...+

วันศุกร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2555

เชื่อมสัมพันธ์ "คนบ้านเดียวกัน" แนวคิดหลักผู้นำนศ.มทร.รัตนโกสินทร์




       “มหาวิทยาลัย คือ บ้านหลังที่สองของเรา บ้านเล็กๆ อบอุ่นด้วยเพื่อน พี่ น้อง นอกจากนี้เรามียังเพื่อนๆ อยู่หลายวิทยาเขต แต่เราก็ไม่ลืมที่จะแวะเวียนเข้ามาทักทายและทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อเชื่อมสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอยู่เสมอ”…ประโยคเด็ดจากปาก“สมายด์” นายชลธี ศรีรางวัล นักศึกษาอยู่ชั้นปี 3คณะบริหารธุรกิจ สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ กับตำแหน่ง“นายกองค์การนักศึกษา มทร.รัตนโกสินทร์”
     
       จุดเริ่มต้นของบทบาทหน้าที่หัวเรือใหญ่ ผู้ดูแลทุกข์สุขของเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาว มทร.รัตนโกสินทร์ สมายด์บอกว่า นี้ไม่ใช่เรื่องที่ตนเพิ่งจะอยากทำ แต่ในความเป็นจริงแล้วตนเริ่มทำกิจกรรมมาตั้งแต่เข้าเรียนปี1
     
       “โดยส่วนตัวชอบกิจกรรมมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม พอเข้าสู่มหาวิทยาลัยก็มักจะใช้เวลาว่างเข้าร่วมกิจกรรมกับคณะมาตลอด จนกระทั่งขึ้นปี 3ตัดสินใจลงเลือกตั้งในการเลือกนายกองค์การนักศึกษา จนได้รับตำแหน่ง “นายกองค์การนักศึกษา ปี 2555” จากที่เคยเป็นผู้ร่วมกิจกรรม กลายเป็นคนดูแล ประสานให้กับนักศึกษาทั้งหมด รู้สึกว่าเป็นหน้าที่ยิ่งใหญ่และต้องทำให้ดีที่สุด”
     
       สำหรับภาระหน้าที่หลักของนายกองค์การนักศึกษา คือการจัดสรรกิจกรรมสำหรับนักศึกษาทั้งมหาวิทยาลัยตลอดปีการศึกษา โดยต้องบริหารจัดการ คิดรูปแบบต่างๆ ตลอดจนการจัดหาทุนเพื่อทำให้โครงการนั้นๆ สำเร็จลุล่วงได้ด้วยดี แต่ด้วยข้อจำกัดบางประการ การที่โครงการแต่ละโครงการจะสำเร็จออกมาเป็นรูปร่างได้นั้น จึงไม่ใช่เรื่องง่าย
     
       “หลังจากรับตำแหน่งนายกองค์การนักศึกษา หน้าที่ของผมคือดูแลกิจกรรมของมหาวิทยาลัย ทั้ง4พื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ศาลายา พื้นที่วังไกลกังวล พื้นที่บพิตรภิมุข จักรวรรดิและวิทยาลัยเพาะช่างโดยมุ่งเน้นในสิ่งใหม่ๆให้เกิดขึ้นในกิจกรรมนักศึกษาให้มากที่สุด ยกตัวอย่างเช่น กิจกรรมประชุม สัญจร3พื้นที่1วิทยาเขต กิจกรรมกีฬาสัมพันธ์ 3พื้นที่1วิทยาเขต พยายามปรับรูปแบบของกิจกรรมให้มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน อยากให้ทุกคนมีความสนิทสนม เพราะถึงแม้มหาวิทยาลัยจะมีหลายพื้นที่ หลายวิทยาเขต แต่เราก็รู้จักกัน และอยู่ด้วยกันด้วยความรัก ความอบอุ่น แค่เดินผ่านหน้ากันก็รู้จักกันทุกคน”
     
       ท้ายนี้ สมายด์ บอกว่า ประสบการณ์จากการทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัย การทำงานร่วมระหว่างเพื่อน พี่ น้อง สอนให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น และยอมอุทิศเวลาส่วนตัว เพื่อทำงานให้กับส่วนร่วม
     
       "เราต้องควบคุมตัวเองให้ได้ต้องรู้จักแบ่งเวลาให้เป็นถึงแม้จะเหนื่อย หรือจะหนักในเมื่อรักในการทำกิจกรรมเราต้องทำให้ได้ที่ผ่านมาผมพยายามเก็บเกี่ยวประสบการณ์และเรียนรู้ปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้งว่าเป็นอย่างไร และนำบทเรียนเหล่านั้นมาประยุกต์ใช้กับชีวิตประจำวัน และไม่ลืมที่จะแนะนำให้น้องๆรุ่นต่อไปได้นำไปใช้ประโยชน์”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น