...+

วันพุธที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2550

คนกลางแดด


เช้าแล้วนิทรา
ลืมตาตื่นฝันรับวันใหม่
ดาวจะลาอุษาจะยิ้มแย้มอุทัย
น้ำค้างใสหยาดเม็ดร่วงเกล็ดพราวฯ


นางฟ้าเอาสายรุ้งมาตากรุ้ง
ที่โคนคุ้งขอบหล้า ก่อนฟ้าขาว
ราตรีจะเก็บอัจกลับดาว
กลับคืนห้องหาวก่อนอรุณฯ


ไก่แก้วแว่วมาว่าจวนสาย
ดอกบานเช้า ระเหยหายใกล้วายกรุ่น
ตลาดจะวายถนนจะชุลมุน
อาทิตย์กำลังอุ่นละมุนละไมฯ


วังเวงเหง่งหง่างระฆังแก้ว
เช้าแล้วบิณฑบาตเฉลิมสมัย
หุงข้าวหอมตักบาตรสะอาดใจ
รับขวัญวันใหม่ให้พลังฯ


แดดแจ่มตรู่เติบขึ้นเต็มฟ้า
เฝ้าก้มหน้าสู้ดินไม่สิ้นหวัง
สายตัวเกลียวเอ็นเป็นกำลัง
เก็บแดดไว้เต็มหลังทั้งทิวาฯ


คือชีวิตคนงานผู้กร้าน แกร่ง
หยาดแรงจึงเห็นงานตระการค่า
งามหยาดเหงื่อพราวของชาวนา
น่าบูชาราวบุรุษอัศจรรย์ฯ


กรำแดด แผดเผาได้เพลาพัก
ได้น้ำสักขันหนึ่งซึ้งใจนั่น
เห็นรวงทองก่องประกายหายเหนื่อยพลัน
นี่แหละทุ่งนาสวรรค์ ของคนดินฯ


ลมไล้ใบข้าวเหมือนสาวน้อย
อ่อนช้อยร่ายรำฉ่ำใจถวิล
หอมข้าวเบาดั่งสาวอบร่ำประทิน
เติม ชีวินให้ชาวนาคุณานันต์ฯ


แดดรอนอ่อนชายบ่ายคล้อย
เหงื่อย้อยหยาดเค็มเต็มหน้านั้น
เมื่อแดดแดงแรงก็รอน อ่อนปานกัน
ล้ากายแต่ใจพลันกลับบรรเทาฯ


พลบค่ำร่ำไรฟ้าใกล้มืด
ลมวืดหวิวไหวพาใจเหงา
ยิ้มหนึ่งจุด เจื่อนเปื้อนบางเบา
บอกว่าเพลาผ่อนคลายหายอาการฯ


ค่ำแล้วทิวา..
หลับตาเติมฝันเหมือนวันก่อน
เนตร ดาวตากดวงดอกอัมพร
จงพักผ่อนเอาแรงมุ่งเพื่อพรุ่งนี้ ฯฯฯ


,พระไม้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น