...+

วันอังคารที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2557

นีคือเพื่อน 7 ประเภทที่คุณต้องหาไว้ให้ครบ




1. เพื่อนที่ยังไงก็รักเรา - เพื่อนที่ไม่ว่าเราจะผิดจะถูก...ยังไง ก็ไม่ตัดสินเรา เข้าใจเรา แนะนำเรา ให้โอกาสเรา และอยู่เคียงข้างเราเสมอ

2. นักผจญภัยผู้กล้า - โลกนี้ช่างกว้างใหญ่ไพศาล มีอีกหลายที่ที่เรายังไม่เคยไป มีผู้คนอีกมากมายที่เรายังไม่เคยพบ มีประสบการณ์ดีๆ อีกมากมายที่เราควรได้สัมผัส แต่คนเราทั่วไปมักยึดติดวนเวียนอยู่กับกิจวัตรอันจำเจ กิน/ถ่าย/เที่ยวที่เดิมเสมอ เพื่อนประเภทนี้แหละที่จะพาเราออกไปผจญภัยนอกกะลาของตัวเอง

3. ผู้รักษาความลับอันยอดเยี่ยม - บางครั้งคนเราก็มีเรื่องไม่สบายใจ ความพลั้งพลาด วีรกรรมที่สุดแสนจะอับอาย การได้ระบายกับใครบางคนจะช่วยให้เรารู้สึกสบายใจขึ้นมาก และเพื่อนประเภทนี้แหละที่คุณต้องการ เพื่อนที่ไม่มีวันจะแพร่งพรายความลับขั้นสุดยอดของเรา เพื่อนที่จะตายไปพร้อมกับความลับบางอย่างของเรา

4. โค้ชชีวิต - คงจะเป็นบุญวาสนา ถ้าคุณมีเพื่อนที่ฉลาด เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ ประสบความสำเร็จในชีวิต และที่สำคัญ..คอยแนะนำคุณอยู่เสมอในเรื่องต่างๆ อย่างมีเมตตาโดยไม่เคยทำให้คุณรู้สึกด้อยค่า เพื่อนกลุ่มนี้ไม่จำเป็นต้องทำงานที่เดียวกัน หรืออยู่ในวงใกล้ชิด แต่เป็นใครบางคนที่มากด้วยประสบการณ์ แล้วก็ยังอดทนพอที่จะคอยให้คำแนะนำเราอยู่ตลอดเวลา

5. เพื่อนต่างวัฒนธรรม - เราคงไม่อยากจมปลักอยู่กับวิถีชีวิตเดิมๆ การได้ทำอะไรที่แตกต่าง..คือโอกาสที่จะเกิดผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม เพื่อนจากต่างชาติ/ศาสนา/ประเพณีอาจจะช่วยให้เรามีมุมมองอะไรใหม่ๆ ได้อีกหลายอย่าง แต่การเอาข้อนี้ไปประยุกต์ใช้ต้องระวัง ไม่ใช่สักแต่จะหาเพื่อนต่างชาติ/ต่างภาษา สิ่งที่คุณควรทำไปคู่กันก็คือ เรียนรู้และเฟ้นหาสิ่งดีๆ ที่อยู่ในความแตกต่างนั้น

6. เพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ - ยุคสมัยนี้ค่อนข้างจะตัวใครตัวมัน โดยเฉพาะในสังคมเมือง จะไม่ดีกว่าหรือที่ถ้าวันหนึ่งคุณไปเที่ยวหลายวันแล้วลืมล๊อกกุญแจบ้าน แล้วคุณสามารถไหว้วานเพื่อนบ้านมาช่วยดูแล หรือล๊อกประตูให้ เรื่อง(เพื่อน)เล็กๆ น้อยๆ อย่างนี้หลายคนมองข้ามกันไปหมดแล้ว

7. เพื่อนต่างขั้ว - มนุษย์เรานั้นเกิดมาพร้อมกับยีน "ตัวกูพวกกู" ใครไม่เหมือนคือ "พวกมึงเลว" การยึดติดอยู่กับพวกพ้องเดียวกันไปนานๆ จะทำให้คุณ 'ไม่ได้คิด' ธรรมชาติของมนุษย์ไม่ชอบถูกเขี่ยออกจากกลุ่ม จึงมีแนวโน้มที่จะ 'เออออห่อหมก' เห็นดีเห็นงามไปกับพวกพ้องซะทุกเรื่องโดยปราศจากการยั้งคิด หาข้อมูลในมุมมองอื่น ไตร่ตรอง และมีความคิดเป็นของตนเอง การมีเพื่อนต่างขั้ว และเปิดใจยอมรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่าง แม้เราไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย แต่มันก็เปิดโอกาสให้เราตาสว่าง เห็นธรรม เปิดกะลา หรืออย่างน้อยก็สามารถยืนอยู่ตรงกลางได้โดยไม่ต้องสุดขั้วไปด้านใดด้านหนึ่ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น