...+

วันจันทร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2553

ชาลี แชปปลิน-ยอดดาวตลกแห่งศตวรรษ

บรรพต บุศยพรรณ

ชาลี แชปปลิน ได้เขียนอัตชีวประวัติไว้เป็นเล่มหนาถึงกว่า ๕๐๐ หน้า นักนวนิยายหญิงผู้มีชื่อเสียงคนหนึ่ง เมื่อได้ยินข่าวว่า เขากำลังเขียนอัตชีวประวัติอยู่ ก็บอกว่า "ดิฉันหวังว่า คุณคงกล้าพอที่จะเขียนความจริงออกมาให้หมดเปลือก"
ชาลี คิดว่า เธอคงจะหมายถึงเรื่องการเมือง แต่อันที่จริง เธอหมายถึงชีวิตกามารมณ์ของเขา ชาลี แชปปลินเชื่อว่า เรื่องกามารมณ์มีส่วนน้อยมากที่จะทำให้เข้าใจใครคนใดคนหนึ่ง เขาไม่เชื่อเหมือนอย่างที่ฟรอยด์ว่า กามารมณ์เป็นส่วนสำคัญที่สุดในชีวิตมนุษย์ ความหิวและความยากจนน่าจำสำคัญต่อจิตใจของคนคนนั้นมากกว่า

ชาลี แชปปลิน เขียนไว้ว่า
" เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ชีวิตเซ็กซ์ของฉันมันหมุนเวียนเป็นวงกลม ประเดี๋ยวก็คึกคัก ประเดี๋ยวก็ผิดหวัง แต่ไม่ใช่จะน่าสนใจอะไรมากมาย ทางที่จะทำไปสู่เซ็กซ์ต่างหากที่น่าสนใจยิ่งกว่า"
" เกี่ยวกับเรื่องนี้ มีเรื่องประหลาดเกิดขึ้นโดยบังเอิญ ตอนกลับจากนิวยอร์ก และมาพักที่ลอส แองเจลิส ที่โรงแรมอเล็กซานเดรีย ฉันเข้านอนแต่หัวค่ำ เริ่มเปลี่ยนชุดนอน และฮัมเพลงเบาๆ เป็นเพลงที่กำลังฮิตอยู่ในนิวยอร์คตอนนั้น พอหยุดไปเพราะมัวคิดอะไรเพลินอยู่ ก็มีเสียงผู้หญิงในห้องติดๆกันร้องเพลงนั้นต่อ พอเธอหยุด ฉันก็ร้องต่อบ้าง เลยสนุกกันใหญ่ ฉันควรจะทำความรู้จักกับเธอดีไหม? แต่มันออกจะเสี่ยงอยู่หน่อย หน้าตาเธอเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ ฉันผิวปากเพลงนั้นอีกครั้งหนึ่ง ทางโน้นก็ร้องเพลงต่ออีก

"ฮา ฮา สนุกจังแฮะ ! " ชาลี หัวเราะ
เสียงจากห้องติดกันดังออกมาว่า "คุณว่าอะไรนะ?"
เขากระซิบตอบไปทางรูกุญแจว่า "คุณคงจะมาจากนิวยอร์คสินะ"
"ว่าอะไรนะ...ไม่ได้ยิน" เธอว่า
"งั้นก็เปิดประตูซี " ชาลีตอบ
"ฉันจะเปิดนิดๆ คุณอย่าเข้ามานะ"
"ผมให้สัญญา ไม่เข้าไปหรอก"

เธอแง้มประตูประมาณสี่นิ้ว ก ็พอจะเห็นว่า ผู้หญิงผมสีบลอนด์กำลังมองชาลีอยู่ สำหรับเครื่องแต่งตัวของเธอนั้นมองดูเห็นไม่ชัด แต่รู้สึกว่าจะเป้นชุดนอนผ้าไหม
"อย่าเข้ามานะ...ฉันทุบเอาจริงๆด้วย" เธอขู่ เผยให้เห็นฟันขาวอันสวยงามมีเสน่ห์
"สวัสดีครับ" เขากระซิบทักทายเบาๆแล้วแนะนำตัวเอง แต่เธอรู้อยู่แล้วว่าเขาเป็นใคร และรู้ด้วยว่าเขาอยู่ห้องถัดไปจากห้องของเธอ

ต่อมาในคืนนั้น เธอบอกเขาว่า ไม่ว่าในกรณีใดๆทั้งสิ้น ห้ามไม่ให้เขาทักทายเธอในที่สาธารณะ หรือแม้แต่ก้มศีรษะให้ หรือพยักหน้าถ้าบังเอิญเดินสวนกันที่ห้องโถงหน้าโรงแรม
ก็เป็นอันว่า เขาได้รู้จักเธอเพียงเท่านั้นเอง

ภาพยนตร์เรื่องแรกของชาลี แชปปลิน คือ "ชีวิตของหมา" เนื้อเรื่องเป็นแบบประชดประชัน โดยเปรียบเทียบกันระหว่างชีวิตของหมากับชีวิตของคนจรจัด
หลังจากนั้นก็ได้สร้างภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง เขาเคยกล่าวว่า "ผมไม่จำเป็นต้องอ่านหนังสือหรอก เพื่อที่จะรู้ว่าแกนกลางของชีวิตก็คือความขัดแย้งและความเจ็บปวด"

ครั้นแล้วสงครามโลกครั้งแรกก็ระเบิดขึ้น ผู้คนทั่วไปเชื่อกันว่าคงจะไม่ยืดเยื้อเกินไปกว่า ๔ เดือน เพราะการสงครามตามยุทธวิธีสมัยใหม่ คงจะทำให้ล้มตายกันมาก จนคนอยากจะให้มันยุติเสียในเร็ววัน
แต่ผิดถนัด การสู้รบและล้มตายได้ดำเนินไปอย่างทารุณโหดเหี้ยม เป็นเวลานานถึง ๔ ปี
หนังสือพิมพ์บางฉบับได้ตำหนิชาลี แชปปลิน ที่เขาไม่ได้ออกรบในสงคราม แต่ก็มีหนังสือพิมพ์หลายฉบับแก้แทนให้ว่า การแสดงตลกของเขาจำเป้นและมีประโยชน์ยิ่งกว่าการออกไปเป็นทหาร

อยู่มาไม่นาน สงครามก็ยุติลง หนังสือพิมพ์พาดหัวว่า "พระเจ้าไกเซอร์หนีไปฮอลแลนด์แล้ว" และ อีกฉบับหนึ่งลงพิมพ์ด้วยตัวหนังสือตัวโตเต็มหน้าแรกว่า "เซ็นสัญญาสงบศึกกันแล้ว"
ผู้คนต่างก็ดีอกดีใจ โผเข้ากอดจูบกันด้วยความชื่นมื่น ....สันติภาพอันหอมหวานได้มาถึงแล้ว นี่คือ ความสุขของมนุษย์อย่างไม่ต้องสงสัย ..จะได้เลิกรบ และลงมือทำมาหากินกันเสียที

ที่มา ต่วยตูน ปักษ์แรก เดือนธันวาคม ๒๕๔๐ ปีที่ ๒๗ ฉบับที่ ๗

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น