...+

วันอังคารที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2557

Life is beautiful ยิ้มไว้โลกนี้ไม่มีสิ้นหวัง



                    ในยามนี้เป็นช่วงที่ขาดข่าวหรือเรื่องราวดีๆในบ้านเมืองของเรา หันไปทางไหนก็มีแต่ปัญหา ตั้งแต่เรื่องปากท้อง โกง การเมือง ระเบิดกลางกรุง ม๊อบ ข้าวของแพงหรืออะไรที่ออกมาดูจะฟังเป็นแต่เพียงเรื่องร้ายหรือเรื่องที่ไม่ถูกใจเอาเสียเลย
                    แต่เช้าวันนี้ผู้เขียนได้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ตามนัด เพื่อเช็คร่างกายและรับยารักษาโรคประจำตัวที่ต้องทานประจำ
                    ผู้เขียนได้พบคุณแม่ชาวสมุทรปราการท่านหนึ่ง ที่มาดูแลลูกและรอพบแพทย์ ลูกชายของเธออายุยี่สิบสองปีเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งแถวๆบางนา
                    เมื่อไม่กี่เดือนก่อนเอก (นามสมมติ )ได้ขับรถออกไปเรียนหนังสือแล้วเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ประสานงากับรถเก๋งอีกคันหนึ่ง จนเอกได้รับการส่งตัวไปยังโรงพยาบาลสมุทรปราการ อาการสาหัสมาก กระดูกหักเกือบจะทั้งตัว
                    แพทย์ที่โรงพยาบาลสมุทรปราการได้ส่งตัวต่อมายังโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และได้ความร่วมมือจากทุกฝ่าย ก่อนที่เอกจะเข้ารับการผ่าตัด
                    แพทย์ได้บอกคุณแม่ว่ามีความหวังแค่สองเปอร์เซ็นต์ที่จะยื้อชีวิตลูกชายของเธอให้รอดจากเงื้อมมือมัจจุราช
                    ทางโรงพยาบาลก็ได้ให้แพทย์ที่เชี่ยวชาญที่สุดในทุกๆด้านมาดำเนินการรักษาให้แก่เอก และอยู่ในห้องไอซียูมาหลายเดือน สุดท้ายเอกก็รอดมาได้ แม้จะพิการเดินไม่ได้ก็ตาม
                    ภายหลังจากอาการทุเลาลงมากจนหลังฟื้นฟูร่างกาย เอกได้ขอคุณแม่บวชซึ่งทำให้เอกกลับมามีความรู้สึกที่ดีกับโลกมากขึ้นเพราะสงบ อีกทั้งยังมีความหวังในชีวิตมากขึ้น
                     ผู้เขียนได้เห็นเอกแล้วรู้สึกว่าเอกเองก็ไม่ได้ทุกข์อะไร นั่งรอแพทย์กับพี่สาวที่มาด้วยกันด้วยสีหน้าสดชื่นเบิกบาน เขาบอกคุณแม่ว่าจะขอกลับไปเรียนต่อในสาขาที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ที่ไม่ต้องเดินทางให้ลำบาก
                     ค่ารักษาพยาบาลทั้งสิ้นเป็นเงินกว่าหนึ่งล้านสองแสนบาท แต่ก็มีหลายคนหยิบยื่นความช่วยเหลือรวมทั้งสภากาชาดรวมทั้งคณะแพทย์ของโรงพยาบาลจุฬาฯเป็นสำคัญ
                    คุณแม่เล่าไปพลางยิ้มพลางแล้วเล่าต่อว่าเธอจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลจุฬาฯน้อยกว่าโรงพยาบาลเอกชนที่ไปพักรักษาเพียงคืนเดียว เธอดูตื้นตันสำนึกในบุญคุณในบุคคลที่เกี่ยวข้องมาก ในฐานะที่เป็นคุณแม่และเป็นเพียงแม่บ้านคนหนึ่งเท่านั้น
                   ผู้เขียนได้ฟังเธอพูดเช่นนั้น แล้วออกความเห็นไปว่า
                   " เพราะบุญและกุศลกรรมที่ครอบครัวของเธอทำไว้มาก จึงได้รับคืนแต่สิ่งดีๆ "
                   เธอพยักหน้าเห็นด้วยและกล่าวกับผู้เขียนว่าจะพยายามทำความดีและระลึกถึงบุญคุณของแพทย์พยาบาลที่โรงพยาบาลแห่งนี้ไปตลอดชีวิต พร้อมทั้งอวดว่ามีน้ำพริกแมงดาชื่อดังมาฝากพวกพยาบาลที่คอยดูแลลูกของเธอ แล้วเธอก็ขอตัวเข้าไปพบแพทย์กับลูก
                    ผู้เขียนก็บอกเธอว่า "ไม่ถึงที่ตาย ไม่วายชีวาวาตย์ และขอให้โชคดีในธรรม "
                    " ยิ้มไว้โลกนี้ไม่มีสิ้นหวังแด่เธอผู้มีธรรมทั้งหลาย "

                                                                         ปรีชา ปรัชญ์
                    หมายเหตุ ผู้เขียนต้องกราบขออภัยคุณแม่เจ้าของเรื่องเล่าและน้องเอกที่ไม่ได้ขออนุญาตก่อนนำเรื่องของท่านมาเล่าต่อนะครับ อย่างไรก็ตามก็ขออนุญาตกันตรงนี้เเลยนะครับเพื่อป็นธรรมทาน กราบขอบพระคุณท่านผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่านครับที่มีเรื่องดีๆให้มาเล่าสู่กันฟัง

                   พวกเราเป็นชาวพุทธจึงเชื่อและศรัทธาในองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่ทรงตรัสรู้เองด้วยพระปัญญาของพระองค์ที่สอนให้เชื่อเรื่องกรรม และผลของมัน อีกทั้งยังให้ทำความดีหรือบุญกุศลและเจริญภาวนาให้จิตใจผ่องแผ้ว แม้เราไม่มีลาภยศสรรเสริญอะไรก็ตาม แต่ความสันโดษในธรรมทำให้มั่นใจได้ว่าชีวิตสวยงามนัก ขอกราบขอบพระคุณท่านปรีชาและขออนุโมทนาให้ด้วยครับ ว่างๆเขียนมาใหม่นะครับ
                   สภากาชาดไทยผู้ที่คอยให้การสนับสุนทางเงินแก่โรงพยาบาลจุฬาฯมาโดยตลอด ยังขาดแคลนเงินทุนในการดำเนินงานด้านการแพทย์อีกมาก ผมเคยจัดผ้าป่าไปทอดให้สภากาชาดสองครั้งแล้ว หวังว่าเพื่อนๆยังคงไม่เบื่อ ปีนี้เรามาร่วมบุญกับผ้าป่ากองนี้อีกนะครับ สำหรับกองทุนพระรัตนตรัย
                   สำหรับท่านผู้อ่านจะแวะทำบุญกับสภากาชาดได้เลยทุกวันนะครับ ที่อาคารรับบริจาคใกล้ตึกภปร.นอกจากบริจาคเลือดได้แล้ว จะบริจาคเทรัพย์หรือสิ่งของอื่นๆก็ได้นะครับ ยิ่งฟังเรื่องในแก่นธรรมตอนนี้แล้ว ยิ่งศรัทธาครับ
                               
                                                                        สะมะชัยโย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น