...+

วันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ยุคใหม่...แผ่นดินไทยจะเป็นแผ่นดินทอง

โดย สิริอัญญา 16 สิงหาคม 2552 13:36 น.
คำว่า "โลกาภิวัตน์"
ที่ประดิษฐ์คิดขึ้นใช้เรียกขานยุคสมัยในปลายศตวรรษที่แล้วที่โลกทุนนิยม
กำลังแผ่ขยายครอบคลุมไปทั่วโลก จนเกิดเป็นกระแสใหญ่ไร้ผู้ต่อต้าน
และผลาญล้างทุกสิ่งอย่างทั่วสากลโลก กำลังจะดับสูญแล้ว

การล่มสลายของระบบเศรษฐกิจสหรัฐฯ และหลายประเทศในยุโรป
ภายใต้ระบบทุนนิยม ซึ่งเนื้อแท้มีปัญหาที่แก้ไขไม่ตก
ภายใต้วิกฤตทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุด
คือสัญญาณแห่งการล่มสลายของยุคโลกาภิวัตน์

มัน เป็นยุคสมัยและมันเป็นระบบที่กินและทำลายตัวเองโดยที่ไม่อาจแก้ไขได้
เพราะชีวิตเลือดเนื้อของมันคือกำไร
ที่ต้องเพิ่มกำไรขึ้นอย่างไม่หยุดยั้งและไม่มีที่สิ้นสุด
โดยได้บ่มเพาะความเห็นแก่ตัวและความเบียดเบียนไว้ในระดับที่สูงขึ้นอย่างไม่
หยุดยั้งเช่นเดียวกัน

กำไรก็คือส่วนเกินจากการลงทุนที่ได้มาจากคนอื่น
ยิ่งมากเท่าใดคนอื่นก็ยิ่งเสียมากเท่านั้น
มันจึงเป็นการตั้งต้นของการเอารัดเอาเปรียบ
ของการเบียดเบียนกันและบ่มเลี้ยงจนกลายเป็นยักษ์มารแห่งยุคสมัยที่ไม่มีอะไร
ต้านทานมันได้ แต่ในที่สุดมันก็ต้องทำลายตัวเอง

เพราะเมื่อพัฒนาการไปถึงขั้นหนึ่ง
ผู้ที่เสียก็ไม่สามารถเสียต่อไปได้ ผู้ที่ได้ก็ไม่สามารถได้มาอีกแล้ว
ดังนั้นชีวิตเลือดเนื้อของทุนนิยมจึงไม่มีเลือดเนื้อใหม่มาหล่อเลี้ยง
ประดุจดั่งกองไฟที่เติบใหญ่ขึ้นก็เผาผลาญฟืนจนไม่มีฟืนที่จะมาให้เผาผลาญอีก
แล้ว กองเพลิงนั้นก็ต้องดับลงฉันใด ยุคสมัยแห่งทุนนิยมก็ฉันนั้น

ทว่าผลิตผลอันสามานย์ของระบบทุนนิยมและยุคโลกาภิวัตน์ที่บ่มเพาะและ
สร้างขึ้นแก่โลกมนุษย์และมนุษยชาติก็คือการบริโภคที่ขยายตัวเติบใหญ่
จนกระทั่งธรรมชาติปกติไม่สามารถตอบสนองการบริโภคได้ทัน
แม้จะใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างไรเข้าเอื้อหนุนก็ไม่ทัน
ท่วงที

มิ หนำซ้ำ
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่คิดค้นขึ้นก็มีผลข้างเคียงตามกฎแห่งธรรมชาติที่
ได้อย่างก็ต้องเสียอย่าง และที่เสียนั้นก็คือการทำลายล้างโลกธรรมชาติ
รวมทั้งชีวิตอันสงบสันติของมนุษย์ด้วย

ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่แล้ว โลกเริ่มขาดแคลนอาหารและน้ำ
กระทั่งเกิดปัญหาอากาศที่เต็มไปด้วยมลภาวะที่เป็นพิษ
และมีความร้อนขึ้นสูง จนกระทั่งทำลายสภาพธรรมชาติของพิภพนี้
จนใกล้ที่จะถึงภาวะน้ำแข็งละลายกลายเป็นน้ำท่วมโลกอีกครั้งหนึ่ง

การแย่งชิงอาหารและน้ำ
การประดิษฐ์คิดค้นเพื่อดำรงรักษาอากาศไม่ให้เป็นพิษ
หรือเป็นอันตรายแก่มนุษย์
ได้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางตั้งแต่ปลายศตวรรษที่แล้วและต่อเนื่องมาจนถึง
ศตวรรษนี้ มันจะยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งตามกฎการพัฒนาของสรรพสิ่ง

ดัง นั้นเมื่อยุคสมัยของทุนนิยมและยุคโลกาภิวัตน์กำลังจะดับสิ้นลง
ก็ได้ปรากฏแสงเรืองรองของยุคสมัยใหม่ให้ได้เห็นชัดขึ้นและชัดขึ้น
นั่นคือยุคสมัยแห่งความต้องการอาหารและน้ำ
ซึ่งกำลังขาดแคลนและไม่เพียงพอมากขึ้นทุกที
ยุคสมัยที่จะเกิดการแย่งชิงอาหารและน้ำจึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
อีกแล้ว

สุวรรณปฐพีอันเป็นแดนเกิดของชนชาติไทยเรานี้มีความอุดมสมบูรณ์มาแต่
โบราณกาล มันได้มาเพราะปรีชาญาณและความกล้าหาญเสียสละของบรรพบุรุษไทย
ที่เลือกสรรดินแดนแห่งนี้และพิทักษ์รักษาไว้ให้ตกทอดมาถึงรุ่นเราท่าน

ทว่ายามที่กระแสลมแห่งยุคสมัยกำลังผันแปรเช่นนี้
บรรดาชาติทั้งหลายที่เล็งเห็นอันตรายซึ่งกำลังก่อตัวขึ้นคือยุคสมัยแห่งการ
แย่งชิงอาหารและน้ำ
จึงพากันแสวงหาทางออกเพื่อความอยู่รอดของประชาชาติของตน

ดัง นั้นประเทศไทยจึงเป็นที่หมายปองของชนเหล่านั้นและนี่คือเหตุผลต้นปลายว่า
ทำไมชนต่างชาติจึงพากันมากวาดกว้านซื้อหาที่นาไทยและแผ่นดินไทย
ไม่ใช่อื่นใดหากเป็นไปเพื่อรองรับกับความเรียกร้องต้องการด้านอาหารและน้ำ
ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงอนาคตนั่นเอง

ขณะนี้อย่างน้อยในพื้นที่ 5 จังหวัด คือสุพรรณบุรี เชียงราย
พระนครศรีอยุธยา นครนายก และลพบุรี
ได้ถูกต่างชาติเข้ากว้านซื้อเอาที่ดินไปเป็นจำนวนมากมายมหาศาล

มันเริ่มต้นขึ้นจากการที่นักการเมืองใหญ่คนหนึ่งซึ่งไม่เคยคิดถึง
แผ่นดินไทยและคนไทย คิดเห็นแต่กำไรและประโยชน์ตน
ไปชักลากพาเอาชาวอาหรับเข้ามากว้านซื้อที่นาที่สุพรรณบุรีเป็นแห่งแรก
จากนั้นก็ค่อยขยายไปในพื้นที่อีกหลายจังหวัด

ต่างชาติซื้อแผ่นดิน แต่คนไทยขายแผ่นดิน กำลังเกิดเป็นปัญหาใหญ่
และกำลังเป็นภยันตรายอันใหญ่หลวงทั้งปัจจุบันและอนาคตของประเทศไทยและคนไทย

คำ ขวัญวันแม่ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ทรงพระราชทานในปีนี้มุ่งให้รักษาแผ่นดินเกิดที่บรรพบุรุษพลีชีพก่นสร้างและ
รักษาไว้ให้คนไทยรุ่นเราท่านได้กระตุ้นเตือนสำนึกให้กับคนไทยทั่วประเทศที่
จะต้องรักษาแผ่นดินนี้ไว้ให้ลูกหลานสืบไป

และพึงสังเกตด้วยว่าในระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมานี้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานกระแสพระราชดำรัสเน้นให้เห็นความ
สำคัญของข้าว ทรงทำนุบำรุงและทรงทำแบบอย่างในเรื่องข้าวให้แก่อาณาประชาราษฎรทั้งปวง

นั่นคือพระปรีชาญาณและอนาคตังสญาณที่ทรงเห็นเหตุการณ์แม้ยังไม่เกิด
ขึ้นในขณะนั้น และวันนี้เหตุการณ์ที่ทรงเห็นก่อนใครก็ได้เริ่มปรากฏความจริงให้คนไทยทั่ว
ทั้งประเทศได้เห็นตามแล้ว

ดัง นั้นจึงถึงเวลาที่เพื่อนผองพี่น้องไทยทั่วประเทศจะต้องตื่นตัวทั่วพร้อม
ลุกขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกันเพื่อปกปักรักษาแผ่นดินถิ่นเกิดของเราไว้ไม่
ให้ใครมากวาดกว้านแย่งชิงเอาไปเพื่อประโยชน์ของคนชาติอื่น

การที่คนต่างด้าวเขามากว้านซื้อที่นาไม่ว่าจะซื้อในนามตนเองหรือจะ
ให้คนอื่นถือกรรมสิทธิ์แทน
หรือจะตั้งบริษัทถือกรรมสิทธิ์แทนนั้นเป็นการผิดกฎหมายที่ร้ายแรงและไม่อาจ
ปล่อยปละละเลยเพิกเฉยได้เป็นอันขาด

โดย วิถีทางแห่งกฎหมายรัฐสามารถยึดเอาที่ดินเหล่านั้นกลับคืนมาเป็นของรัฐ
แล้วนำเอาไปแจกจ่ายแก่ประชาราษฎรได้โดยชอบ
ทั้งต้องดำเนินคดีอาญาอย่างเฉียบขาดกับคนต่างด้าวที่กระทำผิดกฎหมาย
ตลอดไปถึงคนไทยที่ขายชาติขายแผ่นดิน
สมรู้ร่วมคิดหรือยอมถือกรรมสิทธิ์แทนเพื่อประโยชน์ของคนต่างด้าวนั้น

ทว่าจะหวังพึ่งแต่รัฐเพียงฝ่ายเดียวเห็นจะไม่เป็นการ
ชะดีชะร้ายแผ่นดินไทยจะสูญหายไปหมดสิ้น
ดังนั้นจึงต้องถือเป็นหน้าที่ของราษฎรทั้งปวงที่จะต้องร่วมกันปกป้องแผ่นดิน
ร่วมกันตรวจสอบสอดส่องดูแลว่าแผ่นดินตารางนิ้วไหนที่ต่างชาติเข้ามายึดครอง
ในลักษณะนั้น แล้วร่วมกันดำเนินการให้รัฐยึดกลับคืนมาเป็นของรัฐ
แล้วจัดสรรปันแบ่งแก่คนไทย
รวมทั้งให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในทางอาญาอย่างเฉียบขาดด้วย

ประเทศไทยผลิตข้าวส่งออกมากที่สุดมาแต่ครั้งประวัติศาสตร์
แต่คนไทยกลับทำลายผืนแผ่นดินด้วยการใช้ปุ๋ยเคมี
ครั้นถึงวันนี้ความตื่นตัวในการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ได้เกิดขึ้นแล้ว
การทำร้ายพระแม่ธรณีกำลังจะสิ้นสุดลงแล้ว
การทำนุบำรุงพระแม่ธรณีกำลังเกิดขึ้นแล้ว

พระแม่ธรณีที่ไม่ป่วยไข้ ที่แข็งแรง และอุดม
ย่อมให้ผลิตผลคือข้าวกล้าอาหารที่อุดมสมบูรณ์แก่ประชาชาติไทย
ดังนั้นจงมาพร้อมใจกันทำนุบำรุงพระแม่ธรณี ทำนุบำรุงพระแม่โพสพ
เพื่อความอุดมสมบูรณ์แห่งแผ่นดินไทยอย่างพร้อมเพรียงกันเถิด

ใน วันแม่ปีนี้สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
ทรงพระราชทานพระราชกระแสให้สร้างปะการังเทียมตลอดแนวฝั่งทะเลไทย
เป็นเหตุให้รัฐบาลได้ตื่นตัวรับพระราชเสาวนีย์ใส่เกล้าฯ
มาเริ่มปฏิบัติแล้ว นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นแก่ปวงชนชาวไทย

ประเทศไทยมีสองฝั่งทะเลที่ยาวเหยียดไม่แพ้ชาติใดในโลก
แต่เพราะการประมงแผนใหม่ที่ทำลายสิ้นทั้งปูปลา
จึงทำให้อาหารจากทะเลไทยค่อยๆ
หมดหายไปจนต้องไปล่าปลาปูไกลออกไปถึงอินโดนีเซียและอาฟริกา

พระเจ้าอยู่หัวทรงริเริ่มการสร้างปะการังเทียมขึ้นในฝั่งทะเลภาคใต้
ทำให้ปูปลาที่หายไปกลับฟื้นคืนมาอีกครั้งหนึ่ง
เป็นต้นแบบอันเลิศในการบำรุงธรรมชาติ
ให้ธรรมชาติผลิตอาหารหล่อเลี้ยงคนไทย
และเมื่อใดที่รัฐบาลรวมทั้งประชาชนได้ร่วมกันสนองพระราชเสาวนีย์นี้อย่าง
พร้อมเพรียงกันแล้ว "ในน้ำมีปลา"
ก็จะฟื้นคืนสู่ราชอาณาจักรนี้ให้คนไทยได้กินไม่สิ้นเลย

แม้ กาลเวลาจะล่วงพ้นไป
พระชนม์วัยของทั้งสองพระองค์ได้ผ่านวันเวลามานาน
แต่กระนั้นก็ยังทุ่มเทน้ำพระราชหฤทัยที่ห่วงใยและรักราษฎรไม่เคยเปลี่ยนแปลง
ทรงชี้ทางจัดวางทั้งแผ่นดินและแผ่นน้ำให้เป็นแหล่งหล่อเลี้ยงอาหารแก่คนไทย
ไปอีกนานเท่านาน สามารถอยู่ในกาลสมัยยุคใหม่ได้อย่างร่มเย็นเป็นสุข

ขอจงทรงพระเจริญ ขอจงทรงพระเจริญ ขอจงทรงพระเจริญ.


http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9520000093022

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น