...+

วันอาทิตย์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เรื่องนี้พี่จะไม่ยุ่ง

#เรื่องนี้พี่จะไม่ยุ่ง

แฮชแท็ก ประโยคหนึง่ที่เห็นในโซเชียลมีเดีย "เรื่องนี้พี่จะไม่ยุ่ง" ฟังดูเป็นคำพูดของวัยโจ๋ วัยรุ่น แต่ถ้าเอามาคิดดีๆ มันก็มีความหมาย สาระดีๆที่เติมเต็มชีวิตเราได้เช่นกัน

เมื่อใคร โพสต์ บ่น เรื่องอะไรลงในโซเชียลมีเดีย บรรดาเพื่อนๆ จะเข้ามาแสดงความคิดเห็น ทั้งๆที่มันไม่ได้เกี่ยวกับชีวิตตัวเองเลย แต่เข้ามาเม้น เพราะเพื่อน โพสต์ ขอให้ได้พูดได้เม้นบ้างสิ

หลายครังที่เรื่องเล็กๆ กลายเป็นเรื่องที่ขยายใหญ่โต ออกไปเรื่อยๆ เพราะมีคนมายุ่ง มาแสดงความคิดเห็น วิจารณ์กันไปตามอารมณ์ความรู้สึกส่วนตัว ถ้าคอมเม้นต์นั้น ขัดกับอารมณ์ ความรู้สึกส่วนตัวของใครคนไหนเข้า ก็จะเกิดการทะเลาะ เถียงกันผ่านหน้าเพจนั้น เถียงกันไปเถียงกันมา คอมเม้น ยาวเป็นหางว่าว คนที่คิดเห็นไปในทางเดียวกัน ก็จะเข้ามาช่วยเม้น ด่าคนที่คิดต่างออกไป เม้นกันไป เม้นกันมา จนเกิดอาการดราม่า จากประเด็นเดียว แตกเป็นหลายประเด็น ทะเลาะทุ่มเถียงกัน วุ่นวายไปหมด....

เมื่อมีแฮชแท็ก #เรื่องนี้พี่จะไม่ยุ่ง
ประโยคนี้ อาจจะขัดหูขัดตาหลายคน ที่อยากได้แนวร่วม คนสนับสนุน แต่มีคนๆนึง มาแฮชแทกแบบนี้ อ้าว แบบนี้ ถือว่า ไม่เห็นด้วยกับเรา เป็นคนละฝ่ายกับเราแล้วสิ.. แล้วก็เริ่มเม้นด่าคนนั้นซะเลย ถ้าคนที่ใส่แฮชแทก ไม่สนใจ ไม่เล่นด้วย เร่องก็จะค่อยๆเงียบไป เพราะคนที่เม้าด่า ก็จะไปด่าคนที่กำลังทะเลาะกันอยู่ แต่ถ้าหันไปสนใจ หรือตอบโต ก็จะมีคู่ทะเลาะกันเพิ่มขึ้นอีกคู่ล่ะ

เรื่องนี้พี่จะไม่ยุ่ง ถ้ามองในมุมของธรรมะ มันก็คือ หลักธรรมอุเบกขา คือ การวางเฉยนั่นเอง

บางที การทำความดี ก็คือ การไม่สร้างกรรมเพิ่มนั่นเอง ทุกวันนี้ มีสิ่งที่ยั่วยุอารมณ์ ความรู้สึก ให้ออกมาวิจารณ์ ทะเลาะเบาะแว้งกันมากมาย การวางเฉย ก็ต้องตั้งสติ และมีปัญญาในการวางอุเบกขาเช่นกัน ถ้าหากไปยุ่งกับทุกๆเรื่อง เราก็จะต้องปวดหัว แบกปัญหาไปทุกๆเรื่อง ยุ่งไปทุกๆเรื่อง แล้วแบบนี้ จะหาความสงบได้จากที่ไหนกันล่ะ

อุเบกขา ในวันนี้ คุณสามารถที่จะวางเฉยกับเรื่องบางเรื่องได้มั้ย ไม่งั้ย จะเป็นการเข้าไปยุ่งกับทุกๆเรื่อง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น