่อชี้ว่า คนเราเข้าหากามก็เพราะโหยหาความสุข แม้จะรู้ว่ากามนี้มีโทษ แต่ถ้าใจยังโหยหาความสุข ก็ต้องเข้าหากามอยู่นั่นเอง ทำนองเดียวกันแม้พระจะสอนว่า บุหรี่หรือเหล้ามีโทษ แต่ตราบใดที่เขายังไม่พบหรือไม่สามารถจะหาความสุขอย่างอื่นได้ เขาก็ต้องพึ่งความสุขจากอบายมุขเหล่านี้

ย้อนกลับไปที่คนเดินกลางแดดที่กำลังหิวน้ำ ถ้าเกิดมีน้ำอยู่ 2 แก้ว แก้วหนึ่งน้ำสีสวยรสอร่อยแต่เจือยาพิษ อีกแก้วหนึ่งเป็นน้ำฝนน้ำบริสุทธิ์ ไม่มีสี ไม่มีรส แต่ว่าไม่อันตราย ถ้ามีน้ำอยู่ ๒ แก้ววางใกล้ ๆ กัน ก็เป็นไปได้ว่าคนที่หิวกระหายจะเลือกกินน้ำแก้วที่ 2 แต่ถ้าไม่มีแก้วที่ 2 ให้เห็นเลย ก็ยากที่จะปฏิเสธน้ำแก้วเดียวที่มีอยู่แม้จะอันตรายก็ตาม ด้วยเหตุนี้พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า

คนเราไม่อาจละกามสุขได้ จนกว่าได้สัมผัสหรือเข้าถึงความสุขที่ประณีตกว่า เป็นความสุขที่ไม่ต้องพึ่งกามหรือเป็นความสุขที่เว้นจากกาม เรียกว่า "เนกขัมมสุข"

พระไพศาล วิสาโล

หมายเหตุ กามสุข ไม่ได้หมายถึง เรื่องเพศเท่านั้น แต่หมายถึงความสุขที่ได้จากการเสพสิ่งต่าง ๆ คือ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น