...+

วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2555

คนเชื่อข่าวลือที่ทำให้เราเสียหาย

นอสตราดามุส ชาวมายา เด็กชายปลาบู่ หมอดูแถวบ้าน พระอาจารย์ที่เคารพ ตั้งแต่หลวงพี่ หลวงปู่ยันฤาษี ศาสดาที่น่าเลื่อมใส ลาสซโล ศาสตรจารย์UFO "เหล่าผู้วิเศษที่รู้จริง" ทั้งหลาย เราจะเชื่อใครได้ครับ? เราเคยสงสัยมั้ยว่า เราเชื่อคนเหล่านั้นเพราะอะไร?
อีกอย่างชาวมายาไม่ได้ทำนายว่าโลกจะสิ้น แต่คนที่เอาหนังสือมาขายมันสรุปเอาเอง แล้วชาวมายาเป็นใคร? อะไรทำให้เราต้องเชื่อชาวมายา มากกว่าหนึ่งสมองสองมือ สองลูกตาของเรา ถ้าสมมติว่าชาวมายาทำนายไว้จริง ทำไมเราถึงต้องไปเชื่อชนเผ่าที่ไม่สามารถปกป้องชนเผ่าของตัวเองไว้ได้

อาจารย์ว่าชาวสยามตอนก่อนจะเสียกรุงทั้งสองครั้ง จะรู้สึกเหมือนที่อาจารย์รู้สึกหรือไม่ ว่า "สยามคงกู่ไม่กลับแล้ว"
กรุงศรีอยุธยาล่ม แต่สยามก็อยู่รอดมาจนเป็นประเทศไทยได้จนทุกวันนี้
การที่เรามองเฉพาะข้อเสียของคนในสังคม มองเฉพาะความเสียหายที่เกิดจากสถานการณ์ แล้วสรุปว่ายังไงสังคมนั้นก็ไปไม่รอด มันเป็นการวิเคราะห์ที่หละหลวมเกินไป
โอกาสที่สังคมจะเจอกับวิกฤติแล้วล่มสลายมี แต่โอกาสที่สังคมจะเรียนรู้จากวิกฤติแล้วอยู่รอดต่อไปก็มีเช่นกัน ขึ้นอยู่กับเหตุและปัจจัย เราจะมองแค่เหตุและปัจจัยที่เอื้อต่อการล่มสลายเพียงไม่กี่อย่าง แต่ไม่มองเหตุและปัจจัยที่เอื้อต่อการอยู่รอดไม่ได้

อีกอย่างผมคิดว่าเราจะโทษเฉพาะนักการเมืองเลว เสื้อแดง และพวกเป็นกลางฝ่ายเดียวไม่ได้ ทั้งเสื้อเหลือง หรือใครก็ตามคิดว่าตัวเองตื่นแล้ว รู้แล้ว ดีแล้ว ฉลาดแล้ว และเป็นพวกสร้างสรรค์ ต้องลองหันมาพิจารณาตัวเองว่าอะไรทำให้เราไม่สามารถแก้ปัญหาได้สำเร็จ เราคาดหวังมากเกินไป หรือเรายังทำไม่ดีพอ หรือทั้งสองอย่าง ถ้าเป้าหมายของเราคือโน้มน้าวคนอื่น ทำไมคนอื่นไม่ฟังเรา ไม่เชื่อเรามากอย่างที่เราหวัง
ถ้าเป้าหมายของเราคือขัดขวางนักการเมืองเลว ทำไม นักการเมืองเลวมันถึงเข้ามามีอำนาจอยู่เสมอ ที่สำคัญคือมันไม่ได้มีทีท่ากลัวอะไรเราเลย
ทำไม?

คนเชื่อข่าวลือที่ทำให้เราเสียหาย เพราะคนอื่นโง่กว่าเราอย่างเดียว หรือเพราะเราชี้แจงไม่เป็น และมักจะทำให้ตัวเองดูไม่มีความน่าเชื่อถือด้วย?
นักการเมืองเลวเข้ามามีอำนาจได้ เพราะเสื้อแดงเห็นแก่เงิน เลือกมันเข้ามา เพราะสื่อไม่มีจรรยาบรรณ เพราะทหารไม่ทำอะไรอย่างเดียว หรือเพราะเราในฐานะประชาชนเราทำได้แค่เดินไปยื่นหนังสือ หรือยืนด่านักการเมืองเลวกลางถนนเพียงแค่นั้น?
เมื่อไหร่ก็ตามที่เราบอกว่าเราทำดีที่สุดแล้ว แต่เราไม่เคยยอมรับและพิจารณาความบกพร่องของเราเอง ไม่กล้าสงสัยความเชื่อและทัศนะคติของเรา นั่นก็เท่ากับเรายังคงความบกพร่องไว้เหมือนเดิม แปลว่าปัญหาก็จะยังอยู่เหมือนเดิมเช่นกัน
ใจแคบ ไม่มีมารยาท ขาดความสามัคคี งมงาย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น