ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในการใช้ชีวิตยุคปัจจุบันนี้ มนุษย์เรามีเรื่องต่าง ๆ เข้ามาให้ครุ่นคิดมากมาย และหลายเรื่องก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าเก็บมาคิดให้ปวดหัว หรือต้องไปให้ความสำคัญกับมันมากเสียด้วย แต่เชื่อว่าก็ยังมีหลายคนให้ความสำคัญ เก็บไปน้อยใจ เก็บไปเสียดาย เก็บไปทำลายความสุขของตัวเอง วันนี้เราจึงขอรวบรวมเรื่องเสียเวลาสำหรับชีวิตมาฝากกัน โดยเฉพาะกับหนุ่มสาวคนทำงานรุ่นใหม่ที่หลายคนยังคงให้ความสนใจกับเรื่องไร้สาระเหล่านี้จนลืมไปว่า การก้าวเข้าสู่โลกแห่งการเป็นผู้ใหญ่นั้น แท้จริงแล้วควรใช้เวลาในวัยนี้อย่างไร
1. งานแบบไหนคืองานในฝัน
อาจเป็นความฝันของหลายคนที่ต้องการงานที่รายได้หลักแสน ได้อยู่ในองค์กรดี ๆ มีตำแหน่งใหญ่ ๆ มีห้องทำงานกว้างขวาง มีคนนับหน้าถือตา มีลูกน้องมากมาย ฯลฯ แต่ในความเป็นจริง เราขอบอกว่า งานตรงหน้าคืองานในฝัน หากยังไม่ใช่ ก็ควรตอบตัวเองให้ได้ว่าตนเองต้องการทำงานอะไร หรือทำสิ่งใดในชีวิต จากนั้นก็หาทางทำในสิ่งนั้นเสียที่ได้คำตอบเสีย อย่ามัวเสียเวลาติดอยู่ในความฝันให้เนิ่นนาน เพราะในโลกใบนี้ยังมีคนจำนวนมากที่ได้ทำงานที่รัก หรือทำงานที่คิดว่าตรงกับความถนัดของตนเอง แต่ชีวิตก็ไม่ได้สบายหรือมีเงินใช้ไม่ขาดมือ บางคนลำบากกว่าคนที่ไม่ได้ทำงานที่ชอบเสียอีก ดังนั้น อะไรคืองานที่ดีที่เหมาะกับคุณคงต้องเป็นตัวคุณที่จะตอบคำถามนี้ได้ และจะดีมากขึ้นหากคุณสามารถตอบตัวเองได้แต่เนิ่น ๆ เพราะคุณจะมีเวลาฝึกฝน ขัดเกลาความสามารถนั้น ๆ ของตนเอง นอกจากนั้นก็ไม่ควรตีค่างานของคนอื่น หรือนำมาเปรียบเทียบกับงานของตนเอง เพราะแต่ละคนก็มีเหตุผลในการทำงานแตกต่างกันไป บางคนก็ทนทำงานที่น่าเบื่อเพื่อรอวันเกษียนจะได้มีสวัสดิการเลี้ยงชีพยามชรา หรือบางคนก็ได้ทำงานที่มีค่าตอบแทนสูง แต่ต้องแลกมากับการไม่มีเวลาให้ครอบครัว อย่างไรก็ดี การเลือกงานให้เหมาะสมกับตัวเองนั้น อย่างน้อยควรเป็นสิ่งที่คุณรัก หรือมีความสนใจกับมันบ้าง เพราะคุณอาจต้องใช้เวลาอีกเป็นสิบ ๆ ปีอยู่กับมันนั่นเอง
2. ทรัพย์อะไรที่ฉันควรมี
บ้าน รถ โทรศัพท์มือถือ คอนโด ที่ดินแปลงสวย ๆ ทริปเที่ยวต่างประเทศ ของเล่นราคาแพงของลูก เสื้อผ้าใหม่ตามเทรนด์ ฯลฯ ถ้ามนุษย์เราเปรียบเทียบตนเองกับคนอื่น ๆ ความอยากได้อยากมีมักเกิดขึ้นอยู่ร่ำไป เพราะเราจะรู้สึกว่าสิ่งนั้นก็ควรมี สิ่งนี้ก็ควรได้ ทำไมเขาไปเที่ยวที่โน่นกัน ดูน่าสนุกจังเลย ฯลฯ แต่ถ้าเรามองชีวิตจากจุดที่เรายืน จากความต้องการจริง ๆ ของตนเองและครอบครัว บางที คุณอาจไม่จำเป็นต้องมีของสิ่งนั้นสิ่งนี้เหมือนที่คนอื่น ๆ เขามีแต่ชีวิตก็สุขได้เช่นกัน
3. ชีวิตแบบไหนที่ฉันควรเลือก
วัยเด็กอาจเป็นวัยที่มีฝันมากมาย บ้างอยากเป็นนักร้อง เป็นทหาร เป็นดารา เป็นนักบิน แต่ในวันที่คุณก้าวเข้ามาสู่โลกแห่งการทำงานแล้ว มันก็มีความจริงที่ว่าคุณต้องเป็นผู้ใหญ่ให้มากขึ้น และไม่นำโลกแห่งความฝันมาปะปนกับโลกแห่งความจริงจนเกินไป หากคุณอาจไม่สามารถกลับไปทำในสิ่งที่ฝันเอาไว้ได้ เพราะเส้นทางที่คุณเดินมานั้นห่างไกลจากสิ่งที่ฝันมากมาย (เช่น ไม่สามารถเลือกเรียนในสาขาที่ต้องการเพราะครอบครัวไม่ยอมรับ) ก็ต้องตั้งใจ และพยายามทำชีวิตในวันนี้ให้ดี อย่าไปฟูมฟายร้องหาแต่สิ่งที่ฝัน และหากต้องการทำความฝันให้เป็นจริงจริง ๆ ก็อาจเริ่มจากการทำเป็นงานอดิเรกก่อนก็ได้ ค่อย ๆ แบ่งเวลาไปทำทีละน้อย แบ่งเวลาโดยไม่ให้ชีวิตประจำวันได้รับผลกระทบ นานวันเข้าคุณก็จะเริ่มมีความสุขจากการได้ทำในสิ่งที่ตนเองต้องการ และชีวิตประจำวันก็ไม่เสียหาย
4. ธุระแบบไหนที่ฉันควรสนใจ
เรื่องราวประเภท ทำไมคนนี้เป็นอย่างนี้ ทำไมคนนั้นเป็นอย่างนั้น หรือ ทำไมผู้หญิงคนนั้นคลอดลูกแล้วไม่เคยเห็นพ่อเด็กมาดูแลเลย (ถ้าเขายังเลี้ยงลูกได้ดี ไม่มีปัญหาก็ถือว่าเก่งมาก และควรให้กำลังใจไม่ใช่ยุ่มย่ามสอดรู้สอดเห็น) ฯลฯ เหล่านี้ ไม่ใช่เรื่องที่คุณควรนำมาเป็นสาระ หรือต้องนำไปขยายต่อให้เสียเวลา เพราะถึงทำไปก็ไม่เกิดประโยชน์ต่อตัวเองและผู้อื่น อีกทั้งไ่ม่ได้เป็นการช่วยเหลือใคร หรือทำให้สังคมดีขึ้น มีแต่จะสร้างรอยร้าว และทำให้คนอื่นรู้สึกไม่ดีที่คุณเป็นมนุษย์ลำโพงเสียเปล่า ๆ
ทั้งนี้ เราอยากจะบอกว่าการให้ความสนใจในสิ่งต่าง ๆ รอบตัวเป็นเรื่องที่ดี แต่บางครั้งหากไม่เลือกเรื่องที่ควรสนใจ ไปสนใจกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง รวมถึงการนำไปขยายผลต่อแบบเสีย ๆ หาย ๆ ก็อาจทำให้คุณสะสมพลังด้านลบเอาไว้ในสมองมากกว่าที่ควรจะเป็น และเราขอบอกว่า การทำเช่นนั้นไม่เกิดผลดีกับตัวคุณแต่อย่างใด มีแต่จะส่งต่อพลังด้านลบนั้นให้กับคนอื่น ๆ และทำให้คนอื่น ๆ เป็นมนุษย์พลังลบไปกับคุณด้วยเท่านั้น
แต่ถ้าลองเปลี่ยนมุมมองกับเรื่องที่ตนเองประสบพบเจอ และคิดใหม่ว่า คุณจะสามารถช่วยเหลือ หรือทำสิ่งใดเพื่อให้สถานการณ์ หรือบุคคลนั้น ๆ ดีขึ้นได้ และลองทำดู เราเชื่อว่าคุณจะได้พบบางสิ่งที่สำคัญมากกว่าการใช้ชีวิตในแบบเดิม ๆ แน่นอนค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น