ตายเพราะปาก

นายฟิล โรเบิร์ตสัน นักธุรกิจและเจ้าของรายการเรียลลิตี้ทีวีชื่อดัง ตกเป็นข่าวอื้อฉาวจากกรณีให้สัมภาษณ์นิตยสาร GQ ในฐานะเป็นผู้นับถือศาสนาคริสต์อย่างเคร่งครัด

โรเบิร์ตสันกล่าวว่า ต่อต้านการรักเพศเดียวกันเพราะเป็นบาป และยังน่ารังเกียจราวกับการมีเพศสัมพันธ์กับสัตว์ด้วย

ถ้อยคำนี้ทำให้นักสิทธิเกย์และประชาชนจำนวนมากไม่พอใจอย่างยิ่ง จนกระทั่งบริษัทเคเบิลทีวี A&E ประกาศถอดรายการเรียลลิตี้โชว์ของนายโรเบิร์ตสันออกจากผัง เพื่อประท้วงทัศนคติต่อต้านเกย์ของนักธุรกิจคนนี้

นักการเมืองฝ่ายอนุรักษนิยมอย่าง เท็ด ครูซ (เจ้าของผลงาน "ชัตดาวน์" สหรัฐ) โจมตีการตัดสินใจของ A&E โดยระบุว่า นายโรเบิร์ตสันมีสิทธิที่จะแสดงความเห็นส่วนตัวได้ตามรัฐธรรมนูญสหรัฐ

ดังนั้น A&E จึงเสมือนปิดปาก หรือเซ็นเซอร์ นายโรเบิร์ตสันอย่างไม่เป็นธรรม

แต่มีผู้เชี่ยวชาญกฎหมายชี้ว่า บทบัญญัติเพิ่มเติมข้อที่ 1 ของรัฐธรรมนูญสหรัฐ (The First Amendment) ให้สิทธิการแสดงความเห็นนั้นเป็นเรื่องความสัมพันธ์ "ระหว่างประชาชนกับรัฐ" เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนกับประชาชนด้วยกันเอง

ดังนั้น ในมุมมองนี้การลงโทษนายโรเบิร์ตสันของสถานี A&E จึงทำได้ เพราะเป็นมาตรการของเอกชน ไม่ใช่รัฐ

ในสังคมที่ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งเสรีภาพ รัฐจึงไม่ได้เป็นผู้ลงโทษถ้อยคำที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน เพราะรัฐต้องยืนยันสิทธิของผู้พูด จะไปเซ็นเซอร์ไม่ได้

แต่รัฐให้สังคมตัดสินกันเองว่า ถ้อยคำนี้ดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์หรือไม่ เหมาะสมหรือไม่ในสังคมปัจจุบัน

รุ้งตัดแวง/สปาย-กลาส
ข่าวสดออนไลน์, 26 ธ.ค.2556