...+

วันเสาร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2556

วิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้เห็นที่มาที่ไปจริง ๆ ของเหตุการณ์

Vasit Dejkunjorn
หลังจากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่าง คปท.และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สนามกีฬาดินแดงเมื่อวานนี้ สิ่งที่ทั้งสองฝ่ายควรทำโดยเร็วที่สุดคือ วิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้เห็นที่มาที่ไปจริง ๆ ของเหตุการณ์

สำหรับ คปท.ที่น่าสังเกตคือมีผู้ร่วมชุมนุมเป็นจำนวนมากที่แกนนำไม่รู้จักและควบคุมไม่ได้ น่าสงสัยว่าเป็นคนนอกฝ่ายที่แฝงตัวเข้าไปยั่วยุและทำร้ายตำรวจเพื่อให้เกิดการปะทะต่อสู้

สำหรับตำรวจ ที่น่าสังเกตคือพฤติการณ์รุนแรงของผู้ที่สวมเครื่องแบบตำรวจหลายคนไม่เหมือนกับตำรวจ เช่นผู้ที่ทุบทำลายยานพาหนะของอาสาพยาบาล และผู้ที่พยายามจะทำลายรถของตำรวจเองเป็นต้น ส่วนคนในชุดดำที่อยู่บนหลังคาชั้น 3 ของอาคารซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่ทำร้ายได้ทั้งผู้ชุมนุมและตำรวจก็เหมือนกัน เป็นตำรวจจริง ๆ หรือเปล่า ?

สำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ควรปล่อยให้ข้อพิรุธเหล่านี้ผ่านไปเฉย ๆ แต่ควรจะมีการสอบสวนให้กระจ่างว่า มีผู้ที่ไม่ใช่ตำรวจแต่แต่งกายคล้ายตำรวจสวมรอยเข้าไปอยู่ในที่เกิดเหตุ แล้วทำร้ายผู้ชุมนุมเพื่อให้เหตุการณ์ลุกลามไปเป็นการจลาจล เพื่อให้มีการใช้กำลังปราบปรามอย่างรุนแรงหรือไม่ ในขณะเดียวกัน คปท.ก็ควรจะต้องระวังมิให้บุคคลนอกฝ่ายแฝงตัวเข้าไปยั่วยุหรือทำร้ายตำรวจด้วยเหตุผลเดียวกัน

ถ้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพิกเฉยไม่สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ประชาชนก็จะเชื่อว่าตำรวจเป็นตัวการหรือมีส่วนรู้เห็นให้ตำรวจปลอมฆ่าและทำร้ายผู้ชุมนุม และจะโกรธแค้นจนต้องการตอบโต้ด้วยความรุนแรง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนรวมทั้งตำรวจเองไม่ต้องการ

อีกอย่างหนึ่งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องรีบชี้แจงก็คืออาวุธยุทโธปกรณ์ของตำรวจที่ถูกยึดได้และผู้ชุมนุมนำออกแสดง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอุปกรณ์สำหรับปราบจลาจล แต่มีกระสุนจริงและลูกระเบิดขว้างรวมอยู่ด้วย ตำรวจควรจะชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจว่าแต่ละอย่างคืออะไร มีไว้ด้วยเหตุผลใด ทำไมจึงมีกระสุนจริงและลูกระเบิดขว้างรวมอยู่ด้วย การชี้แจงโดยตำรวจจะมีน้ำหนักมากกว่าการชี้แจงของนายสุรพงษ์ โตวิจักษ์ชัยกุล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น