...+

วันพฤหัสบดีที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2558

ความดีมาจากไหน ? อย่างไรหนอ ?

พระพุทธเจ้าตรัสถามว่า... "ความดี" มาจากไหน ?
"คนชั่ว" ตอบลอยๆ ว่าอย่างไรหนอ ?
***
นิตยสารธรรมะใกล้ตัวฉบับที่ ๒๑๙
ประจำวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘

เราอยู่ในยุคที่ฝากฝังความดีไว้กับพระไม่ได้
เพราะมีชาวบ้านนิสัยไม่ดี คิดบวชเป็นพระกันมาก
เราต้องฝากฝังความดีไว้กับชาวบ้านก่อน
จึงจะมีชาวบ้านดีๆ คิดบวชเป็นพระกันมากขึ้น

เราด่าพระที่ทำผิดวินัยฝ่ายเดียวไม่ได้
เพราะชาวบ้านมักเอาเครื่องกระตุ้นกิเลสไปให้พระ
เราต้องด่าตัวเองด้วย ตอนเผลอเอากิเลสไปถวายท่าน
จึงจะมีชาวบ้านจูงใจให้พระผิดวินัยกันน้อยลง

เราฝากฝังศาสนาไว้ในมือพระฝ่ายเดียวไม่ได้
เพราะชาวบ้านชอบเอาธุระทางโลกเข้าวัดกันบ่อย
เราต้องฝากฝังศาสนาไว้กับตัวเองก่อน
จึงจะมีชาวบ้านชอบเอาธุระทางธรรมเข้าวัดบ่อยขึ้น

เราคาดหวังให้พระประพฤติธรรม สั่งสอนธรรมไม่ได้
เพราะชาวบ้านชอบของขลัง ชอบคำทำนายจากพระ
เราต้องคาดหวังให้ตัวเองชอบเจริญสติเจริญธรรมก่อน
จึงจะมีชาวบ้านร้องขอให้พระประพฤติธรรมไว้เทศนา

ไม่มีใครบวชเป็นพระตั้งแต่เกิด
พระทุกรูปเริ่มต้นจากการเป็นชาวบ้านก่อน
ชาวบ้านเป็นอย่างไร แนวโน้มของพระก็เป็นอย่างนั้น
พระพุทธเจ้าจึงฝากฝังพระศาสนาไว้
กับคนใน ‘บริษัทพุทธ’ ๔ จำพวก
คือ ท่านไม่ได้ให้ไว้ใจพระ ฝากภาระไว้กับภิกษุฝ่ายเดียว
แต่ยังมีภิกษุณี
อุบาสก (ชาวบ้านที่เป็นชาย)
และอุบาสิกา (ชาวบ้านที่เป็นหญิง) ด้วย

ถ้าใครไม่คิดดูแลศาสนา
ก็อย่าแปลกใจที่พบแต่พระทิ้งศาสนาไปเอาดีทางโลก
ถ้าใครเห็นแค่พระผิดวินัยแล้วเสื่อมศรัทธา
ประกาศตนเป็นคนไร้ศาสนา
ก็อย่าแปลกใจถ้ายามใกล้ตาย
รู้สึกเหมือนเด็กหลงทางที่ไม่มีใครช่วยออกจากป่า
หรือรู้สึกเหมือนคนจะจมน้ำโดยไม่มีฟางให้เกาะแม้แต่เส้นเดียว

ดังตฤณ
กุมภาพันธ์ ๕๘

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น