...+

วันพฤหัสบดีที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

โลหิตหมดคลัง!! กาชาด วอนบริจาคช่วยผู้ป่วยด่วน (15 พ.ย. 2555)


           สภากาชาดไทยขาดแคลนโลหิตทุกกรุ๊ป วอนประชาชนบริจาคโลหิตช่วยผู้ป่วยด่วน! เนื่องจากขณะนี้ ปริมาณโลหิตบริจาคลดลงเหลือวันละ1,200 ยูนิต ขณะที่ยอดขอใช้โลหิตของผู้ป่วยในโรงพยาบาลทั่วประเทศเพิ่มสูงเกิน 2 เท่าของโลหิตบริจาค ถึงวันละ 5,000 ยูนิต ส่งผลให้ไม่มีโลหิตเพียงพอสำหรับผู้ป่วยจำนวนมาก


         แพทย์หญิงสร้อยสอางค์ พิกุลสด ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิต
แห่งชาติ เปิดเผยว่า ด้วยขณะนี้ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ประสบปัญหาจัดหาโลหิตไม่ได้ตามเป้าหมาย คือจะต้องได้รับโลหิตบริจาควันละอย่างน้อย 1,500 ยูนิต จึงจะเพียงพอสำหรับผู้ป่วย แต่สถานการณ์โลหิตตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2555 เป็นต้นมาจนถึงขณะนี้ พบว่ามีผู้บริจาคโลหิตลดลงจากเดิมที่ได้รับโลหิตบริจาควันละ 1,500 – 2,000 ยูนิต เหลือเพียงวันละ 1,200 ยูนิต ทำให้ไม่มีโลหิตสำรองคงคลัง ซึ่งตามมาตรฐานต้องมีโลหิตสำรองวันละอย่างน้อย 3,000 ยูนิต จึงจะเพียงพอสำหรับผู้ป่วย


         ในขณะที่ยอดการขอใช้โลหิตสำหรับรักษาผู้ป่วยของโรงพยาบาลต่างๆทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดใกล้เคียงกว่า 120 แห่ง มีจำนวนเพิ่มสูงเกิน 2 เท่าของโลหิตที่ได้รับบริจาค วันละ 5,000 ยูนิต แต่ศูนย์บริการโลหิตฯ สามารถจ่ายโลหิตให้ได้เพียงวันละประมาณ 1,400 ยูนิต เท่านั้น รวมทั้งยอดการขอใช้โลหิตของโรงพยาบาลในส่วนภูมิภาคทั่วประเทศที่เบิกมายังภาคบริการโลหิตแห่งชาติ 12 แห่งทั่วประเทศเพิ่มสูงขึ้นเช่นเดียวกัน จนทำให้ขณะนี้ในภาพรวมของสถานการณ์โลหิตทั่วประเทศ ประสบปัญหาการขาดแคลนอย่างหนัก



         จึงขอวอนประชาชนร่วมบริจาคโลหิตเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยจำนวนมาก บริจาคโลหิตได้ที่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ถนนอังรีดูนังต์



       วันจันทร์, พุธ, ศุกร์ เปิดเวลา 08.00 - 16.30 น.

วันอังคารและพฤหัสบดี เปิดเวลา 07.30 - 19.30 น.
วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดเวลา 08.30-15.30 น.

        ในส่วนภูมิภาค สามารถบริจาคโลหิตได้ที่ ภาคบริการโลหิตแห่งชาติ จังหวัดชลบุรี, สงขลา, อุบลราชธานี, ขอนแก่น, เชียงใหม่, นครสวรรค์, ภูเก็ต และงานบริการโลหิต สถานีกาชาดหัวหินเฉลิมพระเกียรติ

        สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์และจัดหาผู้บริจาคโลหิต โทร. 0-2256-4300 , 0-2263-9600 ถึง 99 ต่อ 1101

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น