...+

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เมื่อเก็บกระเป๋าเงินริมถนนย่านใจกลางเมืองได้ คุณจะทำอย่างไรดี ?

เมื่อเก็บกระเป๋าเงิน ริมถนนในย่านใจกลางเมืองได้ คุณจะทำอย่างไรดี ?

เมื่อเห็นกระเป๋าเงิน หล่นบนทางเท้า ในย่านใจกลางเมือง เป็นบริเวณที่มีคนขึ้น ลง รถโดยสารสองแถวในย่านนั้น คุณจะทำอย่างไร

1. ถ้าไม่มีใครเห็น กูก็เก็บสิ ลาภลอยแล้ว ได้เงินใช้ฟรีว่ะ

2.ธุระไม่ใช่ ไม่ใช่ของเรา รีบไปทำธุระของตัวเองดีกว่า เสียเวลา

3. บอกคนที่อยู่บริเวณนั้น ว่า กระเป๋าเงินตก ใครรู้ใครเห็นว่า เจ้าของเป็นใครบ้างนะ

4. เก็บกระเป๋า เอาไปแจ้งตำรวจ ให้ประกาศหาเจ้าของ

เคยมีคนทำการสำรวจ , มีการตั้งกล้องแอบถ่าย ดูพฤติกรรมของคนไทยว่ามีน้ำใจสักแค่ไหน ก็มีทั้ง ไม่สนใจ, เก็บเอากระเป๋า และจะเอาเงินในนั้น และมีที่เป็นพลเมืองดี เอากระเป๋าไปแจ้งตำรวจประกาศหาเจ้าของ

มีเยอะเหมือนกัน ที่เก็บกระเป๋า รื้อเอาเงิน แล้วทิ้งกระเป๋าไว้ เดี๋ยวนี้เงินทองหายาก คนเห็นแก่ตัวมากขึ้น ถ้าได้ของฟรี ได้เงินมาฟรีๆ ใครจะไม่เอา

มีบางคน ที่มีจิตใจที่ดี อยากจะเก็บกระเป๋าไปประกาศหาเจ้าของ แต่เพื่อนที่มาด้วยกันบอกว่า เสียเวลาว่ะ เดี๋ยวก็มีคนเอาไปช่วยประกาศหาเจ้าของเอง แล้วก็จูงมือพาเพื่อนรีบไปทำสิ่งที่ตั้งใจจะไปทำ

เวลาที่ดูข่าว พลเมืองดี เก็บกระเป๋าเงินคืนเจ้าของ มีภาพข่าว ยกย่องคนทำความดี ได้ชื่อเสียง คำชื่นชม ยกย่องมากมาย .. นักเรียนโรงเรียนนั้น เก็บกระเป็นเงิน มีเงินสด หลานพัน หลายหมื่น อยู่ในกระเป๋า เป็นข่าวให้สื่อมาทำข่าว แล้วเจ้าของกระเป๋าและพลเมืองดี มายืนถ่ายรูปร่วมกัน บางสื่อ ได้ไปสัมภาษณ์ครูผู้สอน หรือ ผอ.โรงเรียนแห่งนั้น ได้หน้ากันทั้งโรงเรียน ได้ทั้งชื่อเสียงเลยทีเดียว

ยิ่งในกระเป๋านั้น มีจำนวนเงินสด มากเท่าไหร่ ยิ่งถูกยกย่อง เชิดชูมากขึ้นเท่านั้น

ถ้ามีคนเก็บกระเป๋าที่มีเงินสดในนั้น แสนกว่าบาท กับ คนที่เก็บกระเป๋าที่มีเงิน หลักร้อย หลักพันกว่าบาท สื่อจะพุ่งความสนใจไปที่คนที่เก็บกระเป๋าที่มีเงินแสนกว่าบาท มากกว่า ...

การทำดี คนทำ ไม่ได้คิดหวัง ผลประโยชน์อยู่แล้ว แต่คนที่เกี่ยวข้อง บางครั้ง ก็หวังผลประโยชน์ จากชื่อเสียงและหน้าตาจากผลของการทำความดีนั้น

ทุกคน ไม่มีใครอยากเสียผลประโยชน์ ไม่อยากสูญเสียอะไรทั้งนั้น เจ้าของกระเป๋าเงิน ที่เผลอทำกระเป๋าตกหล่น ก็เช่นกัน เค้าไม่อยากจะทำกระเป๋าตกหรอก แต่เพราะความเร่งรีบ การเก็บกระเป๋าไว้ในที่ที่มันหล่นง่ายๆ กว่าจะรู้ตัวอีกที ก็หากระเป๋าไม่เจอซะแล้ว คราวนี้ ก็วัดดวง ว่า จะได้กระเป๋าคืนรึเปล่า

จะโชคดี เจอพลเมืองดี เก็บกระเป๋าของตัวเองไปแจ้งตำรวจรึเปล่า

ถ้าคิดแบบใจเขาใจเรา เงินที่มีในกระเป๋า ก็คงเตรียมไว้เพื่อใช้จ่าย กับอะไรสักอย่าง

กระเป๋าที่หล่นบนริมถนน คนที่จะมาเดินถนน ย่อมเป็นคนที่มีฐานะปานกลาง จนถึงยากจนข้นแค้น ... ส่วนพวกเศรษฐี คุณหนูไฮโซ ร่ำๆรวยๆ มีเงินใช้เป็นฟ่อน ไม่ขาดมือ ไม่ค่อยจะมาเดินบนนริมถนนแบบสามัญชนคนทั่วไปหรอกนะ เมื่อเค้าร่ำรวยขนาดนั้น ชีวิตเลือกความสะดวกสบายได้ นั่งรถที่สะดวกสบาน แพงๆ จะต้องมาเดินริมถนนทำไมให้ยุ่งยากลำบากกายาล่ะ

คนที่ทำกระเป๋าเงินตก ก็มีแต่ คนธรรมดา ดินเดินกินข้าวแกงนี่ล่ะ

เอาล่ะ ไม่ว่า คุณจะเก็บกระเป๋าเงินที่หล่นบนถนนรึเปล่า แต่นั่น เป็นโอกาสที่ทำให้ คุณได้เป็น "พลเมืองดี" มีโอกาสที่จะได้รับการยกย่อง ได้รับการขอบคุณ และมีโอกาสได้ออกสื่อ เพิ่มชื่อเสียง การยอมรับในสังคมของคุณได้ด้วยนะ และยังเป็นการทำบุญ สร้างความสุข ความโล่งใจให้กับคนที่ทำกระเป๋าเงินหายอีกด้วย

แต่ถ้าคุณเก็บกระเป๋าเงินแล้ว เอาเงินทั้งหมดไป แล้วทิ้งกระเป๋าไว้ คุณกำลังทำให้เจ้าของกระเป๋าเดือดร้อน เป็นทุกข์ อย่างมาก ถ้าเงินในกระเป๋านั่น เขากำลังจะเอาไปจ่ายค่ากับข้าว ไปจ่ายหนี้ หรือเอาไปใช้อะไรสักอย่าง กว่าจะหาเงินมาได้ ก็ลำบากมากพอแรงแล้ว แล้วยังซวย เผลอทำกระเป๋าหาย แล้วยังโดนคุณขโมยเงินเอาไปอีก... แม้คุณจะสบายใจ ที่ได้เงินมาฟรีๆ ส่วนกระเป๋าเงิน คุณก็โยนมันทิ้งไป ไม่แยแส

แต่กฎแห่งกรรม มีจริง คุณเคยทำอะไรกับใครไว้ วันนึง ผลนั้น จะย้อนกลับมาเกิดกับคุณ

หากวันนึงข้างหน้า คุณทำกระเป๋าเงินของตัวเอง หล่นโดยไม่รู้ตัว หรือ รีบ..จนลืมกระเป๋าเงินวางไว้ที่ไหนซักแห่ง กว่าจะนึกได้ กระเป๋าก็หายไปจากที่นั่นแล้ว ..

วันนั้นล่ะ คุณจะรู้ซึ้งถึงความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น ถึงตอนนั้น คุณคงจะรู้ซึ้งว่า เจ้าของกระเป๋า ก็ไม่อยากให้กระเป๋าเงินหาย อยากจะใช้เงินทุกบาท ทุกสตางค์ที่หามาได้ เอาไปจ่ายสิ่งต่างๆ ตามที่ตั้งใจ หรือ ครบกำหนดเวลาที่จะต้องจ่ายเงินนั้น..

แต่สมัยนี้ พูด หรือเขียนไปก็เท่านั้น คนส่วนใหญ๋ ไม่ได้รู้สึก รู้ซึ้งอะไรนักหนาหรอก ความเห็นแก่ตัว ความโลภ มันนบดบังคุณธรรม เมตตาธรรมในใจไปหมดแล้ว

ทุกคนคงต้องพึ่งตัวเอง คอยดูแล ตรวจสอบว่า กระเป๋าตังยังอยู่มั้ย อย่าเผลอเรอ ทำให้ตัวเองเดือดร้อน จากการขี้ลืม จากความพลั้งเผลอของตัวเองเลยนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น