...+

วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

...แรงบันดาลใจของ เจ็ท ลี จากซูเปอร์สตาร์ มาเป็นพระโพธิสัตว์

Lek Saowaros
...แรงบันดาลใจของ เจ็ท ลี จากซูเปอร์สตาร์ มาเป็นพระโพธิสัตว์ ก็เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่เขาพบบนเกาะมัลดีฟส์นี่ เอง ที่คลื่นยักษ์สึนามิกลืนทุกสิ่งทุกอย่างไปหมด

ด้วยสัญชาตญาณแห่งการเอาตัวรอด เจ็ท ลี รีบหนีขึ้นฝั่งสุดชีวิตพร้อมกับภรรยาและลูกๆ แต่พอรู้สึกตัวอีกครั้งหนึ่ง เขาได้พบความจริงว่า ลูกและภรรยาที่เขาทั้งอุ้มทั้งจูงขึ้นฝั่งนั้นหลุดไปจากมือทั้งสองข้างของ เขา และตัวเขาเองก็ลอยไปติดอยู่ที่ต้นไม้ต้นหนึ่ง มองไม่เห็นลูก มองไม่เห็นภรรยา แล้วก็หมดสติไป ตื่นมาอีกครั้ง เขาเดินเป็นบ้าเป็นหลังอยู่ตามชายหาด คลื่นสึนามิถอยกลับไปที่ใต้น้ำ เขามองเห็นความตายเกลื่อนหาดไปหมด

ขณะที่เขาร้องห่มร้องไห้เหมือนจะเป็นบ้าจะเป็นหลังอยู่นั้น ก็มีชาวบ้านสองสามคนอุ้มลูกสองคนและก็จูงภรรยาเขามา “คุณ ลูกคุณใช่ไหม” เจ็ท ลี หันไปมอง วิ่งไปกอด พ่อ แม่ ลูก โถมกอดกันกลม ร้องห่มร้องไห้ ดีใจที่ผ่านนาทีชีวิตมา อยู่รอดปลอดภัยกันตรงนี้ เมื่อเสียงร้องไห้ด้วยความดีอกดีใจสิ้นสุดลงแล้ว เขาหันไปมองผู้ที่นำภรรยาและลูกมาส่ง หายไปไหนก็ไม่รู้ เดินตามหาจนทั่วชายหาดก็ไม่เจอ ถามใครก็ไม่มีคนเห็น

เขาทรุดลงนั่งในสภาพเปียกมะลอกมะแลก แล้วถามตัวเองว่า ไหนล่ะพระเอกตัวจริง เขาแสดงภาพยนตร์มาสี่สิบปีของชีวิต ทุกเรื่องเขาฝันอย่างเดียวว่า ต้องเป็นที่หนึ่ง ต้องเป็นฮีโร่ แล้วพอเกิดเรื่องขึ้นมาจริงๆ ฮีโร่ในหนังคนนั้นไม่สามารถช่วยได้แม้กระทั่งเมียและลูกสุดที่รักของตัวเอง อย่าว่าแต่ลูกและเมียเลย ตัวเองก็ช่วยตัวเองไม่ได้ เขานั่งแล้วก็ร้องไห้อยู่ตรงนั้น ท่ามกลางความมึนงงสงสัยของลูกและภรรยา

เขาใช้เวลาตามหาคนที่ช่วยเหลือครอบครัวเขาไม่พบ กลับมาถึงบ้านเกิด เจ็ทลีนั่งถามตัวเองอยู่อีกครึ่งปี เขาถามว่า การเป็นพระเอกในหนังแทบไม่ได้ช่วยอะไร นอกจากช่วยให้ตัวเขาเองมีชื่อเสียงฟุ้งกระจายไปทั่วโลก และก็ได้เป็นพระเอกอย่างดีก็แค่บนแผ่นฟิล์ม

ครึ่งปีที่หยุดการแสดงไปนั้น เขาได้บทสรุปว่า คนที่ช่วยเขา แท้ที่จริงไม่ใช่คนมีชื่อเสียง ไม่ใช่คนดัง ไม่ใช่ผู้มีอำนาจ แต่เป็นคนเล็กคนน้อย คือชาวบ้านธรรมดาๆ สามัญที่สุดนี่แหละ ชาวบ้านธรรมดาๆ สามัญที่สุด แต่มีใจอันประเสริฐเลิศล้ำที่ช่วยเสร็จแล้วไม่รับแม้แต่คำขอบคุณ คนเช่นนั้นต่างหากคือพระเอกตัวจริง

เพื่อที่จะแสดงความขอบคุณชาวบ้านกลุ่มนั้นเขาต้องทำอะไรสักอย่าง ในที่สุดจึงตัดสินใจตั้งมูลนิธิ Jet Li One Foundation หรือมูลนิธิหนึ่งหยวน เพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลชาวโลกมาจนทุกวันนี้ ปัจจุบัน เจ็ท ลี เล่นหนังเป็นงานอดิเรกและเดินสายช่วยชาวโลกเป็นงานหลัก

ทุกคนสามารถช่วยเหลือกันและกันได้ โดยไม่ต้องรอให้เกิดวิกฤติ ใครช่วยเหลือเกื้อกูลอะไรได้ขอให้ช่วยทันที เห็นปัญหาอยู่ตรงไหน เห็นเพื่อนมนุษย์ตกทุกข์ได้ยากอยู่ตรงไหน เห็นโลกกำลังมีวิกฤติอย่างไร ขอเพียงแค่หัวใจเราไม่เย็นชา อยากลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่างหนึ่ง ให้ปัญหาเหล่านั้นมันคลี่คลาย แค่นั้นประกายแห่งความเป็นพระโพธิสัตว์ก็เกิดขึ้นแล้ว...

เผยแพร่ในเพจ ชมรมรักษ์ธรรม chomromrakdham

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น