...+

วันศุกร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2555

ทำบุญ ย่อมได้บุญ

ปัญหาของคนอยากได้บุญมาก มักจะถามว่า เวลาทำบุญควรจะอธิษฐานขออะไรไหม ท่านที่เคร่งวิชาการจะสอนว่าไม่ควรจะอธิษฐานขอ เพราะเป็นความโลภ บางคนเลยเถิดไปถึงกับว่า ตักบาตรทัพพีเดียวขอสวรรค์ เป็นการค้ากำไรเกินควร ข้อนี้มีข้อมูลให้ท่านเลือกพิจารณา ดังนี้

1. เส้นทางตรงเข้มข้น ท่านจะสอนว่า ให้อธิษฐานดังนี้

“ขอให้บุญกุศลที่ข้าพเจ้าทำในครั้งนี้ จงเป็นปัจจัยให้ถึงพระนิพพานเถิด “

ความหมายของท่านก็คือ เอาพระนิพพานตั้งไว้เป็นหลักชัย ทีนี้เมื่อเราทำบุญ ย่อมมีผลบุญอยู่แล้ว ก็ให้ผลจัดแจงให้เราเองจะพาไปยังไงก็ตาม ปล่อยให้กรรมจัดแจงแต่ผู้เดียว

2. เส้นทางอ่อนละมุน ด้านนี้ ท่านจะสอนว่า อธิษฐานได้แต่ต้องเข้าใจให้จบกระบวนความ คือ อันว่าปุถุชนนี้ จะลัดนิ้วมือเดียวไปพระนิพพานนั้นลำบาก ก็ค่อยเป็นค่อยไป แม้ว่าการอธิษฐานจะเป็นความโลภ ท่านว่า อาศัยโลภละโลภ อาศัยตัณหาละตัณหา คือ อาศัยตัณหา ( ความอยากทำบุญ ) ละ ตัณหา ( อยากไปสวรรค์ )

อย่างน้อย การขออะไร ในตอนแรกเริ่มปฏิบัติธรรม ก็คือ เรายังอุดมไปด้วยกิเลส พอทำบุญ ศึกษาธรรมไปนานๆ เข้าใจธรรมะ เห็นบุญที่สูงขึ้นๆ ต่อไปก็เลิกขอไปเอง ขั้นอนุบาลก็ขอไปก่อนได้

ในพระไตรปิฎกจึงมีนิทานที่แสดงถึงอานิสงส์ของการอธิษฐานเอาไว้มากมายหลายเรื่อง เช่น

หญิงผู้หนึ่ง ชี้ทางให้พระภิกษุผู้มาหาร้านขายน้ำผึ้ง เพื่อเอาไปปรุงยาให้แก่ ภิกษุป่วย นางชี้ทางให้ และตามไปดูว่า เจ้าของร้านจะถวายหรือไม่ ถ้าไม่ถวาย นางจะซื้อถวายเอง เจ้าของร้านได้ถวายน้ำผึ้งจนล้นบาตรและอธิษฐานขอให้ได้ไป เกิดเป็นจักรพรรดิ นางจึงอธิษฐานว่า ถ้าคนขายน้ำผึ้งเป็นจอมจักรพรรดิเมื่อใด ขอให้นางไปเกิดเป็นมเหสีของท่าน และก็ได้สมหวังทั้งสองคน

นี่แค่ชี้ทางไปร้านน้ำผึ้งเท่านั้นนะ โอ้โฮ ! ว้าว

เจ้าของร้านขายน้ำผึ้งถวายน้ำผึ้ง ไม่ได้ถวายน้ำเปล่าเลย จะเป็นไรไหมเนี่ย...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น