แนวคิดการสอนธรรมะแบบเข้มข้นที่จะเปลี่ยนจริตของคนได้

เราให้ของเล่นแก่ญาติโยมมาเยอะแล้ว
ชาวพุทธยังคงงมงายกับพระพุทธรูป วัตถุมงคลมากไปหน่อย
จะเอาของจริง สัมผัสของจริงบ้างได้ไหม
เข้าให้ถึงเนื้อแท้กันบ้างได้ไหม

รายการธรรมาภิวัฒน์ ซึ่งออกอากาศทาง ASTV News 1 ทุกวันอาทิตย์ ที่ ท่าน ว.วชิรเมธี เป็นการให้ความรู้ทางธรรมะในแบบเข้มข้น
ไม่ใช่ธรรมะสบายๆ แต่ไม่ได้แนวคิดที่จะเปลี่ยนจริตใดๆได้

เดิม พระสอนโยมผิดๆ ครูก็สอนหลานผิดๆ
ที่จริงควรจะเน้นการพึ่งตนเอง
ควรจะมีความเพียรให้ถึงที่สุด
มิใช่ขาดความมั่นใจ ต้องไขว่คว้าหาจตุคามรามเทพ
หวังให้วัตถุมงคล ดลบันดาลประทานพรเท่านั้นเอง

ในทางพุทธศาสนา ยังเผยแพร่ในแบบสบายเกินไป
ในแบบที่กระทบกระเทือนกับผู้ใหญ่ ไม่กล้าพูด
จะทำให้พุทธศาสนาอยู่ในรูปพิธีกรรมเป็นหลัก
จะเป็น ไสยพาณิชย์ (การค้าขายความเชื่อทางไสยศาสตร์)
เกินจากระดับ พุทธพาณิชย์ขึ้นไปอีก

เมื่อไหร่ที่เราจะเห็นพระที่สอนอย่างตรงไปตรงมา ไม่เลี้ยงไข้ญาติโยม
ควรให้ความจริง ที่ทำให้คนไทยคิดได้ ฉลาดขึ้น
อย่างเช่นรายการธรรมาภิวัฒน์ได้พยายามนำเสนอเนื้อหาเหล่านี้ออกมา


หลักการง่ายๆ 4 อย่างในการดำรงชีวิตที่จะทำให้เราไม่เดือดร้อน
1. มีเพียงพอ
2. ไม่ขอใครกิน
3. หาเงินด้วยความสุจริต
4. ส่วนที่เหลือเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่คนอื่นๆ

ท่าน ตินัช ฮันท์ และ ดาไลลามะ ไม่มีวัตถุมงคล มีแต่ธรรมะ
ก็ได้รับความเชื่อถือ ศรัทธามากมาย โดยไม่ต้องแจกวัตถุมงคลแต่อย่างใด

ศูนย์กลางพุทธศาสนาของโลกอยู่ที่ใจ ไม่ใช่อยู่ที่คน
รู้หรือไม่ ชาวอังกฤษ พิมพ์พระไตรปิฎกก่อนใครๆ

ถ้าเรายังไม่รู้ตัวว่าสภาพทางสังคม การเมือง สภาวะทางศาสนาและจิตวิญญาณของคนไทยเราที่แท้จริงเป็นอย่างไร
คนไทยเราในอนาคตคงจะลำบากมากๆ
ทำให้ชาวต่างชาติหลายคน บินข้ามไทยไปติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน จีน เวียดนาม ที่เข้าใจตัวเองมากกว่าคนไทย


คนไทยเหมือนไก่ได้พลอย
เพราะต่างชาติบางส่วนหันมาศึกษาพุทธศาสนาอย่างจริงจัง
ในวันหนึ่งข้างหน้า คนต่างชาติจะเข้าถึงหลักธรรมะได้มากกว่าคนไทย
ในขณะที่คนไทย เข้าถึงแต่วัตถุมงคลเท่านั้น

สนิมเกิดจากเนื้อในตน ดังนั้นการแก้ปัญหาก็ต้องเริ่มแก้ไขจากตนเอง
เพียงเชื่อในหลักเหตุผล เชื่อในสติปัญญา จะสามารถแก้ไขปัญหาสังคมได้ ไม่ใช่แก่ปัญหาไปวันๆเท่านั้น

อ.วุฒิพงษ์ เพรียบจริยวัฒน์ เป็นหนึ่งในผู้ร่วมดำเนินรายการธรรมาภิวัฒน์ด้วย