...+

วันศุกร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ข่าวลือ...ข่าวลืม...ข่าวลวง


ข่าวลือ...ข่าวลืม...ข่าวลวง
 กะว่าก๋า   6 ก.ค. 2012 6:53:15








เขียนโดย : กะว่าก๋า






วันก่อนผมกำลังขับรถอยู่

เดี๋ยวก็มีคนโทรมาถามว่าอยู่ที่ไหน

เดี๋ยวก็มีคนโทรมาบอกว่ากลับบ้านด่วน ผมถามว่ามีอะไร


“มีการวางระเบิดที่ห้าง..... กับห้าง.........”


ผมไม่ได้ตกใจและแตกตื่น ค่อยๆถามช้าๆว่า
เกิดอะไรขึ้นที่ไหน เมื่อไหร่ และปิดท้ายคำถามว่า


“เช็คดูรึยังว่าเป็น “เรื่องจริง” หรือเปล่า ?”


กลับมาตรวจสอบข่าวที่โทรทัศน์ภาคค่ำ
ข่าวการระเบิดเป็นเพียงคำขู่ของพวกโรคจิตที่สร้างสถานการณ์
ให้ประชาชนแตกตื่นกลัว



………………………………………



มีเรื่องเล่าว่า
ครั้งหนึ่งมีชายกลุ่มหนึ่งเดินทางมาจากหมู่บ้านหนึ่งไปยังอีกหมู่บ้านหนึ่ง

ขณะเดินผ่านทุ่งนามีกลุ่มนกพิราบสีขาวบินผ่านไป
คนแรกสุดที่ยืนอยู่หัวแถว หันไปบอกคนที่อยู่ถัดไปว่า


“โอ้...นกพิราบสีขาวนี้ช่างสวยงามนัก


เออ..แต่น่าแปลกที่มีนกอีกาตัวหนึ่งบินร่วมฝูงมาด้วย”




คนที่สองถ่ายทอดประโยคให้กับคนที่อยู่ถัดจากเขาไป
ด้วยประโยคเดียวกัน

ทั้งที่ทุกคน ณ ที่นั้นต่างก็เห็นด้วยตาของตนเองว่านกพิราบทุกตัวเป็นสีขาว

และมีอีกาเพียงตัวเดียวที่บินเกาะกลุ่มอยู่ท้ายฝูง
เมื่อเดินไปถึงยังหมู่บ้าน

คนที่เดินรั้งท้ายขบวนก็บอกเล่าเรื่องราวระหว่างที่เดินทางมา

ให้กับคนต่างหมู่บ้านฟังด้วยน้ำเสียงอันตื่นเต้นว่า




“ระหว่างทางที่พวกข้าเดินมา

มีปรากฏการณ์แปลกประหลาดซึ่งพวกท่านต้องไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิตแน่ๆ
คือ มีอีกาเผือกฝูงใหญ่บินมา และในฝูงนกนั้นเอง
กลับมีนกพิราบสีดำบินมาด้วยตัวหนึ่ง”




………………………………………….





เมื่อมนุษย์ตกอยู่ในภาวะแห่งความหวาดกลัว
ไม่ว่าข่าวจริง ข่าวลวง ย่อมส่งผลกระทบต่อความรู้สึกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ท้ายที่สุด ก็นำพาสติที่ควรจะมีให้จากหายไปชนิดกู่ไม่กลับ
มิใช่การประมาท

แต่บางครั้งเราก็ต้องดำเนินชีวิตต่อไปตามปกติอย่างที่มันควรเป็น

คนเราเมื่อถึงที่ตาย ก็ต้องตาย
การวิตกจริตกลัวตายจนไม่กล้าไปไหน ไม่กล้าทำอะไร

ท้ายที่สุดก็มีแต่กัดกร่อนความสุขที่ควรจะมีในชีวิตของตัวเองให้จากจางหายไป




.............................................




“ไม่มีข่าว คือ ข่าวดี”


ผมพยายามติดตามข่าวสารให้น้อยลง
ท่ามกลางกระแสเชี่ยวกรากของข่าวสารอันรุนแรงและทะลักล้น

เราถูกยัดเยียดให้เชื่อว่า เราต้องติดตามข่าวสาร เราต้องไม่ตกข่าว




ในที่สุด..เราต้องเสพรับข้อมูลทั้งที่เป็นสาระและไร้สาระ
มันเยอะเสียจนเราก็แยกแยะและเลือกเสพรับไม่ไหว
บางทีผมเลือกที่จะไม่เปิดรับข้อมูลใดๆเลยในวันหนึ่ง
เพียงเพราะอยากให้สมองได้หยุดพักบ้าง ผมบอกตัวเองว่า
เราไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องหรอกที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
เพราะบางเรื่องเป็นเรื่องจริง
บางเรื่องก็แค่ข่าวโคมลอยอันไร้สาระ
บางเรื่องก็แค่ข่าวลือที่หาความจริงอันใดไม่ได้


และเกือบทุกเรื่อง




เมื่อวันผ่านไป มันกลายเป็นแค่ “ข่าวลืม”

ที่คนเราไม่ได้นึกอยากจะจดจำไว้แม้เพียงนิดเดียว.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น