จากใจคน astv
อภินันท์ บุญเรืองพะเนา
…ด้วยความเป็นห่วงบ่วงใย มิตรสหายทั้งในและนอกเฟซบุ๊ก ออกปากชวนผมไปทำงานที่อื่น ซึ่งการันตีไม่เพียงแค่สถานการณ์ทางการเงินที่ดีขึ้น หากยังรวมถึงเงินเดือนที่อัพขึ้นด้วย ผมตอบรับด้วยไมตรีและขอบคุณด้วยใจ ผมอยู่ที่นี่มาร่วมสิบปีแล้ว และจะอยู่ที่นี่ต่อไป ตราบเท่าที่องค์กรยังเห็นว่าผมพอมีประโยชน์อยู่
…ส่วนเรื่องการเงินนั้น ยอมรับว่า มันมีช่วงเวลายากๆ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร เมื่อขัดสน เราก็ต้องมาปรับปรุงตนซะใหม่ ใช้จ่ายประหยัด และเหนืออื่นใด ผมอยู่ที่นี่ ผมได้ทำงานในแบบที่ตัวเองต้องการ สุขใจทุกครั้งที่เห็นงานเขียนของตัวเองปรากฎบนพื้นที่ทั้งของหน้ากระดาษและเว็บไซต์
...ผมยังจำได้ถึงความรู้สึกเมื่อครั้งแรกที่งานเขียนตัวเองตีพิมพ์บนหน้ากระดาษของหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ ผมนั่งอ่านซ้ำๆ หลายรอบ ทั้งที่ตอนก่อนส่งงานก็อ่านทวนไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ อ่านจบก็ตัดเก็บเข้าใส่แฟ้ม กลับบ้านต่างจังหวัดที ก็เอาไปให้แม่ดู แม่เห็นชื่อลูกตัวเองบนหน้ากระดาษ ก็ยิ้มอยู่นั่นแล้ว แม่อ่านหนังสือไม่คล่อง ก็ให้หลานๆ อ่านงานเขียนของผมให้ฟัง แม่ไม่รู้หรอกครับว่าอะไรคือวิจารณ์หนัง แต่ผมสัมผัสได้ว่าแม่มีความสุขกับสิ่งที่ลูกทำ นึกถึงหน้าแม่ทีไร ก็มีกำลังใจขึ้นมา
...แม่บอกผมเสมอว่า “อย่าคิดมาก” ผมก็พยายามไม่คิดมากให้ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ก็สู้ๆ มันไป แน่ล่ะครับ ผมอาจจะลำบากกับเรื่องเงินๆ ทองๆ ก็บอกตัวเองว่ามันก็แค่ช่วงหนึ่งเท่านั้นล่ะ และจะว่าไป มันก็ขึ้นอยู่กับตัวผมเอง เพราะด้วยความสามารถที่พอมีอยู่บ้าง ผมก็รับเขียนให้ที่โน่นที่นี่บ้างตามแต่อัธยาสัยไมตรีของผู้จ้างจะหยิบยื่นให้ อยากอยู่กับสิ่งที่ตัวเองทำแล้วมีความสุข ก็ต้องขยันครับ “เขียนหนังสือให้มากขึ้น” จะตื่นนอน หรือก่อนนอน ผมบอกตัวเองแบบนี้ล่ะครับ
Marnfah Goldfinger เงินเดือนงวดแรกออก 5,000 บาท เมื่อวันที่ 5 เมษยน ที่ผ่านมา ส่วนอีก 5,000 บาท จะออกวันจันทร์ที่ 23 นี้ ส่วนที่เหลือไม่ทราบชะตากรรม เอวัง ก็ด้วยประการฉะนี้
Marnfah Goldfinger คนที่ทำงานที่นี่ได้ ฐานะทางบ้านต้องไม่ธรรมดา ถึงจะอยู่ทน(ประชดนะครับ) หักค่าเช่าบ้าน ค่ากิน แทบไม่ไหว ที่นี่ค่าตอบแทนสูงกว่าสื่อบางค่าย แต่รายได้มาจากสื่อเมเนเจอร์ออนไลน์เท่านั้น เอเอสทีวีไม่ต้องพูดถึง โฆษณานับตัวได้ จากอำพลฟู้ดส์ จากเครือสหพัฒน์ ฯลฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น