...+

วันอังคารที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2555

ผู้ว่าฯกาญจน์ถกด่วนแก้ปัญหาน้ำท่วม



กาญจนบุรี - ผวจ.กาญจนบุรี ประชุมด่วน คกก.แก้ไขปัญหาน้ำท่วม เตรียมประกาศพื้นที่ประสบภัย 3 อำเภอ ระดับน้ำลดลงเกือบปกติ

ความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่กาญจนบุรี เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (30 ก.ย.55) นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้เรียกประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอุทกภัยและดินถล่มจังหวัดกาญจนบุรี ที่ห้องประชุมแควน้อย ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีนายอำเภอทั้ง 13 อำเภอ ปภ.กาญจนบุรี ทหารจาก กองพลทหารราบที่ 9 จทบ.กาญจนบุรี แขวงการทางฯ ชลประทาน เกษตร ปศุสัตว์ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม

โดยในที่ประชุมแต่ละอำเภอได้รายงานสถานการณ์อุทกภัย โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.เลาขวัญ อ.ห้วยกระเจา และ อ.ด่านมะขามเตี้ย ที่มีสถานการณ์ผลกระทบจากน้ำป่าไหลหลากจนสร้างผลกระทบแก่ชาวบ้านและทรัพย์สินจนต้องมีการอพยพชาวบ้านไปอยู่อาศัยในพื้นที่ปลอดภัย

ส่วนอีก 9 อำเภอ รายงานสถานการณ์ว่ามีน้ำท่วมขังในพื้นที่การเกษตร โดยอำเภอทองผาภูมิรายงานเรื่องดินสไลด์ลงมาทับผิวการจราจรบนถนนสายทองผาภูมิ-สังขละบุรี และดินยุบในพื้นที่ ต.ห้วยเขย่ง โดยมี อ.สังขละบุรี เพียงอำเภอเดียวที่ยังไม่มีผลกระทบจากน้ำท่วมขัง

โดยผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้กำชับนายอำเภอและหน่วยงานต่างๆให้เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและหากเกิดปัญหาน้ำหลากเข้าพื้นที่ใดก็ให้ทางอำเภอและ อปท.ในทุกพื้นที่เข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันที โดยการประชุมใช้เวลานานกว่า 2 ชม.

หลังการประชุม นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า จากการที่มีฝนตกในพื้นที่กาญจนบุรีค่อนข้างหนักทุกวัน เป็นเหตุให้เกิดปริมาณน้ำมากขึ้น ขณะนี้ในพื้นที่ 2 อำเภอ ที่ประสบปัญหาน้ำท่วมแล้ว คือ อำเภอห้วยกระเจาและอำเภอเลาขวัญ แต่เกิดเหตุแค่ในบางพื้นที่ ซึ่งพื้นที่นั้นจะประสบปัญหาน้ำท่วม ในทุกปี

เช่น บ้านไผ่สีของอำเภอห้วยกระเจา เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นทางน้ำและเป็นร่องน้ำที่จะไหลเข้ามายังพื้นที่ลุ่ม ทางจังหวัดได้หาทางแก้ไขโดยประสานกับชลประทาน ให้มีการขุดคลองชลประทาน เพื่อไม่ให้น้ำเอ่อล้นออกมา อีกพื้นที่หนึ่งคือที่อำเภอเลาขวัญเป็นจุดที่ประสบปัญหาน้ำท่วมในทุกปีเช่นกัน เป้ฯจุดที่ยากในการป้องกันและแก้ไข เนื่องจากเป็นพื้นที่สูงและราบลงมา

ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวต่อว่า ส่วนแนวทางการช่วยเหลือในขณะนี้ ได้แจ้งให้ทางนายอำเภอและประชาชนว่าถ้าหากน้ำมีระดับสูงขึ้นจนคาดว่าอาศัยอยู่ในบ้านไม่ได้ ให้เตรียมแผนการอพยพออกมา โดยจะใช้โรงเรียนกับวัดเป็นที่พักพิงและให้ทางอำเภอเข้าไปดูแล โดยการจัดอาหารให้รับประทาน 3 มื้อ

ส่วนของมีค่าที่สำคัญให้นำติดตัวมาด้วย แต่ของหนักและไม่จำเป็นให้ยกขึ้นที่สูงภายในบ้าน ส่วนอีกพื้นที่หนึ่งที่ต้องเฝ้าระวังคือ อำเภอด่านมะขามเตี้ย พื้นที่นั้นจะเป็นน้ำที่มาจากจังหวัดราชบุรี ซึ่งมีพื้นที่สูงกว่าอำเภอด่านมะขามเตี้ย น้ำก็จะหลากลง ขณะนี้ได้สั่งการให้มีการเฝ้าระวัง ซึ่งในขณะนี้สถานการณ์น้ำอยู่ในระดับสะพาน ยังไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชน แต่ได้สั่งการให้ทางอำเภอไปเฝ้าดู หากเกิดสถานการณ์น้ำมีระดับสูงขึ้นให้อพยพชาวบ้านออกมาก่อน และให้ใช้โรงเรียนและที่ทำการองค์การบริการส่วนตำบล เป็นที่พักพิง ทางจังหวัดกาญจนบุรีจะเฝ้าระวังทั้ง 3 อำเภอ ส่วนอำเภออื่นสถานการณ์ยังเป็นปกติแต่ก็ยังน่าเป็นห่วง เพราะฝนตกชุกและปริมาณมาก ตั้งแต่พื้นที่ใต้เขื่อนลงมาจนถึงเขื่อนอำเภอเมือง แต่อย่างไรก็ตามจะมีการเฝ้าระวังตลอด

ส่วนทางด้านนายปิยมิตร ไขว้พันธุ์ หน.กลุ่มงานยุทธศาสตร์ สนง.ปภ.จ.ฟกาญจนบุรี เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัยล่าสุดว่า ขณะนี้ภาพรวมของระดับน้ำลดลงมาก โดยในพื้นที่ อ.เลาขวัญ มีน้ำท่วมผิวการจราจรถนนสาย เลาขวัญ- ห้วยกระเจา เหลือแค่ประมาณ 5 ซม. ส่วนน้ำในท้องทุ่งยังท่วมขังอยู่ ส่วนในพื้นที่ อ.ห้วยกระเจา ระดับน้ำลดลงจำนวนมาก ซึ่งหากไม่มีฝนตกซ้ำอีกคาดว่าภายใน 2-3 วันสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนที่ อ.ด่านมะขามเตี้ยตอนนี้ระดับน้ำในลำน้ำภาชีเริ่มลดลงแต่ทางอำเภอก็ไม่ประมาทได้มีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังตลอด 24 ชม. และสามารถแจ้งเตือนประชาชนให้สามารถอพยพได้ทันที

รายงานข่าวว่า กรณีที่นายทองเติม เก้าแพ อายุ 67 ปี ชาวตำบลหนองกุ่ม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ที่ลงไปช่วยเหลือลูกวัวที่ตกลงไปในลำห้วยวังยาว และถูกกระน้ำพัดหายไป โดยเจ้าหน้าที่นักประดาน้ำได้เร่งทำการค้นหาร่าง จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถค้นพบแต่อย่างใด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น