...+

วันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2556

มนุษย์ไม่รู้จักธรรมชาติ



เมื่อเร็ว ๆ นี้ ผมเกิดความคิดขึ้นว่า ประเด็นของเรื่องนี้คงจะบรรลุผลหากบรรดานักวิทยาศาสตร์ นักการเมือง ศิลปิน นักปรัชญา นักการศาสนาและทุก ๆ คนที่ทำงานอยู่ในสาขาดังกล่าวจะมารวมกันยังที่นี้ มองออกไปยังทุ่งนาเหล่านี้ และถกเถียงหาข้อสรุปร่วมกันในเรื่องต่าง ๆ ผมคิดว่าถึงนี้จะเกิดขึ้นได้ เมื่อผู้คนสามารถแลเห็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือความเชี่ยวชาญเฉพาะสาขาของตน

นักวิทยาศาสตร์คิดว่าเขาสามารถเข้าใจธรรมชาติ นั่นคือฐานะบทบาทที่เขายึดถืออยู่ เพราะเขาเชื่อว่าเขาสามารถเข้าใจธรรมขาติ พวกเขาจึงพากันเข้าไปศึกษาธรรมชาติอย่างเป็นระบบ และใกล้ชิด และนำธรรมชาติมาใช้ประโยชน์ แต่ผมคิดว่าความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติอยู่นอกขอบข่ายแห่งเชาวน์ปัญญาของมนุษย์

ผมมักพูดกับคนหนุ่มสาว ที่มาอยู่กับผมที่กระท่อมบนเขา เพื่อเรียนรู้งานเกี่ยวกับเกษตรกรรมธรรมชาติว่าใคร ๆ ก็สามารถมองเห็นต้นไม้บนเขาแห่งนี้ เขาสามารถแลเห็นใบเขียวขจีของมัน สามารถแลเห็นต้นข้าว เขาคิดว่าเขารู้ว่าสีเขียวนั้นคืออะไร การสัมผัสกับธรรมชาติทั้งกลางวันกลางคืน บางทีเขาอาจจะคิดว่าเขารู้จักธรรมชาติ แต่เมื่อใดก็ตามที่เขาคิดว่า เขาเริ่มจะเข้าใจธรรมชาติก็แน่ใจได้เลยว่าเขากำลังเดินผิดทางแล้ว

ทำไมจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าใจธรรมชาติ สิ่งที่คิดว่าเป็นธรรมชาติเป็นเพียง "ความคิด" เกี่ยวกับธรรมชาติที่เกิดขึ้นในจิตใจของแต่ละคน ผู้ที่แลเห็นธรรมชาติที่แท้จริงคือเด็กน้อย เขาแลเห็นโดยปราศจากความคิด เป็นการแลเห็นอย่างตรงไปตรงมา และกระจ่างแจ้งแม้ว่า ชื่อของพันธุ์ไม้จะเป็นที่รู้จัก เช่นส้มแมนดารินในตระกูลส้ม ต้นสนในตระกูลไม้สน แต่สิ่งที่แลเห็นก็หาใช่รูปทีแท้จริงของธรรมชาติไม่

สิ่งที่แลเห็นในลักษณะแยกขาดจากส่วนทั้งหมดของมันไม่ใช่ของแท้

ผู้เชี่ยวชาญจากสาขาต่าง ๆ มาอยู่รวมกันและสังเกตต้นข้าวสักต้น ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับโรคแมลงก็จะแลเห็นแต่โรคที่เกิดจากแมลง ผู้เชี่ยวชาญด้านธาตุอาหารของพืช (plant nutrition) ก็จะสังเกตแต่ความแข็งแรงของต้นข้าว นี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่นเดียวกับสภาพการณที่เป็นอยู่ในเวลานี้

ยกตัวอย่างเช่น ผมพูดกับสุภาพบุรุษที่มาจากสถานีทดลอง ตอนที่เขากำลังศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างเพลี้ยจักจั่นและแมงมุมในนาข้าวของผมว่า "ท่านศาสตราจารย์ครับ เมื่อท่านศึกษาเกี่ยวกับเรื่องแมงมุม ก็เท่ากับท่านสนใจศัตรูธรรมชาติของเพลี้ยจักจั่นเพียงชนิดเดียวในบรรดาศัตรูทั้งหมดของมัน ปีนี้ประชากรของแมงมุมขยายตัวมาก แต่ปีที่แล้วเป็นคางคก แต่ก่อนหน้านั้นกบจะมีมากกว่าสัตว์ชนิดอื่น มันมีลักษณะที่หลากหลายนับไม่ถ้วน"

เป็นไปไม่ได้ที่นักวิจัยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะสาขา จะสามารถเข้าใจถึงบทบาทของสัตว์ที่กินสัตว์อื่นเป็นอาหารเพียงชนิดใดชนิดหนึ่งในช่วงระยะเวลาหนึ่งที่แน่นอน ภายในระบบความสัมพันธ์ที่อิงอาศัยกันและกันอย่างซับซ้อนละเอียดอ่อนของแมลง มีบางฤดูที่ประชากรของเพลี้ยมีน้อยเพราะมีแมงมุมมาก มีบางครั้งที่ฝนตกมากกบก็จะกินแมงมุม แต่ถ้าหากฝนตกน้อยก็จะไม่มีทั้งเพลี้ยหรือกบเลย

วิธีควบคุมแมลงโดยละเลยความสัมพันธ์ในบรรดาแมลงด้วยกัน เป็นสิ่งทีไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง การวิจัยเกี่ยวกับแมงมุมและเพลี้ย จะต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างกบกับแมงมุมด้วย เมื่อพูดถึงประเด็นนี้ก็จะต้องมีผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับกบ ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับแมงมุมและเพลี้ย ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับข้าว และผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการชลประทานมาประชุมร่วมกัน

ยิ่งกว่านั้น ที่นาของผมยังมีแมงมุมที่มีลักษณะแตกต่างกันประมาณ ๔-๕ ชนิด ผมยังจำได้ว่าเมื่อหลายปีก่อน เพื่อนบ้านคนหนึ่งวิ่งมาหาผมที่บ้านแต่เช้าตรูและถามผมว่าผมเอาตาข่ายไหมหรืออะไรไปคลุมที่นาเอาไว้หรือเปล่า ผมไม่เข้าใจว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไร ดังนี้ผมจึงรีบเดินรุดไปดูทันที

เราเพิ่งจะเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จใหม่ ๆ และเพียงชั่วคืนเดียวทุ่งนาที่เหลือเพียงโคนข้าวที่เหลือจากการเก็บเกี่ยว และหญ้าทีเลื้อยอยู่ตามดินก็ถูกคลุมด้วยใยแมงมุมทุกตารางนิ้วดูราวกับใยไหมส่องประกายแวววับเป็นระลอกพริ้วอยู่ในสายหมอกยามเช้า ช่างเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก

ความน่าอัศจรรย์ของมันคือ สิ่งที่เกิดขึ้นนาน ๆ ครั้งเช่นนี้ จะคงอยู่เพียงวันสองวันเท่านั้น หากคุณเข้าไปมองดูใกล้ ๆ ก็จะแลเห็นแมงมุมมากมายอยูในทุก ๆ ตารางนิ้วของทุ่งนา มันอยู่กันอย่างหนาแน่นมากในทุ่งนา จนดูเหมือนจะแทบไม่มีที่ว่างเหลืออยู่ในระหว่างพวกมัน ในพื้นที่ ๑/๔ เอเคอร์ (๐.๖ ไร่) ต้องมีแมงมุมอยู่เป็นแสนเป็นล้านตัวทีเดียว ถ้าคุณกลับไปดูที่นาในอีก ๒-๓ วันหลังจากนั้น คุณจะเห็นเส้นใยแมงมุมซึ่งยาวเป็นหลา ๆ ขาดลุ่ยออกสะบัดอยู่ในสายลม โดยมีแมงมุม ๕-๖ ตัวเกาะอยู่ตามเส้นใยเหล่านั้น ดูราวกับปุยของดอกแดนดิเลี่ยน หรือลูกสนที่ปลิวอยู่ในสายลม แมงมุมเหล่านั้นเกาะอยู่กับเส้นใยแต่ละเส้นที่สะบัดขึ้นลงสู่ท้องฟ้าด้วยแรงลม

ภาพที่น่าตื่นเต้นเช่นนี้เป็นบทละครแห่งธรรมชาติอันน่าพิศวง เมื่อเห็นเช่นนี้คุณคงเข้าใจว่ากวี และศิลปินก็ควรจะร่วมอยู่ในการประชุมพบปะนี้ด้วยเหมือนกัน

เมื่อสารเคมีถูกพ่นลงในที่นา สิ่งเหล่านี้จะถูกทำลายไปในพริบตา ครั้งหนึ่งผมเคยคิดว่าการใส่ขี้เถ้าลงไปในนา* คงจะไม่เป็นไร ผลที่ออกมาน่าตกใจเพราะว่า ๒-๓ วันหลังจากนั้นปรากฏว่าที่นาทั้งแปลงปราศจากแมงมุมแม้แต่ตัวเดียว ขี้เถ้าทำให้เส้นใยแมงมุมขาดกระจัดกระจาย ไม่รู้ว่ามีแมงมุมกี่พันกี่หมื่นตัวที่ต้องตกเป็นเหยื่อของขี้เถ้าที่ดูไม่มีพิษสงเพียงกำมือเดียว การใช้ยาฆ่าแมลงไม่เพียงแต่กำจัดเพลี้ยรวมทั้งศัตรูตามธรรมชาติของเพลี้ยไปเท่านั้น ตัวละครแห่งธรรมชาติอันสำคัญเหล่านี้อีกมากมายที่ต้องได้รับความกระทบกระเทือนไปด้วย

ปรากฏการณ์ของแมงมุมจำนวนมหาศาล ซึ่งปรากฏขึ้นในนาข้าวในฤดูใบไม้ร่วง และราวกับศิลปินที่หลบหายไปในชั่วคืน ยังเป็นสิ่งที่ไม่อาจเข้าใจได้ ไม่มีใครรู้ว่ามันมาจากไหน มันจะมีชีวิตรอดในฤดูหนาวด้วยวิธีใด หรือว่ามันหายไปไหน

ดังนั้นการใช้สารเคมีจึงไม่ใช่เป็นเพียงปัญหาของนักกีฏวิทยา หรือผู้ทีศึกษาเกี่ยวกับเรื่องแมลงเท่านั้น แต่นักปรัชญา นักการศาสนา ศิลปิน และกวีจะต้องเข้ามาช่วยตัดสินด้วยว่าควรอนุญาตให้มีการใช้สารเคมีในการทำเกษตรหรือไม่ และผลที่เกิดขึ้นจำเป็นอย่างไร แม้จากการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ด้วย

ปริมาณผลผลิตของข้าวเจ้าและธัญพืชฤดูหนาวต่อที่ดิน ๑/๔ เอเคอร์ (๐.๖ ไร่) จะได้ในราว ๒๒ บูเชล (๕๙๐.๙ กิโลกรัม) ถ้าเมื่อไรที่เราได้ผลผลิตถึง ๒๙ บูเชล (๗๗๘.๙ กิโลกรัม) ซึ่งเคยได้ในบางครั้ง คุณก็จะไม่สามารถหาผลผลิตที่ไหนทั่วประเทศที่จะสูงไปกว่านี้อีกแล้ว เนื่องจากเทคโนโลยี่ที่ก้าวหน้าไม่มีความจำเป็นในการเพาะปลูกด้วยวิธีเช่นนี้ จึงกล่าวได้ว่าเกษตรกรรมธรรมชาติเป็นเรื่องที่สวนทางกับสมมุติฐานของวิทยาศาสตร์แผนใหม่ ใครก็ตามที่มาดูผืนนาแห่งนี้ และยอมรับประจักษ์พยานเหล่านี้ จะต้องรู้สึกสงสัยมากยิ่งขึ้นในคำถามที่ว่า มนุษย์รู้จักธรรมชาติหรือไม่ และธรรมชาติอาจรู้จักได้ภายในขอบเขตแห่งความเข้าใจของมนุษย์หรือไม่

ถ้าจะกล่าวอย่างประชดประชันก็ต้องกล่าวว่า วิทยาศาสตร์ช่วยได้เพียงแค่ทำให้เห็นว่ามนุษย์มีความรู้น้อยเพียงไรเท่านั้น
* ฟูกูโอกะทำปุ๋ยหมักจากขี้เถ้าและพวกเศษอาหารเหลือ เขาใส่ปุ๋ยหมักนี้ในสวนครัวเล็ก ๆของเขา

ที่มา https://www.facebook.com/KhayKhawKlxngHxmMaliXinthriy100SinkhaHomMed

1 ความคิดเห็น:

  1. ต้องพิจารณาปัญหาแบบเชื่อมโยงให้รอบด้าน แล้วจึงลงมือแก้ปัญหา

    ตอบลบ