มหาสารคามเผยสถานการณ์โรค มือ เท้า ปาก ในระยะ 8 เดือน ที่ผ่านมา พบผู้ป่วย 223 ราย

by สำนักสารนิเทศ
มหาสารคามเผยสถานการณ์โรค มือ เท้า ปาก ในระยะ 8 เดือน ที่ผ่านมา พบผู้ป่วย 223 ราย งานระบาดวิทยา กลุ่มงานควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมหาสารคาม รายงานจำนวนผู้ป่วย โรค มือ เท้า ปาก ในพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 28 สิงหาคม 2555 มีจำนวน 223 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 23.27 ต่อแสน นายแพทย์สุริยา รัตนปริญญา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดมหาสารคามเปิดเผย สถานการณ์เฝ้าระวังทางระบาดวิทยาของจังหวัดมหาสารคามว่า ในระยะเวลาตั้งแต่ 1 มกราคม – 28 สิงหาคม 2555 ที่ผ่านมามีจำนวนผู้ป่วย โรค มือ เท้า ปาก ทั้งสิ้น 223 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 23.27 ต่อแสน แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต โดยมีรายงายผู้ป่วยในเดือน มกราคม 1 ราย กุมภาพันธ์ 1 ราย มีนาคม 3 ราย เมษายน 5 ราย พฤษภาคม 20 ราย มิถุนายน 37 ราย กรกฎาคม 106 ราย และช่วงเดือนสิงหาคมได้รับรายงานผู้ป่วยเพิ่ม 50 รายกระจายในพื้นที่ 10 อำเภอ อัตราป่วยสูงสุด 3 อันดับแรก คือ อำเภอแกดำ จำนวน 25 ราย อำเภอกันทรวิชัย จำนวน 36 ราย อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จำนวน 32 ราย พบมากในผู้ป่วยกลุ่ม 0-4 ปี อัตราป่วย 559.98 ต่อประชากรแสนคน ซึ่งเป็นเด็กในปกครองคิดเป็นร้อยละ 92.8 ของผู้ป่วยทั้งหมด รองลงมาคืออายุ 5-9 ปี คิดเป็น 38.79 ต่อประชากรแสนคน ในเดือนที่ผ่านมาสถานการณ์มีแนวโน้มลดลง ได้รับรายงาน ณ วันที่ 4 ส.ค. 55สูงสุดต่อวัน 9 ราย ซึ่งในช่วงนี้สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังรักษาสุขภาพของตนเอง ส่วนการดูแลรักษาผู้ป่วย ในกรณีที่เด็กในบ้านยังไม่ป่วย พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรแนะนำให้เด็ก ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ทุกครั้งหลังการขับถ่าย ก่อนรับประทานอาหาร หรือเมื่อสัมผัสกับน้ำมูก น้ำลาย สำหรับผู้ดูแลเด็กให้ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ทุกครั้ง ก่อนเตรียมอาหาร ก่อนรับประทานอาหาร และหลังขับถ่าย หลังเปลี่ยนผ้าอ้อมเด็ก/ล้างก้นเด็กหรือสัมผัสกับสิ่งคัดหลั่งของเด็ก แนะนำให้บุตรหลานหลีกเลี่ยงการเล่นหรือคลุกคลีกับเด็กที่ป่วยด้วยโรคมือ เท้า ปาก ไม่ควรนำเด็กเล็กไปในที่ที่มีคนอยู่จำนวนมาก พ่อแม่ผู้ปกครองช่วยตรวจดูอาการบุตรหลานทุกวัน หากพบแผลในปากหลายแผลให้ช่วยแจ้งแก่โรงเรียนเพื่อให้มีการดำเนินการควบคุมโรคที่เหมาะสม กรณีที่เด็กในบ้านมีอาการป่วย แยกของของใช้เด็กที่ป่วยไม่ให้ใช้ร่วมกับผู้อื่น ทำความสะอาดพื้นห้องและพื้นผิวที่อื่นๆที่เด็กสัมผัสบ่อยๆ รวมถึงห้องสุขา แยกเด็กที่ป่วยไม่ให้คลุกคลีกับเด็กคนอื่นๆทั้งเพื่อนบ้าน และพี่น้องที่อยู่ในบ้านเดียวกัน ขอให้เด็กหยุดเรียนเป็นเวลา 7 วัน นับจากวันเริ่มมีอาการ นับจากวันเริ่มมีอาการ หากเด็กมีอาการป่วยรุนแรงขึ้นเช่น ไข้สูง อาเจียน หอบเหนื่อย ซึม หรืออาการแย่ลง ต้องรีบพาไปรักษาที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที