ปัญหาสุขภาพจิตของเด็กในโรงเรียน เป็นปัญหาใหญ่ในอเมริกา เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี สังคม เศรษฐกิจ การเมือง ทำให้เด็กเกิดความความเครียดมาก ส่งผลให้การเรียนตกต่ำ และก้าวร้าวมากขึ้น เด็กมักแก้ปัญหาด้วยความรุนแรง จึงเข้ากับเพื่อนไม่ได้ รวมทั้งมีการใช้ยาเสพติดมากขึ้นด้วย
เด็กมัธยมในครอบครัวที่มีรายได้ต่ำ ต้องออกจากการศึกษาร้อยละ 50 เด็กวัยรุ่นร้อยละ 13 เป็นโรคซึมเศร้า และจากสถิติพบว่า 1 ใน 3 ของคนที่ฆ่าตัวตาย มีอายุระหว่าง 14-25 ปี และคนเหล่านี้เป็นโรคซึมเศร้า ปัญหาเหล่านี้กระทบถึงครอบครัว สังคม ประเทศชาติโดยรวม ผู้ปกครองและครูต่างก็มีความเครียดมาก และพยายามหาทางแก้ไข
เกี่ยวกับเรื่องนี้มีองค์กรที่ทำงานเพื่อแก้ปัญหาเด็กองค์กรหนึ่งซึ่งที่น่าสนใจ คือ มูลนิธิฮอว์น ก่อตั้งโดย “โกลดี้ ฮอว์น” (Goldie Hawn) นักแสดงหญิงชื่อดังชาวอเมริกัน ในปี 2003
ดาราสาวได้เห็นปัญหาเหล่านี้มาโดยตลอดในฐานะแม่ ประกอบกับมีแรงบันดาลใจจากการได้ศึกษาและปฏิบัติธรรมทางพุทธศาสนา เธอจึงตั้งมูลนิธิฮอว์น เพื่อนำการฝึกจิตตภาวนาเข้ามาใช้ในวงการศึกษา โดยสอนการเจริญสติให้เด็กนักเรียน ซึ่งเธอเห็นว่าเป็นทางเดียวที่จะแก้ปัญหานี้ได้
มูลนิธิฮอว์น (www.Thehawnfoundation.org) ทำงานให้ความช่วยเหลือแก่โรงเรียนต่างๆ ในการพัฒนาศักยภาพเด็ก ในด้านการเรียนและการใช้ชีวิต โดยได้รับความร่วมมือจากวิปัสสนาจารย์ นักจิตวิทยา นักวิทยาศาสตร์ทางสมอง นักการศึกษา ซึ่งร่วมกันคิดและจัดทำโปรแกรมชื่อ MindUp Program เพื่อฝึกหัดให้เด็ก โดยออกแบบเป็นบทเรียน 15 บท ซึ่งหลักสูตรนี้ได้นำมาใช้และศึกษาวิจัยมาแล้วเป็นเวลา 10 ปี
โปรแกรมนี้มีการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมในห้องเรียนให้เหมาะกับการเรียนรู้ ทำให้เด็กมีความสุขในการเรียน อยากมาโรงเรียน หลักสูตรนี้ฝึกการเจริญสติ (Mindful Awareness training) ทำให้เด็กมีสมาธิ มีสติ ฝึกให้เด็กมีความเมตตากรุณา รู้จักการช่วยเหลือและแบ่งปัน ฝึกแก้ปัญหาความขัดแย้งในชีวิตประจำวันอย่างใช้เหตุผล ไม่ใช้อารมณ์ ฝึกการควบคุมอารมณ์และทักษะทางสังคม ทำให้เด็กเรียนดีขึ้น เรียนด้วยความสุข และลดความเครียดให้เด็ก รวมทั้งครู และผู้ปกครองด้วย
หลังจากใช้หลักสูตรนี้มา 10 ปี ได้มีการประเมินผลทุกปี ดร.คิมเบอรี่ โชเนิส ไรส์ แห่งมหาวิทยาลัยบริติส โคลัมเบีย ซึ่งเป็นเครือข่ายทำวิจัยให้มูลนิธิ ได้ประเมินผลในครูและเด็กระดับ 4-5 พบว่า
ครูทุกคนรายงานว่า เด็กตั้งใจเรียนดีขึ้น บรรยากาศการเรียนดีขึ้น ครูสามารถควบคุมสถานการณ์ในห้องเรียนได้ดีขึ้น ความวุ่นวายน้อยลง เด็กร้อยละ 81 รายงานว่า มีความสุขในการเรียนมากขึ้น มีสมาธิในการเรียนดีขึ้น ร้อยละ 58 รู้จักช่วยเหลือผู้อื่นมากขึ้น และร้อยละ 15 ผลการเรียนดีขึ้นกว่าเดิม
เมื่อเจาะเลือดดูระดับคอติซอล ซึ่งแสดงถึงระดับความเครียด พบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในระดับปกติ หลักสูตรนี้ได้รับการรับรองจากสถาบัน CASEL ซี่งเป็นสถาบันพัฒนาศักยภาพมนุษย์ที่มีชื่อเสียงของอเมริกา
ปัจจุบัน โปรแกรมการเจริญสติของมูลนิธิฮอว์น ได้นำไปใช้ในเด็กนักเรียนมาแล้วหลายพันคนใน 5 ประเทศ คือ ฮ่องกง ออสเตรเลีย อังกฤษ อเมริกา และแคนาดา
โกลดี้ ฮอว์น เกิดปี 1945 ที่วอชิงตัน มารดาเป็นเจ้าของร้านขายอัญมณี และโรงเรียนสอนเต้นรำ ส่วนบิดาเป็นนักดนตรี เธอเรียนจบด้านการเต้นรำ และเมื่ออายุ 18 ปี ได้เริ่มอาชีพเปิดโรงเรียนสอนเต้นรำสำหรับเด็ก และเป็นดาราทีวี ได้รับรางวัล Emmy Award 2 ครั้งในปี 1960
ต่อมาเธอได้แสดงภาพยนตร์ และประสบความสำเร็จในปี 1969 ได้รับรางวัล Academy Award จากภาพยนตร์เรื่อง Actus Flower และได้รับรางวัลออสการ์ ปี 1980 จากเรื่อง Private Benjamin ในฐานะนักแสดงประกอบหญิงยอดเยี่ยม
หลังจากนั้นเธอได้ก้าวเข้าสู่การเป็นผู้กำกับการแสดงและผู้สร้างภาพยนต์ มีผลงานออกมามากมาย ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลอย่างต่อเนื่อง ภาพยนตร์ที่ได้รับการยกย่องหลายเรื่องเช่น Bird on a Wire, Death before Her, The Frist Wives club ฮอว์นแต่งงานสองครั้ง เธอเป็นแม่ของโอลิเวอร์ และเคท ฮัดสัน ดาราภาพยนตร์ในปัจจุบัน
ฮอว์นเป็นนักปฏิบัติธรรมแบบพุทธ เธอเดินทางไปศึกษาที่อินเดียทุกปี ตั้งแต่ปี 1981 เธอนับถือท่านทะไล ลามะ ว่าเป็นครูที่สำคัญคนหนึ่งของเธอ เธอได้มุ่งมั่นศึกษาจนเข้าใจถึงประโยชน์ของการเจริญสติเป็นอย่างดี และสามารถนำมาใช้พัฒนาจิตวิญญาณของตนเอง
นักแสดงหญิงชื่อดังได้เขียนหนังสือ 2 เล่ม เล่มแรก คือ Goldie : A lotus grows in the mud เธอเล่าว่า เขียนหนังสือเล่มนี้ออกมาจากใจ โดยเล่าเรื่องราวความทรงจำในชีวิตของเธอ ผู้คน เรื่องราวที่เธอพบเห็น การค้นหาตัวตนของเธอ ความใฝ่ฝัน ความคิด ปัญหาในชีวิต การแสวงหาทางจิตวิญญาณ เธอเปรียบตนเองเสมือนเป็นดอกบัว ซึ่งเติบโตและเจริญงอกงามขึ้นจากโคลนตม หนังสือเล่มนี้ได้กลายเป็นหนังสือขายดี โดยขายได้ราว 1 ล้านเล่ม
อีกเล่มหนึ่ง คือ 10 Mindful Minutes เป็นคู่มือสำหรับพ่อแม่ในการฝึกเจริญสติให้เด็ก ช่วยให้ลูกพัฒนาศักยภาพตนเองในด้านการเรียน และการดำรงชีวิตอยู่ในโลกปัจจุบัน ทำให้เด็กมีสมาธิดีขึ้น รู้จักควบคุมอารมณ์ และเครียดน้อยลง ซึ่งเป็นงานที่เธออุทิศให้กับสังคม ในวัย 68 ปี ฮอว์นกล่าวว่า
“งานธุรกิจในวงการบันเทิงของฉัน มันแสนจะน่าอัศจรรย์ แต่ไม่ใช่งานของฉันในวันนี้ ที่ฉันทำใจให้เป็นสมาธิได้แล้ว”
เมื่อต้นปีนี้ เธอได้มีโอกาสไปบรรยายในงานประชุมวิชาการเกี่ยวกับการเจริญสติในวงการศึกษา ที่นครแวนคูเวอร์ แคนาดา ซึ่งจัดโดย The Dalailama center (สามารถเข้าไปฟังคำบรรยายได้ใน www.dalailamacenter.org/conference/heart-mind-2013-how-mindfulness-helps-children-thrive. หรือใน www.youtube.com/goldie Hawn and Dan Siegel at TEDMED 2009.)
(จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 166 ตุลาคม 2557 โดย นพ.แพทย์พงษ์ วรพงศ์พิเชษฐ)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น