...+

วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ชีวิตคู่....น่าคิดโดนใจมากๆ

ผมในฐานะผู้ชายไทยคนหนึ่งที่รักภรรยามากๆ อยากจะเล่าเรื่องตัวเองกับภรรยาให้ฟังบ้างครับ ภรรยา
ผมตั้งแต่คบมา 12 ปีนั้น ไม่เคย:

1) ไม่ทำงานบ้านใดๆเลย ไม่ชอบและไม่ทำ มีบ้างนานๆครั้ง นับครั้งได้
2) ไม่ทำอาหารให้ทานเลย
3) ไม่ชอบเลี้ยงสัตว์ในบ้าน ผมรักหมามาก แต่ เมียไม่ให้เลี้ยงก็ไม่เลี้ยง (วุ้ย) เมียกะหมานะ เลือกหมา เอ้ย..เลือกเมียอยู่แล้ว
4) ไม่เคยพูดคำหวานหรือให้การด์ในวันสำคัญ ผมต่างหากชอบ surprise เค้าทุกครั้ง (มีบ้างที่เค้าให้การด์ คือผมทวง!)
5) รายได้ผม เดือนเป็นแสนๆ เค้าเก็บบริหารในบ้านหมด ผมได้ใช้อาทิตย์ละ 1500 ครับ น้อยกว่าเด็กจบใหม่อีก
6) ขี้บ่นมากๆๆ บ่นทุกเรื่องที่บ่นได้
7) ไม่ชอบแต่งตัว ไม่เคยแต่งหน้าไปทำงานในชีวิต
8) ไม่ค่อยเปิดมือถือ จนเพื่อนเค้ารำคาญกันไปหมดแล้ว
9) ไม่ชอบเดินห้าง ไม่ชอบของทันสมัย hi-tech ซึ่งตรงข้ามกับผม

แต่....

ผมรักเธอมากยิ่งกว่าชีวิตผม ผมตายแทนเมียได้ทุกเมื่อ

เงินประกันชีวิตเป็นชื่อเธอคนเดียว ทุกข้อที่ยกตัวอย่าง ส่วนใหญ่ผมรับได้แต่ต้น
บางข้อผมอึดอัดในตอนแรก แต่คุยกันแล้วผมรับได้ครับ และตามใจเธอทุกอย่าง
อะไรที่ทำแล้วแฟนผมมีความสุข ผมทำให้ได้ทุกอย่าง

ทุกวันนี้ชินและมีความสุขมากๆๆ ถ้าภรรยาผมไปปรับปรุงตัวเองให้เด่นหรือแปลกไป ผมคงรับไม่ได้ครับ

เพื่อนล้อว่า กลัวเมียบ้าง ผมเฉยครับ และบอกว่าผมมีความสุขมากๆอยู่แล้ว ไม่แคร์ใครครับ

ระหว่างเพื่อนกับเมีย ผมเลือกเมียครับ เวลาคุณแก่ เวลาคุณป่วย เวลาคุณจะตาย
คุณจะกุมมือเพื่อนแล้วร้องไห้หรือป่าวครับ?

ลูกเมียต่างหาก คือคนที่จะแบ่งปันทั้งสุขและทุกข์กับเรา
ผมโชคดีที่มีเพื่อนดีๆ ที่ไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวผมมาก
ชีวิตผม ผมเลือกเองครับ ผมรักของผมแบบนี้

สิ่งที่จะบอกทุกคนคือ
1) คุณเลือกแฟนของคุณแบบนี้เอง ถ้าเค้าไม่ถูกใจเรื่อง X จะบ่นไปทำไม
2) No one is perfect. คุณก็ไม่ perfect ผมก็ไม่ perfect แต่ถ้าคนสองคนรักกันมากๆ เราจะ
มองแต่ข้อดีของกันและกันครับ Positive thinking กับชีวิตครับ แล้วชีวิตจะมีความสุข
3) อย่าไปเปรียบเทียบชิวิตคู่เรากับคนอื่น "เทียบสูงไม่เท่า เทียบต่ำยังเหลือ" เรายังโชคดีกว่าคน
หลายล้านในโลกที่มีโอกาส "รัก" และ "ถูกรัก"

หลายคนไม่มีโอกาส แม้แต่จะเดิน พูด หรือทานข้าวเอง
ผมและครอบครัวเพิ่งไปบริจาคเงินและเลี้ยงเด็กพิการปากเกร็ดมา
ชีวิตหลายร้อยชีวิตในที่แห่งนั้นลำบากกว่าเรา เป็นร้อย เป็นพันเท่า

และใครบางคนมัวแต่วิจารณ์สิ่งที่ไม่ดีของคนข้างตัวที่เราเป็นคนเลือกเอง
นิ้วหนึ่งนิ้วที่ชี้ต่อว่า แฟนคุณนั้น อีกสี่นิ้วชี้หา ตัวคุณเองด้วยนะครับ

ถ้าคุณเบื่อแฟนคุณเรื่องนั้นเรื่องนี้ แล้วไปมีคนใหม่
เดี๋ยวคุณก็หาเรื่องติ หาเรื่องว่า แฟนคนใหม่คุณได้อีก
คุณไม่รักและภูมิใจในแฟนคุณ แล้วใครจะรักครับ
และผมไม่อยากให้ผู้หญิง เอาเรื่องผมไปให้แฟนคุณอ่านเพื่อให้ทำตามนะครับ คนไม่ใช่หุ่นยนต์ครับ

กรุณาเคารพตัวตน ปัจเจกชนของผู้ชายแต่ละคนที่ไม่เหมือนกันด้วย

เพราะผู้หญิงหลายคน หรือคุณเอง ก็ทำสิ่งดีๆที่แฟนผม ทำให้ผมมากมายไม่ได้

ภรรยาของผม มีข้อดีเป็นล้านๆๆข้อ มากกว่าข้อเสีย 9 ข้อข้างต้น เช่น

เป็นเด็กเรียน ไม่เคยเที่ยวกลางคืนในชีวิต
ไม่ดื่มเหล้าเบียร์ และเล่นอบายมุขใดๆ และเป็นคนใจบุญมากๆ
ท่องชินบัญชรได้คล่อง ตอนแต่งงาน เธอท่องบทสวดได้หมด ผมไม่ได้เลย! อายสุดๆๆ

สุดท้ายผมก็พัฒนา เรื่องทางธรรมไปให้ใกล้เธอมากที่สุด พยายามครับ
ภรรยาผมให้นมลูกเองมา 2 ปีกว่า เหนื่อยมากๆ แต่เธอไม่บ่นสักคำ
ผมซึ้งมากครับ มีกี่คนในประเทศที่เป็นแบบนี้
ผมภูมิใจของผมเองนะ ไม่ได้จะโอ้อวดนะครับ ผมจะถอยรถ Accord ป้ายแดงให้ภรรยา
เธอยืนยันขอขับรถเล็กคันเก่าสองแสนโลไปเรื่อยๆ "เก็บเงินให้ลูกดีกว่า" เธอว่างั้นครับ
เรื่องฟุ่มเฟือยอื่นๆไม่ต้องพูดถึง เธอใช้มือถือรุ่นเก่าสุดๆครับ
ยิ่งไปกว่านั้น ผมเป็นแฟนคนแรกในชีวิตเธอครับ เดี๋ยวนี้อย่าถามวัยรุ่นสมัยนี้เลยครับเรื่องนี้

อายุสามสิบต้นๆ เราปลดหนี้บ้าน 150 ตารางวาแถวรามคำแหง ราคาตลาดตอนนี้ 8-10 ล้าน ในเวลา
เพียง 6 ปี เรามีรถหลายคัน เรามีทุกอย่างที่เราอยากได้ มีเงินเก็บเป็นล้าน ไปเที่ยวเมืองนอกทุกปี
ด้วยการบริหารเงินในบ้านของเธอ เราคิดว่าก่อนสี่สิบ เราสามารถเกษียณตัวเองได้ ถ้าเราอยากทำ

ทั้งที่เราสองคนเริ่มต้นจากศูนย์ทั้งคู่ โหนรถเมล์มาด้วยกัน ทุกอย่างมาจากสองมือเรา
ไม่มีจากที่บ้านเลย เพราะที่บ้านเราทั้งสอง รับราชการทั้งคู่ครับ

ผมอยากสรุปสั้นๆว่า

ถ้าเรามัวหลงละเลิงกับกิเลสรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นกิ๊กใหม่ที่ดูสาวกว่าแฟนเรา ดูหนุ่มที่ดูดีกว่าแฟนเรา
ปรับตัวเราให้ดึงดูดเค้า

เราจะไม่มีวันพอใจกับคู่และชีวิตเลยครับ
คุณจะเหนื่อยตลอดชีวิต
และไม่มีวันพบรักแท้

ลองนึกเล่นๆว่า ถ้าสมัยรุ่นคุณพ่อคุณแม่เราสมัยนั้น เป็นแบบรุ่นเราบางคน สังคมไทยคงวิบัติสุดๆครับ
เราคงไม่อยากให้รุ่นลูกรุ่นหลานของเรา นำด้านไม่ดีของรุ่นเราไปปรับใช้นะครับ

เหรียญมีสองด้านครับ อยู่ที่มองด้านไหน คุณอาจจะปรับตัวเองเพื่อหลอกบางคน บางเวลาได้
แต่คุณหลอกทุกคน ทุกเวลาไม่ได้ เป็นตัวของตัวเองดีที่สุดครับ
เค้าจะรักที่ตัวคุณ ไม่ใช่เสื้อผ้า เครื่องประดับ หรือเงินคุณ

จงพอใจกับคู่ของคุณเพราะ "คุณเป็นคนเลือกเองครับ"
ด้วยความปราถนาดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น