...+

วันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2555

จดหมายจากนักโทษชาย ถึงคุณดังตฤณ

จดหมายจากนักโทษชาย ถึงคุณดังตฤณ

เรียนเจ้าหน้าที่บริษัทยูไนเต็ดโปรดักชั่นเพรสจำกัด

กระผม นช............ผู้ต้องขังเรือนจำกลางลพบุรี ได้อ่านหนังสือจากห้องสมุดของทางเรือนจำ คือหนังสือดังตฤณวิสัชณา ฉบับรู้คุณ แทนคุณ ในการพิมพ์ครั้งที่ 1 เดือนธันวาคม 2552 ซึ่งพิมพ์ที่บริษัทยูไนเต็ดฯของท่าน และกระผมมีคำถามอยากถามคุณดังตฤณ แต่กระผมไม่อาจทราบที่อยู่ที่จะติดต่อคุณดังตฤณได้ จึงเขียนมายังบริษัทของท่าน เพื่อขอความอนุเคราะห์ท่านช่วยส่งจดหมายฉบับนี้ต่อไปยังคุณดังตฤณด้วย จะเป็นพระคุณยิ่ง โดยคำถามที่ผมจะเรียนถามคุณดังตฤณมีดังนี้

กระผมเป็นลูกชายคนเดียวของคุณพ่อ คุณแม่ กระผมถูกจับและเข้ามาอยู่ในเรือนจำตั้งแต่ 1 ก.พ. 53 อยู่จะได้ปีกว่าๆ คุณพ่อของผมก็เสียชีวิตด้วยอาการหัวใจล้มเหลว เมื่อ 1 นาฬิกาของวันที่ 17 ต.ค. 54 ที่ผ่านมา โดยที่กระผมไม่สามารถออกไปกราบศพคุณพ่อได้เลย ตอนนี้คุณแม่ก้อยู่คนเดียว เพระาผมก็ยังไม่พ้นโทษ ผมจึงอยากเรียนถามคุณดังตฤณว่า เรื่องดังกกล่าวเป็นเวรกรรมอันใดของใครกันแน่ ระหว่างคุณพ่อ-คุณแม่ หรือของกระผม หรือทั้ง 3 คน
และกระผมขอคำแนะนำและข้อคิดดีๆที่จะนำไปปลอบใจคุณแม่ของกระผมที่ตอนนี้กำลังโศกเศร้าเสียใจ จากการที่ต้องพลัดพรากจากสามีผู้เป็นที่รักไป อย่างไม่มีวันกลับ และลูกชายคนเดียวที่เหลืออยู่ก็ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ไม่สามารถพูดคุยและปรับทุกข์ได้

กระผมขอเรียนถามคุณดังตฤณเพียงเท่านี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความอนุเคราะห์จากคุณดังตฤณด้วยดี ทั้งนี้กระผมได้แนบซองเปล่าติดแสตมป์ จ่าหน้าวองถึงตัวกระผมมาพร้อมจดหมายนี้ เพื่อความสะดวกของคุณดังตฤณในการตอบจดหมายของกระผมกลับมา และขอให้ผลบุญที่คุณดังตฤณได้ช่วยเหลือกระผมในครั้งนี้ ส่งผลให้คุณดังตฤณประสบความสุขและความสำเร็จทุกประการเทอญ

ขอแสดงความนับถือ
น.ช..................
15 พ.ย. 54

ถึง คุณ ..........

ขอแสดงความเสียใจ ทั้งกับการสูญเสียอิสรภาพของตัวเอง และกับการจากไปของคุณพ่อ แต่ก็ดีใจด้วยครับกับสิ่งมีค่าที่เหลืออยู่ คือใจที่รู้คุณ ตลอดจนการเหลือโอกาสแทนคุณได้จริงกับคุณแม่ผู้ให้ความเป็นมนุษย์ในร่มพุทธศาสนากับคุณมา

ไม่มีข้อคิดดีๆอันใด จะช่วยให้คุณแม่มีใจเป็นกุศลได้เท่ากับการได้ทราบว่าลูกชายพบกับหน้าต่างบานใหม่ของชีวิต ที่อ้ารับแสงสว่างเข้ามาถึงกลางใจได้ เพื่อจะให้ท่านเชื่อจริง คุณไม่ควรแค่พูดปลอบ แต่จะต้องช่วยให้ท่านสว่างตาม เป็นสุขตาม ในท่ามกลางความทุกข์โศกที่ยากจะบรรเทาให้เบาบางลงได้นี้

บอกท่านว่าใจคุณอยากบวชแทนคุณให้กับพ่อแม่ และแม้จะยังไม่อาจออกมาเป็นอิสระเพื่อเข้าวัดได้เดี๋ยวนี้ คุณก็ทราบวิธีเป็นพระดีด้วยการรักษาศีล คือ ตั้งใจงดเว้นบาปทั้ง ๕ ประการ ตลอดจนวิธีเจริญสติ คือ การเฝ้ารู้ไปเรื่อยๆว่าลมหายใจที่เข้าบ้าง ออกบ้าง ยาวบ้าง สั้นบ้าง ล้วนกำลังแสดงความไม่เที่ยงให้เราเห็นอยู่ตลอดเวลา

เมื่อลมหายใจอันเป็นหลักของชีวิตนี้ไม่เที่ยง เราก็ไม่อาจรักษาส่วนอื่นๆของชีวิตให้เที่ยงได้ เดี๋ยวมันก็สุข เดี๋ยวมันก็ทุกข์ เดี๋ยวมันก็สว่าง เดี๋ยวมันก็มืด เป็นไปตามกรรมและเหตุปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ในโลกนี้ บอกท่านว่าคุณจะใช้เวลาในเรือนจำเท่าที่เป็นไปได้ ในการเพียรเพื่อให้เกิดสมาธิ และเป็นสมาธิชนิดที่เอาไว้รู้อนิจจังของกายใจ ทั้งนี้ก็เพื่อจุดมุ่งหมายสำคัญ คือสร้างบุญขั้นสูงสุดในพุทธศาสนามาอุทิศแด่คุณพ่อ กับทั้งจะได้เผื่อแผ่ความยินดีให้คุณแม่ โดยการเล่าให้คุณแม่ฟังเป็นระยะๆ ว่าคุณได้เข้าใจ ได้คืบหน้า และได้รู้สึกถึงพระสัทธรรมในกายใจของคุณเองอย่างไรบ้าง ในแต่ละวัน หรือแต่ละอาทิตย์ที่ผ่านไป

บอกท่านว่าคุณจะทำทุกอย่างเพื่อให้แม่จดจำไว้ แม้ลูกชายจะมีกายเป็นนักโทษ แต่ใจของเขาก็จะเป็นพระเพื่อท่านไปจนตลอดชีวิตที่เหลือ

ดังตฤณ
๒๖ ธันวาคม ๕๔

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น