...+

วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2555

เข้าใจตัวเองแล้วจะเห็นใจคนอื่น

เข้าใจตัวเองแล้วจะเห็นใจคนอื่น

กว่าจะเลิกอยากให้คนอื่นเข้าใจคุณ
คุณจำเป็นต้องเข้าใจตัวเองให้ขาด
และเห็นใจคนอื่นมากๆได้เสียก่อน



คนเราไม่มีเวลาพอจะไปศึกษารายละเอียดชีวิตใครอื่น
แต่มักอยากให้ใครอื่นมาศึกษารายละเอียดความรู้สึกนึกคิด
ตลอดจนเหตุผลที่มาที่ไปของชีวิตเรา
ผลคือผู้คนในโลกกลายเป็นความน่าเจ็บใจ
เป็นที่ตั้งของช่องว่างที่กว้างใหญ่
เหลียวไปเจอแต่ช่องว่างที่น่ารู้สึกอ้างว้างเป็นที่สุด


แต่พอเข้าใจเหตุผลที่มาที่ไปของตัวเองชัดเจนจริงๆ
ปราศจากอคติหรือความคิดเข้าข้างตัวเองจริงๆ
เราจะเริ่มมองไปอีกอย่าง เห็นไปอีกทาง
รู้สึกว่าทั้งโลกเต็มไปด้วยความหิว
ผู้คนต่างก็หิวกระหายความเข้าใจ อยากได้กำลังใจ
อยากได้ใครสักคนหรือหลายๆคนยืนอยู่ข้างตน


และความอยากให้คนอื่นเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ตามใจตน
ก็เป็นชนวนให้เกิดความผิดหวัง ไม่สมปรารถนา
และธรรมดาคนเรานะครับ เมื่อไม่ได้ดังใจก็ด่ากัน
อยากยกล้อใส่กันเสียหน่อย
ด้วยความเก็บกดอัดอกที่เขาไม่ได้ดังใจ


พอเห็นมากๆ ทำความเข้าใจมากๆได้จริง
จากความขี้สงสารตัวเอง
ก็จะแปรเป็นอุเบกขาแห่งความเข้าใจว่า
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ไม่ใช่เป็นไปตามความคาดหวังของใคร
ไม่มีใครสร้างรายละเอียดของชีวิตได้
ด้วยการเจาะจงบังคับเอาดังใจ
แม้ตัวเราก็เป็นอย่างนี้มาได้ด้วยกรรมที่ทำตัวเองไว้ทั้งสิ้น
คุณจะเห็นใจตัวเองและคนอื่นอย่างมีอุเบกขา
ไม่ใช่ฟูมฟายสงสารตัวเองหรือคนอื่นอย่างสูญเปล่า


ยามต้องการความเข้าใจ
เมื่ออยากให้รู้ว่าฉันไม่ได้แย่แบบที่เธอคิด
ขอให้ระลึกว่าเราเรียกร้องให้คนอื่นเข้าใจ
ที่แท้อยากให้เขา "เห็นใจ" ต่างหาก
เมื่อไหร่เริ่มลงมือทำความเข้าใจตัวเอง
ผ่านการเห็นความสบายและความอึดอัดตรงๆ
เห็นตรงๆว่าไม่มีอะไรในกายใจของเราเที่ยง
มีแต่เหตุปรุงประกอบเป็นครั้งๆ
นานไปก็จะเข้าใจ "ภาวะของตัวเอง"
เห็น "สภาพทางใจของตัวเอง" ชัดเจน
จนเลิกอยากให้คนอื่นเห็นใจเราอย่างเด็ดขาดได้
เพราะไม่ทราบจะให้เขามาร่วมเห็นสภาพไม่เที่ยงทางใจไปด้วยทำไม
มันก็มีของมันอยู่แค่นี้ เกิดขึ้นแล้วเดี๋ยวก็ดับลงเป็นธรรมดา
ที่จะไม่ธรรมดาก็เพราะความอยากไม่เข้าเรื่องวูบๆวาบๆเท่านั้น


และพอเลิกอยากให้คนอื่นเข้าใจนะครับ
กระแสความเข้าใจคนอื่นจะเริ่มก่อตัวขึ้นในเราเอง
ตลอดจนดึงดูดเขามาสนใจเราด้วยความรู้สึกที่ดีขึ้นไปแทน
นี่คือธรรมชาติของจิตที่แผ่ออกไปด้วยกระแสเมตตาโดยแท้


ดังตฤณ
มกราคม ๕๕

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น