สองมาตราฐานการเยียวยาหลังน้ำลด
ในพื้นที่ ม.4 ต.บ้านกุ่ม อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา โดย สมาชิกปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน กลุ่ม 3
เป็นที่ทราบกันดี สภาพพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นพื้นที่ราบแอ่งกะทะ เมื่อเกิดฝนตกหนักน้ำจึงไหลมารวมตัวกันมากกว่าจังหวัดอื่นๆ ปัญหาน้ำท่วมจึงเป็นสิ่งที่ชาวบ้านพระนครศรีอยุธยาต่างต้องทำใจและหาวิธีเตรียมรับมือ โดยเฉพาะชาวบ้านที่อำเภอบาลที่ประสบปัญหาน้ำท่วมทุกปี แต่สิ้นปีที่ผ่านมาถือว่าเป็นมหาทุกภัยครั้งใหญ่ที่ท่วมนานกว่า 5 เดือน
ความเสียหายที่เกิดขึ้นมีผลต่อสภาพจิตใจและทรัพย์สิน แม้จะผ่านเหตุการณ์น้ำท่วมมาแล้ว แต่ผลกระทบหลังน้ำลดยังไม่สิ้นเมื่อทีมข่าวโครงการหมาเฝ้าบ้านกลุ่ม3 ได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายของชาวบ้าน พบว่านอกจากชาวบ้านต้องทนทุกข์กับอุทกภัยธรรมชาติครั้งใหญ่แล้ว สิ่งที่ชาวบ้านต้องทุกข์ซ้ำ นั่นความไม่ยุติธรรมของการประเมินความเสียหายของทรัพย์สิน หลังได้รับเงินชดเชยเพียง 200 บาท บางหลังกลับไม่ได้รับเงินชดเชยแม้แต่บาทเดียว ทั้งที่น้ำท่วมเกือบมิดหลังคา
สำเนาเอกสารสรุปยอดจำนวนเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลที่จัดสรรงบประมาณมาเพื่อหวังเยียวยาบ้านเรือนประชาชนที่เสียหายจากเหตุอุทกภัยน้ำท่วมครั้งใหญ่ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ถือเป็นหลักฐานสำคัญที่นางศรีนวล เต็มเปี่ยม ชาวบ้านหมู่ 4 ตำบลบ้านกุ่ม อำเภอบางบาล เข้ายื่นร้องเรียนกับสมาชิกโครงการหมาเฝ้าบ้าน โดยเชื่อว่าจะส่อเค้าการทุจริตเพราะหลังครอบครัวต้องประสบปัญหาน้ำท่วมสูงกว่า 3 เมตรเป็นเวลานานถึง 4 เดือน แต่ครอบครัวกลับได้รับเงินชดเชยเพียง 3,349 บาท ในขณะที่บ้านอีกหลังซึ่งอยู่ห่างกันไม่ถึง 100 เมตรกลับได้รับเงินช่วยเหลือมากกว่าหนึ่งหมื่นสองพันบาท เธอจึงรู้สึกน้อยใจถึงความไม่ยุติธรรมของเจ้าหน้าที่ต่อกระบวนการประเมินความเสียหายทรัพย์สิน ทั้งที่ข้าวของเครื่องใช้ส่วนใหญ่จมน้ำเสียหายไม่ต่างจากครอบครัวอื่น
สอดคล้องกับการลงพื้นที่สำรวจของสมาชิกโครงการหมาเฝ้าบ้าน เมื่อพบว่ายังมีชาวบ้านบ้านกุ่ม หมู่4 อีกหลายครอบครัวที่กำลังประสบปัญหาไม่ต่างกัน นั่นคือความไม่ชัดเจนของการประเมินความเสียหายทรัพย์สินจากเหตุอุทกภัยน้ำท่วม ขณะที่ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ระบุ ไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการประเมินความเสียหายทรัพย์สินที่เกิดขึ้น เพราะทั้งหมดขึ้นอยู่กับการประเมินของช่างเทศบาลที่เข้ามาสำรวจ
ความคลางแคลงใจของชาวบ้านจึงทำให้พวกเขาต้องรวมตัวกันจากหลายพื้นที่กว่า 200 คน เข้ามาชุมนุมเรียกร้องขอความเป็นธรรมจากรัฐบาล เรื่องการจ่ายเงินฟื้นฟูบ้านเรือนที่เสียหาย เมื่อต้นเดือนพฤษาคมที่ผ่านมา เพราะบางหลังได้รับเพียง 300 บาท หรือบางหลังกลับไม่ได้รับเงินชดเชยเลย
ด้านนายชูเกียรติ บุญมี นายกเทศมนตรีอำเภอบางบาล ออกมาระบุถึงสาเหตุของปัญหาทั้งหมดเกิดขึ้นจากความไม่ชัดเจนของรัฐบาล ทั้งหลักเกณฑ์การประเมินความเสียหายและการกำหนดวันยื่นเอกสารขอเงินชดเชยที่มีระยะเวลาสั้นเกินไป จึงทำให้การลงพื้นที่สำรวจความเสียหายไม่ทั่วถึงทุกหลังคาเรือน รวมถึงปัญหาบ้านบางหลังไม่มีเอกสารหลักฐานยืนยันการเป็นเจ้าบ้าน ขณะที่บ้านในเขตเทศบาลพระนครศรีอยุธยากลับได้รับเงินชดเชยสูงกว่าตำบลรอบนอก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีการประกาศภัยพิบัติฉุกเฉิน
เบื้องต้นจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ข้อสรุปให้ชาวบ้านกลุ่มที่ตกสำรวจและกลุ่มที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ให้ส่งเอกสารเดิมเพื่อยื่นอุธรณ์ในการขอรับเงินฟื้นฟูใหม่ โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตั้งคณะกรรมการทำการสำรวจความเสียหาย ตลอดจนอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในการยื่นเรื่องอุธรณ์ใหม่ แม้ขณะนี้คำตอบจากภาครัฐจะยังไม่ชัดเจน แต่จากนี้ไปอีกกว่าเดือนเศษชาวบ้านก็ยังคงรอคำตอบอย่างมีความหวัง
ปฏิบัติการหมาเฝ้าบ้าน
https://www.facebook.com/Watchdog.TAC
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น