การฝึกพลังลมปราณเป็นวิธีประสานพลังของร่างกายและจิตใจเข้าไว้ด้วยกัน เพื่อสร้างสมดุลภายในร่างกายและขจัดโรคภัยที่มีอยู่ การฝึกพลังลมปราณโดยใช้หลักการหายใจ และการเคลื่อนไหวช้าๆ เป็นท่าพื้นฐานสำหรับคนที่จะเรียนวิชาเพลงดาบและเพลงมวยในวัดเส้าหลิน โดยมีการสืบทอดและนำมาสอนในมหาวิทยาลัยพลศึกษาแห่งมณฑลเหลียวหนิง ก่อนจะเข้ามาเผยแพร่ในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2542
โดยพลังลมปราณเป็นศาสตร์ที่กระทรวงสาธารณสุขยอมรับว่าเป็นสาขาหนึ่งในการบำบัดรักษาด้วยธรรมชาติบำบัดเพื่อฟื้นฟูสุขภาพ
ขั้นตอนการฝึก
1. ยืนตัวตรง ปลายเท้าห่างเล็กน้อย สะบัดมือ 2-3 ครั้ง หายใจเข้าลึกๆ แล้วหายใจออกทางปาก 3 ครั้ง
2. กางแขนขึ้นช้าๆ จนถึงระดับไหล่ ยืดอก หายใจเข้า-ออกลึกๆ 3 ครั้ง
3. หงายฝ่ามือช้าๆ แล้วยกแขนทั้งสองข้างขึ้นขนานกันเหนือศีรษะ หายใจเข้า-ออกลึกๆ 3 ครั้ง
4. ค่อยๆ งอข้อศอกลงมา ปลายนิ้วมือจรดกันเหนือศีรษะ หายใจเข้า-ออกลึกๆ 3 ครั้ง
5. หงายฝ่ามือขึ้นช้าๆ จินตนาการว่ากำลังแบกของหนัก แล้วพยายามดันฝ่ามือขึ้นจนสุด
6. ก้มตัวลง ค่อยๆ ลดแขนลง พยายามให้ปลายนิ้วจรดปลายเท้า แล้วเคลื่อนแขนไปด้านหลังช้าๆ ค้างไว้ประมาณ 5 วินาที จึงเคลื่อนแขนกลับ กลับสู่ท่ายืนตรง แขนแนบลำตัว หายใจเข้า-ออกลึกๆ 3 ครั้ง
7. ค่อยๆ ย่อตัวลงนั่งยองๆ มือสองข้างโอบเข่า หายใจเต็มพุง 3 ครั้ง คลายมือออกแล้วยืนขึ้นช้าๆ แขนทั้งสองแนบข้างลำตัว แล้วเริ่มทำรอบใหม่ตั้งแต่ข้อที่ 2 ประมาณ 10 รอบ
ทั้ง 7 ท่านี้เป็นหนึ่งในชุดท่าฝึกพลังลมปราณที่เหมาะสำหรับผู้หญิงและเด็ก เมื่อฝึกได้สัก ระยะจะช่วยให้หลับสบาย ลดอาการปวดศีรษะหรือแก้เครียดได้ดี และแก้หิวได้ด้วย ตามปรัชญาจีนที่กล่าวไว้ว่า เสพลมปราณเลี้ยงชีพ และหากฝึกเป็นประจำจะช่วยป้องกันโรคหวัด ภูมิแพ้ และเสริมระบบไหลเวียนโลหิตในร่าง
ขอบคุณ นิตยสาร Health & Cui
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น