...+

วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2554

ชาวอุบลฯเดินรณรงค์ต้านโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ จี้ “มาร์ค” เปิดเผยข้อมูลทุกด้าน

อุบลราชธานี- กลุ่มคนไทยไม่เอาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ จ.อุบลราชธานี เดินรณรงค์ให้ข้อมูลผลกระทบสารกัมมันตรังสี ซึ่งใช้เป็นพลังงานเดินเครื่องเตาปฏิกรณ์ผลิตกระแสไฟฟ้า เรียกร้องให้ นายกฯอภิสิทธิ์ สั่งกระทรวงพลังงาน-กฟผ.เปิดเผยข้อมูลทุกด้าน ก่อนให้ประชาชนจังหวัดอุบลราชธานี ตัดสินเลือกอนาคตของตนเอง ไม่ใช่ใช้มติ ครม.ตัดสินเหมือนที่ผ่านมา



วันนี้ (21 ม.ค.) กลุ่มเครือข่ายคนไทยไม่เอาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ จ.อุบลราชธานี ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของภาคประชาชน นักวิชาการ นักศึกษา ประมาณ 500 คน เดินรณรงค์จากหน้าศาลากลางหลังเก่า ไปตามถนนชยางกูร และมาจบที่หน้าศาลากลางหลังใหม่เป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร

การณรงค์ระบุว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีกำลังไฟฟ้าสำรองเกินความต้องการจำนวนมาก พร้อมชี้ให้เห็นภัยของสารกัมมันตรังสี หากเกิดการรั่วไหล จะส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตเหมือนกรณีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชอร์โนบิล ของรัสเซีย เมื่อ 24 ปีก่อน ทำให้พันธุกรรมมนุษย์มีการเปลี่ยนแปลงจนผิดรูปร่าง และมีผลต่อสิ่งแวดล้อมไปทั่วทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือ

พร้อมทั้งเห็นว่า ที่ผ่านมา กระทรวงพลังงาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ให้ข้อมูลด้านดีของการมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เพียงด้านเดียว จึงออกมารณรงค์เผยแพร่ข้อมูลให้คนในจังหวัดรับทราบถึงผลกระทบของโรงไฟฟ้า นิวเคลียร์ พร้อมยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ผ่าน นายสุรพล สายพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ให้รัฐบาลให้ข้อมูลทุกด้านของโรงไฟฟ้า แล้วให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจเลือกจะเอา หรือไม่เอาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ไม่ใช่ใช้มติ ครม.เป็นเครื่องมือตัดสินอนาคตของคนทั้งจังหวัด

หลังยื่นจดหมายเปิดผนึกกับ พ.อ.ปรีดา บุตราช รองผู้ว่าฯฝ่ายทหาร กลุ่มผู้รณรงค์ได้พากันเผาเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์จำลอง บริเวณหน้าที่ทำการอาคารศาลากลางจังหวัด ก่อนพากันสลายตัวไป

ด้าน น.ส.สดใส สร่างโศก ผู้ประสานงานเครือข่ายคนไทยไม่เอาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ จ.อุบลราชธานี กล่าวถึงการรวมตัวของภาคประชาชนครั้งนี้ เพราะเกรงผลกระทบจากการสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ โดยปัจจุบันจังหวัดอุบลราชธานี มีปัญหาโรงไฟฟ้าปากมูลที่รัฐยังแก้ปัญหาไม่ได้ และการมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นเรื่องใหญ่กว่าโรงไฟฟ้าปากมูล จึงต้องการให้ชาวเมืองเป็นผู้ตัดสินอนาคตของตนเอง

การมีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ในจังหวัด จะทำให้เกิดการแย่งน้ำในภาคเกษตรกรรม เพราะโรงไฟฟ้าต้องใช้น้ำในการหล่อเย็นเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์จำนวนมหาศาล รวมทั้งทำให้เกิดการแบ่งฝ่ายระหว่างประชาชนที่สนับสนุนและฝ่ายคัดค้านตามมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น