...+
▼
วันจันทร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557
มุมมองของฝรั่งเกี่ยวกับปัญหาของการศึกษาไทย
ผมได้รับข้อคิดเห็นในเรื่องเกี่ยวกับปัญหาของการศึกษาไทยจากเพื่อนฝรั่งคนหนึ่งที่อยู่เมืองไทยมานาน และรู้จักระบบการศึกษาไทยเป็นอย่างดีเนื่องจากแต่งงานกับคนไทยและมีลูกที่กำลังอยู่ในวัยเรียน
ต่อไปนี้คือข้อคิดเห็นของคุณลิซ ลุกเซน พร้อมคำแปลครับ ......
Indoctrination is ยัดเยียดความคิด
I thought about our education topic conversation the other day.
And, also I thought about my very personal reasons why I do NOT like the Thai educational system:
ฉันนึกถึงการสนทนาของเราเกี่ยวกับเรื่องปัญหาด้านการศึกษาเมื่อวันก่อน ก็เลยเขียนมาเพื่อแสดงข้อคิดเห็นส่วนตัวที่ทำไมฉันจึงไม่ชอบระบบการศึกษาของไทย
1st Far too big classes with too many students, therefore half of them need x-tra teachings (weekends). ห้องเรียนมีนักเรียนมากเกินไป ทำให้หลายคนเรียนไม่ได้ และต้องไปเรียนพิเศษ
2nd The system/methods are like in Europe in the early 50th (1950). เป็นระบบที่ล้าสมัย คือคล้ายกับการเรียนการสอนของยุโรปเมื่อห้าสิบกว่าปีที่แล้ว
3rd No modern approach, for kids in the 21st century. (Sex education non existent, but parade walking, what no one needs, unless they go for an army career). ไม่มีการสอนสมัยใหม่ เช่นไม่มีการสอนเพศศึกษา แต่กลับมีเข้าแถวเดินแถว ซึ่งไม่มีประโยชน์ยกเว้นจะให้ลูกเป็นทหาร
4th Too late start with foreign languages, and outdated teaching methods which spoil the entire fun of learning. เริ่มเรียนภาษาต่างประเทศช้าเกินไป แถมยังสอนแบบโบราณอีกต่างหาก
5th Learning is based on fear (here teachers still carry a stick!!). สอนโดยใช้ความกลัว - ใช้ไม้เรียว
6th The teachers are far tooooooo old, and they emphases on outdated values. ครูแก่เกินไป แล้วก็ยังเน้นความเชื่อเก่าๆ
7th Inadequate educational tools, no real field trips, no experience is the best teacher approach. ไม่มีเครื่องมือการสอนสมัยใหม่ ไม่มีการฝึกภาคสนาม และชอบใช้ครูที่ขาดประสบการณ์
8th School uniforms and hair cuts which undermine the feeling and development of an individuality/unique personality. ยังนิยมใช้เครื่องแบบ และบังคับเรื่องการตัดผม ซึ่งไม่เปิดโอกาสให้เด็กแสดงความเป็นส่วนตัว
9th Bad food (ice cream –candy- junk food vendors can sell their unhealthy sugar/colour/MSG products freely). อาหารโรงเรียนขาดคุณภาพ ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยน้ำตาล สีอาหาร ผงชูรส
10th Religious teachings. With the multi-cultural diversity today it only divides instead of unites children from different cultures. ยังมีข้อกำหนดเกี่ยวกับศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งในยุคปัจจุบันที่มีคนรวมกันจากหลายศาสนา ข้อกำหนดดังกล่าวกลับกลายเป็นการแบ่งแยกมากกว่าเป็นความสามัคคี
11th Students must learn things by heart instead of knowing where to search for answers, therefore the brain is loaded with unnecessary stuff. นักเรียนต้องท่องจำแทนที่จะเป็นการเรียนรู้ว่าจะหาคำตอบได้จากที่ไหน ดังนั้น สมองจึงเต็มไปด้วยข้อมูลที่ไม่จำเป็นมากมาย
Oops, hope you are not angry with me now
อ้อ หวังว่าคุณคงไม่โกรธฉันนะที่วิจารณ์เรื่องนี้
ที่มา www.gotoknow.org
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น