วิธีการง่ายๆ คือ การมีสติระลึกรู้ลมหายใจเข้าออก รู้ธรรมดาๆ ไม่ต้องแกล้งรู้ จงใจรู้ อยากรู้ หรือเข้าไปบังคับ แทรกแซง จัดแจง กดข่มใดๆ ให้รู้เฉยๆ รู้แบบไม่ต้องให้คะแนนว่า หายใจเป็นอย่างไร หายใจเข้าก็รู้เฉยๆ หายใจออกก็รู้เฉยๆ แล้วธรรมชาติก็จะปรากฏต่อหน้าต่อตา คือ ลมหายใจ (ที่น่าจะเป็นของเรา) นั้น ก็บังคับไม่ได้ ควบคุมไม่ได้ ไหลเข้าไหลออก เดี๋ยวสั้นเดี๋ยวยาว รู้ไปสักระยะหนึ่งแบบง่ายๆ สมาธิเบื้องต้นก็จะเกิดขึ้น
จากนั้นก็ขยับเข้ามาสังเกตความรู้สึกที่เกิดขึ้นในแต่ละขณะ ก็มีธรรมชาติเช่นเดียวกับลมหายใจ คือ บังคับไม่ได้ ควบคุมไม่ได้ เดี๋ยวไหลไปไหลมา คิดนั่นคิดนี่ รู้สึกดีบ้าง ไม่ดีบ้าง สงบบ้าง ฟุ้งบ้าง เอาแน่นอนไม่ได้ ฝึกรู้เฉยๆ รู้เบาๆ ไปเรื่อยๆ ใจก็จะสงบ เกิดความสุข ความอบอุ่นอยู่ภายใน
การฝึกสปาใจแบบนี้ทำได้ตลอดเวลา และเมื่อเราระลึกรู้ลมหายใจอยู่ ความเครียด ความกังวล ความวุ่นวายทั้งหลายจะโดนสลัดออกโดยอัตโนมัติ เพราะจิตรู้ได้เพียงหนึ่งอย่างเท่านั้น เมื่อจิตหันมารู้ลมหายใจ สิ่งแปลกปลอมทั้งหลายก็โดนดีดออกไปตามธรรมชาติ ลองมาฝึกเข้าสปาใจกันบ่อยๆ นะครับ เราจะเห็นว่าจิตใจจะมีความมั่นคง แข็งแกร่ง จะมีอานุภาพที่เป็นพลังบวกมหาศาล เปรียบเสมือนผืนดินที่อุดมสมบูรณ์ที่เมล็ดพันธุ์ทุกชนิดย่อมเจริญงอกงาม จะเป็นจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยเมตตา รู้จักให้ รู้จักอภัย เข้าอกเข้าใจคนรอบข้างมากขึ้น ต่อไปจิตใจจะมีรอยยิ้มที่ฉายฉานออกมาจากภายใน ใครอยู่ใกล้ก็เป็นสุข ทั้งคนและสัตว์
เมื่อได้ชีวิตนี้มาพร้อมลมหายใจ และต้องจากโลกนี้ไปพร้อมลมหายใจ ก็สมควรให้ "ลมหายใจ" เป็นบันไดแห่งสติ เป็นเครื่องซักฟอกใจ และเป็นเครื่องมือในการทำ "สปาใจ" ให้ใจเราใสสะอาด บริสุทธิ์ มีอานุภาพและพลังเท่าที่จะเป็นไปได้ ลองฝึกดูนะครับ
ที่มา http://variety.thaiza.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น