...+

วันศุกร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2555

ยิ่งมีความสงบ ยิ่งเกิดความสุข

ยิ่งมีความสงบ ยิ่งเกิดความสุข
ที่จริง จิตใจเวลามีความปรารถนาต้องการกับ
เวลาไม่มีความปรารถนาต้องการนั้นแตกต่างกันมาก
จิตใจยามมีความโลภหรือความปรารถนาต้องการนั้น
ไม่ได้มีความสุข มีแต่ความร้อนความตื่นเต้น
กระวนกระวายขวนขวายเพื่อให้ได้สมปรารถนา

จิตใจยามไม่มีความปรารถนาต้องการนั้น
มีความสุขอย่างยิ่ง เห็นจะต้องเปรียบง่ายๆ คือ
ในยามหลับกับในยามตื่น

ยามหลับไม่มีความปรารถนาต้องการ
ยามตื่นมีความปรารถนาต้องการทุกคนเหมือนกัน ไม่มียกเว้น
ยามไหนเป็นยามสบายที่สุด ทุกคนตอบได้และคำตอบของทุกคนเหมือนกัน

คนที่หลับแล้ว สงบแล้วจากความปรารถนาต้องการ
ไม่ว่าจะหลับบนฟูกอันอ่อนนุ่มในคฤหาสน์ใหญ่โตมโหฬาร
หรูหราเพียงใด หรือจะหลับอยู่บนดินทรายแข็งระคายเพียงไหน
ย่อมเป็นสุข เพราะจิตใจพ้นจากอำนาจของความปรารถนา
ต้องการที่เป็นเหตุแห่งความทุกข์ความร้อน

แม้คิดเปรียบถึงความสุขและความไม่สุขของคนนอนหลับกับคนตื่นอยู่
กับความสุขและความไม่สุขของคนมีความปรารถนาต้องการรุนแรง
ในใจคนมีความปรารถนาต้องการน้อยก็จะได้พบคำตอบที่ชัดเจน
ที่น่าจะทำให้ตัดสินใจเลือกได้ว่า ควรพยายามทำใจตนเองให้มี
ความปรารถนาต้องการน้อยหรือไม่


สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น