...+

วันเสาร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2556

รถที่ถวายวัดหายไป



ปุจฉา - เรื่องมีอยูว่า เมื่อปี ๕๔ โยมบอกถวายรถให้รองเจ้าอาวาสรูปหนึ่ง ที่วัดต่างจังหวัด โดยใช้เฟสบุ๊คเป็นตัวเชื่อมต่อข่าวสาร ท่านได้เห็นรถที่โยมถ่ายส่งให้ และ ตกลงว่าจะมารับที่กรุงเทพฯ ยังไม่กำหนดเวลา พอผ่านไปเกือบเดือน น้ำท่วม รถที่จอดไว้ หนีไม่ทัน แช่น้ำหลายเดือน พอน้ำลด ท่านก็ติดต่อมารับเมื่อ ๒๙/๐๑/๕๕ โดยโยมบอกท่านว่ารถคันนี้โยมให้วัด....เพราะเคยไปถือศีล ไปคลุกคลีกับแม่ชี เห็นรถขนของซื้อกับข้าวมันเก่าจะหลุดเป็นชิ้น ๆ จึงตั้งใจถวายให้แม่ชีไว้ใช้ และตัวเองก็บอกแม่ชีไปแล้วด้วยว่าจะเอารถที่บ้านมาให้ใช้

เงียบหายไปนาน จนเดือนเมษา ๕๕ หยุดสงกรานต์โยมไปที่ถือศีลที่วัดไม่เห็นรถ ถามรองเจ้าอาวาสที่มารับ ท่านบอกว่าโยมโทรไปบอกอู่ให้เขาเปลี่ยนพวงมาลัยเป็นพาวเวอร์ ไม่ใช่หรือ มันเลยไม่เสร็จ โยมงง เพราะจะทำให้สิ้นเปลืองทำไม

สงกรานต์นั้น รองเจ้า..บอกโยมว่า สอบถามอู่แล้ว เขาจะส่งรถมาให้วันที่ ๓๐ เมษา โยมเบาใจ และลากลับบ้าน พอเดือน มิ.ย.๕๕ ที่วัดมีงานแม่ชีโทรให้ไปช่วยงานบุญ โยมก็ร่วมบุญไปด้วย โดยแม่ชีบอกว่า จะช่วยตามรถให้อีกแรง พอถึงวัด รถที่บอกเมษาถึงวัดแน่ ก็ไม่เป็นอย่างที่พูด รองเจ้า..บอกว่า เขาทำหลังคาให้ เลยยังไม่มา โยมกลับกรุงเทพฯ ด้วยความผิดหวัง และได้ติดต่อทางเฟส บอกรองเจ้า..ไปว่า โยมอยากได้เลขตัวถังรถ ช่วยขูดมาให้ที จะเอาไปเสียภาษีและโอนทะเบียนลอยไว้ หากรถไปชนใคร เกิดเหตุอะไร จะได้ไม่มาพัวพันกับโยม

โยมส่งข้อความลงเฟส ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า ก็ไม่ตอบกลับ โยมปรึกษาทนายที่ทำงาน เขาบอกว่าให้ไปลงบันทึกประจำวันไว้ แต่ถ้าทำอย่างนั้นพระคุณเจ้าจะเสียชื่อ โยมก็เลยยังรีๆ รอ ๆ อยู่ โยมจะทำอย่างไรดี บางคนบอกโยมว่า สงสัยขายเอาเงินใส่ย่ามไปแล้ว ส่วนแม่ชีที่บอกจะช่วยตาม เอาเข้าจริง ๆ ก็ไม่ได้ทำอะไรให้เกรงอำนาจ รองเจ้าอาวาส โยมจะทำอย่างไรดี กับปัญหานี้คะ มกราหน้า ครบสองปี ที่รถหายไปอย่างไร้ร่องรอย

พระไพศาล วิสาโล วิสัชนา - เวลาผ่านไปนานอย่างนี้ แสดงว่ารถสูญหายไปแล้ว คุณควรทำใจได้แล้วว่ายากจะได้รถกลับมา แต่ก็ไม่ควรปล่อยให้เรื่อง ราวผ่านเลยไป ควรหาข้อเท็จจริง หาไม่คุณก็ยังจะมีความสงสัยอยู่ร่ำไปว่ารองเจ้าอาวาสเอาไปหรือไม่ ซึ่งนอกจากจะทำให้คุณไม่สบายใจแล้ว ถ้าไม่เป็นความจริง ก็จะไม่เป็นธรรมแก่ตัวท่าน

หากรู้ความจริงว่าอะไรเป็นอะไร เช่น ท่านเอาไปขายต่อ ก็จะได้รู้ว่าท่านเป็นคนอย่างไร และหากเป็นไปได้ ก็ควรดำเนินการเอาผิดกับท่าน เพราะการกระทำเช่นนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สมควรสำหรับพระ ยิ่งเป็นรองเจ้าอาวาสด้วยแล้ว หากยังมีมีพฤติกรรมเช่นนั้นต่อไป ก็จะก่อปัญหามากมายแก่วัดและพระศาสนา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น