...+

วันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2557

เมื่อนารีขี่ม้าขาว เจอปี "ม้าพยศ" ตกม้าตาย

เมื่อนารีขี่ม้าขาว เจอปี "ม้าพยศ" ตกม้าตาย ตั้งแต่ต้นปี 2557 ผมเชื่อว่าเปิดศักราชปีใหม่ การเมืองไทยยังจมดิ่งสู่วิกฤติต่อเนื่องข้ามปี การรบที่พัวพันต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้วอาจข้ามปีมาจบเอาต้นปีใหม่ ปี 2557 ปีมะเมีย หรือ "ปีม้า" ซึ่งอาจเป็น "ม้าพยศ" สะบัดนารีขี่ม้าขาวให้ตกลงจากอานม้าอย่างหมดท่า หมดเวลาควบม้าแบบเท่ๆ อีกต่อไป ผมว่ามี 3 ปัจจัยที่ฟาดฟันรัฐบาลกบฎ ให้พบจุดจบโดยปราศจากข้อสงสัย และเข้าสู่เงื่อนไขและข้อเสนอของ กปปส. คือ ตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล เพื่อมาสนับสนุนสภาประชาชนให้ทำการปฏิรูปประเทศไทย เดือนมกราคมตลอดทั้งเดือนรัฐบาลรักษาการณ์ที่พยายามต่อลมหายใจตัวเองด้วยการบีบให้ทุกองคาพยพของสังคมเข้าสู่โหมดเลือกตั้งนั้น ยิ่งดูยิ่งห่างไกลจากความจริง กระแสสังคมไม่ตอบรับเท่าที่ควร มาดูปัจจัยที่อาจเป็นตัวแปรให้รัฐบาลตกม้าตาย มี 3 ปัจจัยเสี่ยงขมวดมัดมากองรวมอยู่ในเดือนเดียวกันนี้ คือ ปัจจัยแรก คงเป็นกรณีที่ ปปช.เตรียมการชี้มูลคดีที่ 383 สส.-สว. ที่ลงมติสนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็นที่มา สว. เข้าจ่ายขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 เพราะเป็นการล้มล้างการปกครองฯ ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไว้ก่อนหน้านี้ คดีนี้ไต่สวนกันเกือบครบทุกปากแล้ว พยานหลักฐานเพียบพร้อมว่ากันว่า กลางเดือนมกราคม อาจมีการชี้มูลออกมา ซึ่งถ้า ปปช.ชี้มูลว่าเข้าข่ายล้มล้างการปกครองฯ จะทำให้ สส.-สว. 383 คนถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปีทันที (ไม่รวมความผิดทางอาญา) สถานะของรัฐบาลรักษาการก็หมดลงตามไปด้วย เพราะคุณยิ่งลักษณ์ เป็น 1 ใน 383 คนด้วย กระทบไปถึงการสมัคร สส. ทั้งระบบเขตและระบบบัญชีรายชื่อที่สมัครกันไปแล้วกีอนหน้านี้ทันที ก็จะทำใหับัญชีรายชื่อผู้สมัครของหลายพรรคเป็น "บัญชีผี" ทัน ส่วนผู้สมัครระบบเขตบางเขตก็จะเป็นแข่งกันระหว่าง "คนกับผี" ทันทีเช่นกัน งานนี้หนีไม่พ้นสูญญากาศทางการเมือง ปัจจัยที่สอง สูญญากาศที่อาจจะเกิดจากการตัดสินใจลาออกของ กกต.บางส่วนหรือทั้งคณะ เพราะการจัดการการเลือกตั้งที่ไม่เรียบร้อย และยิ่งพบความผิดปกติในทางกฏหมายที่อาจทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะ นั่นไม่เท่ากับแรงบีบที่รัฐบาลรักษาการพรรคเพื่อไทยที่บุกบีบ กกต. หลายครั้งกระทั่งส่งสัญญาณข่มขู่สารพัดว่า กกต.ต้องเดินหน้าเลือกตั้ง ไม่เช่นนั้นจะถูกดำเนินคดี แต่ถ้า กกต.ดันทุรังเดินหน้า ก็ลองนึกภาพความวุ่นวายกันเอาเองครับ นี่แค่รับวันสมัครยังวุ่นวายขนาดนี้ ถ้าสมมติว่าสถานการณ์ยื้อไปถึงวันเลือกตั้ง เราอาจไดัเห็นภาพผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งเดินเข้าคู่หารับบัตรเลือกตั้งและฉีกบัตรทิ้งสัก 5 ล้านใบคงอับอายกันไปทั่วโลกกระมัง ประเด็นมีอยู่ว่าถ้า กกต.ยอม "ลากตั้ง" ตามแรงบีบพรรคเพื่อไทยทั้งที่รู้ว่า 2 กพ.วุ่นวายแน่ กกต.ก็หนีความรับผิดชอบที่จะตามมาไม่พ้นเช่นกันอาจใหญ่หลวงกว่า การเสนอให้มีการเลื่อนเลือกตั้งไปก่อนด้วยซ้ำ สภาวะแบบนี้ กกต.อาจไม่มีทางเลือก การตัดสินใจยกทีมลาออกอาจสูญเสียน้อยกว่าการลากตั้งท่ามกลางความแตกแยก ปัจจัยที่สาม มวลมหาประชาชนออกมามากมายมหาศาลถล่มทลายมากกว่าทุกครั้งในการนัดหมายใหญ่ครั่งที่จะมาถึงนี้ ทำเอากรุงเทพเป็นอัมพาต หรือเกิดปรากฎการณ์ "Shut down Bangkok" ต่อเน่ืองกันเป็นสัปดาห์ ได้เป็นรูปธรรม การจัดระเบียบอำนาจใหม่เพื่อเบิกทางไปสู่การปฏิรูปประเทศ ในนาม "การปฏิวัติประชาน" อย่างสันติวิธี ก็เป็นไปได้สูง เพราะปรากฎการณ์มวลมหาประชาชนที่ผ่านมา ย้ำยืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงใหญ่โดยประชาชนในฐานะเจ้าของอำนาจอธิปไตย ไม่ใช่เรื่องเพัอฝันอีกต่อไ
งานเสวนาวันเสาร์ที่ 31 สิงหาคม 2556 ณ ห้องประชุมอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา (สี่แยกคอกวัว) เวลา 12.30 - 16.00 น
โดย: สุริยะใส กตะศิลา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น