...+

วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ความแตกต่างของพระสงฆ์วัดเส้าหลินกับวันต้าเปยซื่อ

 ความแตกต่างของพระสงฆ์วัดเส้าหลินกับวันต้าเปยซื่อ


ต่างก็เป็นนักบวชในพุทธศาสนา นับว่าเป็นลูกศิษย์ของพระองค์ศาสดาที่ควรแล้วที่จะมุ่งเน้นในการปฏิบัติดีปฎิบัติชอบ เผยแพร่คำสอนของพระพุทธเจ้า แต่พระสองสำนักนักนี้ช่างต่างกันเหมือนฟ้ากับเหวจริงๆ

วัดเส้าหลิน ซี่งสถาปนาโดยพระโพธิธรรม มีอายุ1500 ปี เป็นวัดที่มีประวัติที่ดีมาแต่โบราณ พระสงฆ์เคยปฎิบัติธรรมพร้อมกับฝึกกำลังภายในจนชื่อเสียงดังไปทั่วโลก แต่น่าเสียดายที่ทุกวันนี้ได้ถูกเปลี่ยนกลายเป็นวัดที่มุ่งไปในทางพาณิชย์ นำวิชากังฟู หรือกำลังภายในเป็นทางหารายได้ให้กับวัดและรัฐบาลจีน  เจ้าอาวาสเป็นซีอีโอในผ้าเหลือง  ละทิ้งการปฏิบัติธรรม แต่มุ่งส่งเสริมให้พระฝึกมวยจีนเพื่อส่งออกเป็นสินค้าพาณิชย์ไปต่างประเทศไปแสดงมวยจีนและตั้งสำนักสอนมวยในประเทศต่างๆทั่วโลกเพื่อหารายได้มหาศาลเข้าวัดและประเทศ นำวัดไปขึ้นเป็นมรดกโลก ต่างๆนาๆ เจ้าอาวาสคนปัจจุบันก็แทนที่จะปฏิบัติธรรมและสอนธรรมะให้กับชาวบ้าน แต่กลับใช้ชีวิตเยี่ยงพระราชา สนุกกับเทคโนโลยี่และทางโลกอย่างสุดเหวี่ยง เช่นไปดูกีฬารักบี้ที่สหรัฐอเมริกา ไปชมฟุทบอลเวอร์คลับที่เยอรมัน  

ในขณะเดียวกัน วัดต้าเปยซื่อ ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลเหมาฉี ตอนใต้ของเมืองไห่เฉิง มณฑลเหลีวหนิง ท่านเจ้าอาวาสมีนามว่า
เหมี่ยวเสียง และพระองค์อื่นๆ ยืดมั่นในคำสอนของพระพุทธเจ้าอย่างเคร่งครัด เช่นออกบิณฑบาต ฉันมื้อเดียวก่อนเที่ยง ไม่รับบริจาคเงิน  ดูแล้วตรงกับทางเถรวาทหลายข้อ หรืออาจจะเคร่งกว่าด้วยซ้ำไปว่าสตรีห้ามเข้าภายในของบริเวณวัดได้
เวลามีพีธี สตรีจะอยู่ที่ลานวัดข้างนอก
ทุกวันนี้ศาสนาเสื่อมเพราะผู้ปฏิบัติธรรมเสื่อมมีให้เห็นมากมาย  แต่โชคดีที่ก็มีพระสงฆ์องค์เจ้าที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอย่างเคร่งครัดเพื่อเผยแพร่คำสอนของพระพุทธเจ้าแก่มวลชน  ดังนั้นการจะไปเข้าวัดไหนก็ต้องเลือกให้ดี และช่วยกันนำออกมาเผยแพร่ให้คนรู้กันมากๆ จนได้ไม่หลงเข้าวัดผิด หรือนับถือกราบไหว้พระผิด
ขออภัยหากแปลอะไรผิดพลาด ดิฉันก็แปลเท่าที่ความรู้อันน้อยนิดจะอำนวยให้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น