...+

วันเสาร์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2551

รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ผิดอะไร ทำไมต้องมี ส.ส.ร.3

โดย ศรีสุวรรณ จรรยา 23 ตุลาคม 2551 17:49 น.


การที่รัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พยายามดื้อดึงที่จะอยู่ในอำนาจต่อหลังจากที่กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ สรุปผลการสอบสวนชี้ชัดว่า รัฐบาล-รัฐตำรวจ สุมหัวกันวางแผนใช้อาวุธสลายการชุมนุมเข่นฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ใช้สิทธ ิในการชุมนุมต่อต้านรัฐบาลตามรัฐธรรมนูญ เพื่อเปิดทางให้รัฐบาลเข้าไปแถลงนโยบายในรัฐสภาเพื่อสร้างความชอบธรรมบนคราบ เลือดของประชาชนในวันที่ 7 ต.ค. 2551 ที่ผ่านมาว่าจะต้องทำงานสำคัญๆ ของชาติที่รออยู่เร่งด่วน 3 ประการ คือ งานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ งานประชุมสุดยอดอาเซียนที่มีไทยเป็นเจ้าภาพในเดือนธันวาคมนี้ในฐานะที่ไทยดำ รงตำแหน่งประธานอาเซียน และงานแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 โดยการผลักดันให้มี “ส.ส.ร.3” ขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่ดังกล่าวเสียก่อน
      
       โดยให้เหตุผลในการแก้ไขว่า เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองของไทยประสบปัญหาความขัดแย้งแบ่งแยกเป็นฝักเป็น ฝ่าย และมีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้นจนถึงใช้กำลังเข้าปะทะ ซึ่งอาจมีการสูญเสียชีวิต และเลือดเนื้อได้นับเป็นภยันตรายใหญ่หลวงต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอัน มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ระบบ เศรษฐกิจ ความสงบเรียบร้อยในสังคมและความมั่นคงของประเทศ
      
       นอกจากนี้ยังกล่าวหาอีกว่ารัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ยังมีหลักการหลายประการที่ยังไม่สอดคล้องกับหลักประชาธิปไตย จึงสมควรจัดให้มีวิธีการจัดทำรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ทั้งฉบับ โดยมี ส.ส.ร. ประกอบด้วยภาคประชาชน จากหลากหลายอาชีพเป็นองค์กรในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญเพื่อปรับปรุงโครงสร้าง ทางการเมืองขึ้นมาใหม่ และยังเปิดโอกาสให้ประชาชนมีการอนุมัติรัฐธรรมนูญโดยการออกเสียงประชามติด้ว ย ทั้งนี้ โดยยังรักษาการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตล อดไป จึงจำเป็นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญนี้เสียใหม่
      
       ด้วยข้ออ้างดังกล่าวรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาล ส.ส.และ ส.ว.บางส่วนที่เห็นชอบด้วย จึงมีความพยายามอย่างลุกลี้ลุกลนที่จะต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ให้จงได้ เพราะต่างมองว่ารัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 เป็นตัวปัญหา ในขณะที่ไม่เคยมองดูพฤติกรรมของตนเองเลยว่า “คือตัวปัญหา” ที่แท้จริง หาใช่รัฐธรรมนูญไม่
      
       เหตุผลข้างต้นจึงต้องย้อนกลับไปถามรัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาล สมาชิกสภาผู้แทนและสมาชิกวุฒิสภาบางส่วนที่เห็นชอบกับแนวทางดังกล่าวว่า “รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ผิดอะไร” หรือว่ารัฐธรรมนูญ...
      
       - ผิดเพราะให้สิทธิประชาชนชุมนุมกันได้โดยสงบและปราศจากอาวุธ มากเกินไป
      
       - ผิดเพราะให้สิทธิประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมือง การปกครอง และนโยบายแห่งรัฐ มากเกินไป
      
       - ผิดเพราะไปห้ามนักการเมืองซื้อเสียง จนหัวคะแนนทำงานลำบาก ใช้เงินซื้อเสียงยาก มากเกินไป
      
       - ผิดเพราะไปกำหนดให้ยุบพรรคการเมืองที่ซื้อเสียงเข้าสภา จนพรรคตนเองต้องถูกยุบ ง่ายเกินไป
      
       - ผิดเพราะหัวหน้าพรรคหรือกรรมการบริหารพรรคที่ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ต้องถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมากเกินไป
      
       - ผิดเพราะให้อำนาจองค์การอิสระมากเกินไป จนไม่สามารถครอบงำได้
      
       - ผิดเพราะไปให้อำนาจสถาบันตุลาการในการคัดเลือกคนดีๆ เข้ามาทำหน้าที่ในองค์การอิสระ มากเกินไป
      
       - ผิดเพราะให้สิทธิประชาชนในการเข้าชื่อถอดถอน นักการเมืองเขี้ยวลากดินที่ทำผิดกฎหมาย หรือคอรัปชั่น มากเกินไป
      
       - ผิดเพราะให้สิทธิประชาชนเสนอกฎหมายได้ โดยข้ามหัวผู้แทนประชาชนมากเกินไป
      
       - ผิดเพราะไปกำหนดห้ามเครือญาติในครอบครัวนักการเมือง เข้ามาดำรงตำแหน่งทางการเมืองเหมือนกันไม่ได้มากเกินไป
      
       - ผิดเพราะไปกำหนดให้สมาชิกวุฒิสภาต้องเป็นกลาง และเมื่อสิ้นสุดสภาพจะไปเป็นรัฐมนตรีต่อไม่ได้ มากเกินไป
      
       - ผิดเพราะไปกำหนดให้ความเป็นรัฐมนตรีต้องสิ้นสุดลงเพราะต้องคำพิพากษา แม้คดีนั้นจะไม่ถึงที่สุดหรือมีการรอการลงโทษมากเกินไป
      
       - ผิดเพราะไปกำหนดให้มีศาลอาญาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองศาลเดี ยว ไม่สามารถอุทธรณ์ ฎีกา เพื่อซื้อเวลาอยู่ในอำนาจต่อได้ มากเกินไป
      
       - ผิดเพราะไปกำหนดให้มีการห้ามการกระทำที่เป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ส่วนตัวของนักการเมือง มากเกินไป
      
       - ผิดเพราะไปกำหนดให้การกระทำของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ ถูกกฎหมายมากเกินไป
      
       - ผิดเพราะให้สิทธิประชาชนปกป้องทรัพยากร สิ่งแวดล้อม และสุขภาพของตนเอง จากโครงการหรือกิจกรรมขนาดใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านมากเกินไป
      
       - ผิดเพราะ ฯลฯ (อีกเยอะแยะมากมายเกินสาธยาย...)
      
       ความผิดของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 เหล่านี้นี่เอง คงเป็นเหตุให้นักการเมืองทั้งหลายไม่ชอบ จึงพาลหาเรื่องที่จะแก้ไข โดยอ้างว่าไม่เป็นประชาธิปไตยข้างต้น โดยหวังเพียงเพื่อให้ตนเองเข้าสู่อำนาจ และใช้อำนาจได้ทุกวิถีทางโดยไม่ต้องให้ใครมาจับผิด จะโยกย้ายถ่ายเทงบประมาณแผ่นดินที่มาจากภาษีประชาชนอย่างไรก็ได้ จะเอาพรรคพวกเพื่อนฝูง พวกพ้อง บริวารว่านเครือเข้ามาประมูลงาน รับงานจากรัฐไปทำอย่างไรก็ได้ จะคอร์รัปชัน โกงบ้านกินเมืองอย่างไรก็ได้ จะซื้อสิทธิซื้อเสียงเข้ามาในสภาฯ แล้วอ้างว่ามาจากเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนอย่างไรก็ได้ จะโยกย้ายข้าราชการที่ไม่ประจบ สอพลออย่างไรก็ได้ จะตั้งงบประมาณถ่ายเทเข้าไปเฉพาะจังหวัดของตน แล้วให้เครือญาติประมูลรับงานฝ่ายเดียวอย่างไรก็ได้ จะอยู่ในอำนาจทางการเมืองเพื่อทำธุรกิจ ทำมาหากินกับตำแหน่งทางการเมืองตั้งแต่รุ่นทวด รุ่นปู่ รุ่นพ่อ ไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลานเหลนโหลน ทั้ง 9 ชั่วโครต เพราะเชื่อว่าคนอื่นๆ ตระกูลอื่นๆ ไม่มีใคร เสียสละเข้ามาทำงานทางการเมือง ปกป้องชาติ รักชาติ รักแผ่นดินได้ดีเท่าตระกูลและเครือญาติของตน
      
       เพราะตำแหน่งทางการเมืองเท่านั้นที่จะทำให้ผู้แทนจนๆ นักธุรกิจจนๆ ที่วันแรกที่เข้าสภาฯ ได้ที่เคยต้องนั่งแท็กซี่ ขึ้นรถเมล์ หรือยืมรถคนอื่นมาขับเข้าสภาฯ จากคนที่มีเงิน มีทรัพย์สินไม่กี่บาท กลายเป็นผู้แทนผู้ทรงเกียรติ มีทรัพย์สินบ้าน คฤหาสน์ รถยนต์คันโต เงินร้อยล้านพันล้าน ได้ภายในไม่กี่ปี (แต่ต้องอ้างว่าเสียสละเข้ามาทำงานเพื่อรับใช้ประเทศชาติและประชาชน) แต่สิ่งเหล่านี้จะมีไม่ได้ ถ้ารัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ยังคงใช้ได้อยู่ เพราะมันเป็นขวากหนามและอุปสรรคสำคัญต่อการใช้อำนาจของเหล่ารัฐบาล รัฐมนตรี ส.ส. และ ส.ว.บางส่วนไป ดังนั้นต้องเร่งรีบแก้ไข โดยหาข้ออ้างที่พูดออกไปแล้วประชาชนคนไทยที่ฉลาดน้อยๆ (ที่เคลิบเคลิ้มไปกับนโยบายซื้อเสียงล่วงหน้า) จะได้เชื่อว่ารัฐธรรมนูญนั้นเป็นปัญหาจริงๆ จึงต้องเสียสละมารีบแก้ไขให้
      
       รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 แม้ไม่ใช่รัฐธรรมนูญที่ดีที่สุดในโลก หรือในประเทศไทย แต่การบัญญัติมาตราต่างๆ ที่มีเนื้อหาครอบคลุมไว้แทบจะทุกอย่าง เพื่อป้องกันนักการเมืองที่นำการเมืองมาแสวงหาอำนาจและผลประโยชน์ จะได้ถูกตรวจสอบและถูกลงโทษได้อย่างรวดเร็ว อย่างเป็นธรรม และเสมอภาค บนพื้นฐานของการมีส่วนร่วมของประชาชนในฐานะเจ้าของประเทศนี้อย่างแท้จริง และการที่พยายามกล่าวอ้างว่ารัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 เป็นปัญหา ก็น่าที่จะเป็นปัญหาก็เฉพาะในฝ่ายตัวนักการเมืองด้วยกันเองต่างหาก หาใช่ปัญหาหรือประโยชน์โดยภาพรวมของประเทศไม่ เพราะผู้จัดทำที่เป็น ส.ส.ร.2 นั้น ก็ถือได้ว่าเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย เป็นครูบาอาจารย์ ผู้รู้จากแวดวงการเมือง นักนิติศาสตร์ นักรัฐศาสตร์ ผู้แทนอาชีพต่างๆ ไม่ต่างอะไรกับ ส.ส.ร.1 (ถ้าไม่ยึดติดกับการได้มา) หรือ ส.ส.ร.3 ที่พยายามจะผลักดันให้มีกันนี้ ซึ่งประกอบด้วย สมาชิกไม่เกิน 120 คน จากจังหวัดละ 1 คน รวมทั้งหมด 76 คน จากการเลือกตั้งกันเองของอาจารย์ในมหาวิทยาลัย24 คน จำแนก คือ ผู้เชี่ยวชาญสาขากฎหมายมหาชน จำนวน 8 คน ด้านผู้เชี่ยวชาญรัฐศาสตร์ หรือรัฐประศาสนศาสตร์ จำนวน 8 คน ผู้มีประสบการณ์ด้านบริหาร จำนวน 8 คน และ มาจากการเลือกตั้งกันเองของผู้แทนองค์กรวิชาชีพต่างๆ ที่มีฐานะเป็นนิติบุคคลอีก 20 คน
      
       ค งไม่มีใครในโลกไม่ปฏิเสธว่ารัฐธรรมนูญเมื่อมีแล้ว ปฏิบัติใช้แล้ว เมื่อพบปัญหาก็สามารถแก้ไขได้ แต่การที่รัฐบาลและพวกพ้องบริวาร พยายามหาเหตุอ้างเชิงลบมาเพื่อขอแก้ไขโดยใช้หนังหน้าไฟ ส.ส.ร. 3 นั้น ไม่น่าที่จะชอบด้วยเหตุผล เพราะรัฐธรรมนูญประกาศใช้มาได้แค่ปีกว่าๆ และสามารถแสดงอิทธิฤทธิ์ทำให้นักการเมืองที่ไม่พึงปรารถนาของสังคมหลายคน ต้องถูกจับผิด ถูกจับได้ไล่ทัน และถูกลงโทษได้ ก็น่าจะเป็นคุณูปการของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ที่จะสร้างกรอบทางการเมืองใหม่ให้สังคมไทยได้ใช้เป็นแนวปฏิบัติ เพื่อสร้างความผาสุก ความเจริญมั่นคงของชาติต่อไปได้ ส่วนความขัดแย้งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของผลประโยชน์ส่วนตัวกันของนักการเมือ งและพวกพ้อง หาใช่เป็นปัญหาที่มาจากรัฐธรรมนูญไม่...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น