++

...+

Theขี้ฝุ่นริมทาง

วันพุธที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2548

เชียงดาว


บนเนินแห่งลาดภู นั่นดูเหมาะ
หากเพียงมั่นหมั่นเพาะจะปั้นฝัน
จะ ประดิดดาวปวงแห่งรวงพรรณ
จะทอดวงดอกฝันแห่งดาวพราย


แต่นี่ยังเป็นฤดูเก็บเกี่ยว
แรงเรี่ยวยังเกลื่อนอยู่หลากสาย
ในหุบดอยข้าว ยังรวมอยู่เรียงราย
กลิ่นฟางข้าวยังเกลื่อนขจายในย้อมลม


ไว้ให้ลมหนาวอ่อนเลือนลงเสียก่อน
แล้วจะหลั่งซ้อนสิ่งหวังอันสะสม
จะ หลั่งจิตหลอมใจเลิงระรม
จะระดมเผ่าพงศ์แห่งรักรวม


จะรวม,จะสร้าง,จะประกาศ
จะยืนมั่นดั่งมาดแห่งใจร่วม
จะรัก-จะช่วยกันหนึ่ง รวม
จะดูเด่นเป็นจุดร่วมแห่งเนินดอย


ฯลฯ


ด้วยรักด้วยใจจึงแต่งรัก
ด้วยหลักด้วยใยดั่งไหมสอย
ด้วยเนื้อดั่งผ้าแห่ง ไหมปอย
ทอถักรักร้อยแห่งเชียงดาว


แต่งดาวอวดดาวแห่งดาวเวียง
แต่งเรื่องจะบอกเรียงพิสุทธิ์ขาว
จะบอกโลกว่าโลกจะคู่กับเชียง ดาว
ฉัตรชั้นจึ่งวาพราวแห่งเจดีย์


ยี่สิบห้ายอด, ยี่สิบห้าเจดีย์แห่งเงินฉัตร
เอี่ยมงามเทียบทัดประกายสี
ยี่สิบห้าทอฉัตรรุ้งวิจิตรมี
อาบใจแห่งความดีทุกหัวใจ


ฯลฯ


ตราบด้วยใจมีใจใยวิจิตร
ดั่งใจดาวนิรมิต-กว่าเนียนไหม
รอบเจดีย์ทุกด้านเจดีย์ ไป
คือรอยแทนความอ่อนไหวละเอียดงาม

ฯลฯ


ลมหนาวแผ่วหนาวยังดูเด่น
โลมใจใจยังเต้นยังซาบ หวาม
ลมหนาวแผ่วหอมยังโลมลาม
โลมใจยังถามถวิลอาวรณ์


ดูใดเชียงดาวจะถามดาว
ก่อนเก่ายินข่าวลึกลึกซ่อน
ดูใดเชียง ดาวมาเซาะรอน
มาบีบรัดกัดกร่อนแห่งหัวใจ


ดูใดเชียงดาวมากลายกลับ
ดูใดมาดูดซับอันมาใหม่
ดูใดมาเก่าร้างคล้ำเศร้าไป
ดู ใดมากลบรักแห่งความดี


ฯลฯ


บนเนินแห่งลาดดอยยังดูเหมาะ
แต่น้ำใดไหลเซาะมาปร่านี่
ไยเลือนแลพร่าเกินไป เจดีย์
ไยฉัตรหักรัศมีมาเกรอะไคล


ไยยี่สิบห้ายอดเจดีย์มาหดเห็น
หักด้วนเพียงเป็นครึ่สมัย
ไยสีน้ำตาลฉาบคราบด่างทุกด่านไป
และฉัตรเงินยังเอียงอยู่ได้ไม่ครบดาว


ฯลฯล


ลมหนาวโลมหนาวยังลามเด่น
ลามใจใจยังเต้นแต่เหน็บหนาว
หนาวหุบห่ม ดอยประดังราว-
หนาวสั่นนารวงข้าวทุกลอมรวง


ลมหนาวเพียงมาแล้วพัดผ่าน
ลืมใดตระการเคยห่วงหวง
ลมหนาวเพียงมาเพื่อชม ปวง
ฤาเพื่อโลมดอกไม้ดวงเพียงแค่นั้น


ฯลฯ


ธัช ธาดา


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น