...+

วันเสาร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2556

องุ่น" เป็นอาหารบำรุงร่างกายอีกชนิดหนึ่ง

องุ่น" เป็นอาหารบำรุงร่างกายอีกชนิดหนึ่ง นอกจากจะมีคุณค่าทางอาหาร ยังมีสรรพคุณทางยาที่ดีหลายชนิด สารอาหารที่สำคัญ คือน้ำตาล และสารอาหารจำพวกกรดอินทรีย์อีกประมาณ 7-8 ชนิด น้ำตาลกลูโคส น้ำตาลซูโคส วิตามินซี นอกจากนี้ยังมีเหล็ก และแคลเซี่ยม ส่วนเครือและราก ใช้เป็นยาขับลม ขับปัสสาวะ รักษาโรคไขข้ออักเสบ ปวดเอ็นกระดูก และมีฤทธิ์ระงับประสาท แก้ปวด แก้อาเจียนอีกด้วย

การรับประทานองุ่นเป็นประจำ จะมีส่วนช่วยในการบำรุงสมอง บำรุงหัวใจ แก้กระหาย ขับปัสสาวะ บำรุงกำลัง คนที่ร่างกายผอมแห้ง แรงน้อย แก่ก่อนวัย ไม่มีเรี่ยวแรง ถ้ารับประทานองุ่นเป็นประจำ จะช่วยเสริมทำให้ร่างกายค่อยๆแข็งแรงขึ้นได้

การยับยั้งเซลล์มะเร็งด้วยสารสกัดจาก...'องุ่นแดง'

โรคร้ายที่คร่าชีวิตผู้คนและทำให้เกิดโศกนาฎกรรมอย่างใหญ่หลวงแก่ประชาชนทุกชาติ ทุกภาษา ในวงการแพทย์พบว่าโรคที่มีอัตราการตายสูงมาก คือ โรคมะเร็ง

โรคมะเร็ง ก่อกำเนิดมาจากเซลล์มะเร็งที่เกาะตามอวัยวะต่างๆ เปลี่ยนสภาพในร่างกาย แล้วเปลี่ยนไปเป็นเนื้อร้ายเจริญเติบโตและขยายตัวในหลอดเลือด และน้ำเหลือง จนในที่สุดกระจายไปยังอวัยวะอื่นๆ ในร่างกายจนยากแก่การรักษา โดยเฉพาะหากกระจายไปที่ส่วนสำคัญ เช่น ปอด ตับ และสมอง เป็นต้น ซึ่งอวัยวะดังกล่าวเป็นจุดอ่อนที่เซลล์มะเร็งสามารถเข้าไปทำลายได้ง่าย แล้วก็จะทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตในที่สุด

การรักษาโรคหรือเนื้อร้ายนี้ในวงการแพทย์ได้พยายามวิวัฒนาการ การรักษา และเยียวยาเป็นเวลาช้านาน

ปัจจุบันมีหลายวิธี คือ การผ่าตัด เคมีบำบัดและรังสีรักษา ซึ่งวิธีการดัง กล่าวก็เป้นเพียงแต่ยับยั้งหรือจำกัดการแพร่กระจายได้ในส่วนหนึ่งเท่านั้น โดยเฉพาะในทางเคมีบำบัด และรังสีรักษา อาจมีผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปากอักเสบ ผมร่วง เป็นต้น ซึ่งสร้างความเจ็บปวดหรือทุกขเวทนาแก่ผู้ป่วยจนอาจยุติการรักษาและนำไปสู่การสูญเสียชีวิตในที่สุด

"...พบว่าสารสกัดจากกากองุ่นแดงสามารถ ยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็ง จะหยุดการกระจาย และตายไปในที่สุด ที่ทางวิทยาศาสตร์เรียก อะพอพโตซิส (apoptosis)..."

องุ่นแดง (ประกอบด้วย เมล็ด เนื้อ และเปลือก) มาใช้ในการศึกษาฤทธิ์ความเป็นพิษ ในการยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็งตับอ่อน และมะเร็งท่อน้ำดี ซึ่งเป็นมะเร็งตับที่มีอุบัติ-การณ์สูงสุด ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย พบว่าสารสกัดจากกากองุ่นแดงสามารถยับยั้งการเจริญของเซลล์มะเร็งและหยุดการกระจาย จนตายไปในที่สุด ที่ทางวิทยาศาสตร์เรียก อะพอพโตซิส (apoptosis)

นอกจากนี้ยังมีสาร Ellagic acid ที่สามารถจับและทำลายพิษของสารก่อมะเร็ง โดยเฉพาะ สาร resveratrol ที่พบมากในผิวจากเปลือกองุ่นแดง ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ขณะเดียวกันก็ เพิ่มระบบภูมิคุ้มกันแลัวยังเป็นสารป้องกันและต้านมะเร็งได้ นอกจากนี้ยังมีรายงานจากต่างประเทศว่า สามารถใช้รักษาโรคอัลไซ -เมอร์ พาร์กินสันและ เอดส์ได้อีกด้วย

ดังนั้น หากเรานำเอาสารสกัดที่ได้จากการแปรรูปขององุ่น มาใช้ให้เป็นประโยชน์โดย เฉพาะนำมาสกัดเอาสาร polyphenol เป็นสารที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและเป็นสารต้านมะเร็ง โดยสกัดมาทำยา ซึ่งเราสามารถใช้เป็นทางเลือกใหม่ในการรักษาโรคร้ายนี้ได้ในอนาคต

(สาระน่ารู้)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น