...+

วันศุกร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2553

ทุกคนอยากจิตใจสงบ

ทุกคนอยากจิตใจสงบ
แต่ก็ปล่อยใจคิดฟุ้งซ่าน
เมื่อปล่อยใจคิดฟุ้งซ่านจนพล่านเกินระงับ
จึงค่อยมาถามหาวิธีทำความสงบ
อยากมีสมาธิ อยากมีช่วงเว้นวรรคจากพายุความฟุ้งบ้าง


ทุกคนอยากมีกำลังใจดี
แต่ก็หาคนช่วยทางกายและเรียกร้องการเอาใจจากคนอื่น
ไม่ฝึกเป็นที่พึ่งให้ตนเอง เมื่ออ่อนแอปวกเปียกมากเข้า
จึงค่อยมาถามหาวิธีทำใจให้เข้มแข็ง
อยากลุกขึ้นได้ด้วยตนเอง อยากเป็นความอบอุ่นให้ตนเองได้


ทุกคนอยากมีร่างกายแข็งแรง
แต่ก็ขี้เกียจออกกำลังกาย
เมื่อร่างกายอ่อนแอ
จึงค่อยมาถามหาหยูกยาบำรุงร่างกาย
อยากกระดูกแข็ง อยากภูมิคุ้มกันโรคสูง


ทุกคนอยากมีสุขภาพสมบูรณ์
แต่ก็ไม่รู้จักกินนอนพักผ่อนและเว้นห่างสุรายาสูบ
เมื่อกายปรากฏเหมือนรังโรคที่สายเกินเยียวยา
จึงค่อยถามหาวิธีกินอยู่ให้เหมาะ
อยากหายใจปลอดโปร่ง อยากขับถ่ายสะดวกดี


ทุกคนอยากได้มิ่งมิตร
แต่ก็ไหลตามอารมณ์โกรธ เกลียด และอิจฉาริษยา
ยากจะมีแก่ใจให้อภัย ไม่ฝึกที่จะพลอยยินดีกับผู้อื่น
เมื่อจิตใจเร่าร้อนเกินทน จึงค่อยมาถามหาวิธีแผ่เมตตา
อยากมีความเยือกเย็น อยากเว้นวรรคจากการรบกับศัตรู


ทุกคนอยากได้ความปลอดภัย
แต่ก็สร้างความเจ็บใจให้ชาวบ้านเป็นนิสัย
เมื่อมองไปทางไหนมีแต่คนอยากทวงแค้นเอาคืน
จึงค่อยมาถามหาวิธีเจรจาหย่าศึก
อยากเลิกวิ่งเต้นคดีความ อยากไปไหนมาไหนไม่ต้องระวังตัวแจ


ทุกคนอยากได้เงินทอง
แต่ก็จับจ่ายใช้สอยสนุกมือ
โดยไม่รู้จักทำงานด้วยความขยันและหมั่นเก็บ
เมื่อตกที่นั่งลำบาก จึงต้องมาถามหาวิธีกู้หนี้ยืมเงิน
อยากชำระหนี้ให้หมด อยากมีเงินไหลมาเทมาไม่ขาดสาย


ทุกคนอยากได้ความมั่นคงในชีวิต
แต่ก็หมั่นสร้างความไม่แน่นอนต่างๆนานาให้ชีวิต
เดี๋ยวผัดวันประกันพรุ่ง เดี๋ยวเล่นไม่ซื่อกับใครต่อใคร
เมื่อชีวิตยุ่งเหยิงใกล้ล้มเหลวรำไร จึงค่อยมาถามหาวิธีสร้างตัว
อยากให้ชีวิตมั่นคง อยากเบาใจสบายตัว


ทุกคนอยากได้คู่ครองดีๆ
แต่ก็ตามใจตนเองในการเหลียวซ้ายแลขวาไม่หยุดหย่อน
เมื่อเป็นคนหลายใจเพราะห้ามใจไม่ได้
จึงค่อยมาถามหาวิธีตัดใจเพื่อให้เหลือใจเดียว
อยากหยุดกระวนกระวาย อยากแก่ตายบนตักของคู่แท้


ทุกคนอยากได้ลูกที่มีความกตัญญูกตเวที
แต่ก็ไม่ค่อยมีเวลาให้ความอบอุ่นแก่ลูกๆ
เมื่อลูกโตขึ้นกลายเป็นคนไม่รู้จักบุญคุณใคร
จึงค่อยมาถามหาวิธีสั่งสอนลูกให้รู้คุณตน
อยากฝากผีฝากไข้ อยากให้ลูกหันมาเหลียวแลบ้าง


ทุกคนอยากได้ชาติหน้าเป็นสุคติภูมิ
แต่ก็ไม่เคยเห็นค่าของการให้ทานรักษาศีล
เมื่อใกล้ขาดใจตายไปกับความทรงจำแย่ๆในชีวิต
จึงค่อยมาร้องหาพระอรหันต์คุ้มภัย
อยากเกาะผ้าเหลืองไปสวรรค์ อยากได้แสงสว่างสาดถึงจิต


ทุกคนอยากมีความสุข
แต่ก็ไม่รู้ตัวว่าทุกวันสั่งสมเหตุแห่งความทุกข์
เมื่อกายใจอึดอัด
จึงค่อยมาโอดครวญชวนเวทนา
อยากขอความเห็นใจ อยากให้วาสนาฟ้าดินปรานี


เมื่อรู้จักเหตุแห่งสุข
ว่าอยู่ที่วิธีคิดสละออก
อยู่ที่วิธีเลือกคำพูดอันไม่เป็นที่ระคายโสต
และอยู่ที่วิธีลงมือทำโลกนี้ให้ดีขึ้น
แม้ไม่อยากมีความสุขก็จะเป็นสุขสนุกนาน


แต่ถ้าไม่ละเหตุแห่งทุกข์
ซึ่งก็คือวิธีคิดเห็นแก่ตัว
คือวิธีพูดด้วยคำที่คนเกลียดชัง
และคือวิธีลงมือทำโลกนี้ให้แย่ลง
แม้อยากหายทุกข์ก็จะต้องทนทุกข์ร่ำไป


ดังตฤณ
ธันวาคม ๕๒

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น