...+

วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ตั้งหลัก

ธรรมะสวัสดีค่ะ หนูมากับน้ำเลยนะคะในบทความนี้ เพราะไปที่่ไหนๆก็มองเห็นแต่น้ำ ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม (ทางทีวี)และเชื่อว่าหลายท่านอาจจะคุ้นชินกับภาวะภัยพิบัติแบบจัดให้แกมบังคับ ไม่ว่าจะมาจากทางไหนก็ตาม แต่หลายๆท่านก็ยังผวาเพราะมวลน้ำขนาดใหญ่จ่อหน้าบ้านอยู่ใช่ไปไหมคะ
ยามค่ำคืนบางท่านก็อาจจะนอนผวาแถมมีละเมอว่ามันจะมาเมื่อไรอีกก็ได้ และบางท่านอาจจะขอบตาดำเพราะอดนอน มัวแต่เฝ้าว่าเมื่อไรมันจะมาเพราะอยู่พื้นที่เฝ้าระวัง แต่ก็มีบางท่านนอนหลับสนิทจนน้ำสะกิดท่วมถึงเอวก็มี
อย่างไรก็ตามเราก็ยังคงได้รับข่าวสารอย่างเต็มเปี่ยมตั้งแต่เอาอยู่จนเอาไม่อยู่ น้ำจะตีโอบทางไหน ใครเป็นคนรื้อคันกั้นน้ำ(แต่จับไม่ได้)เรื่องแตกแยกความคิดที่คลองสามวาสองศอก
แม้กระทั่งเราจะได้รับการเยียวยาหลังภาวะภัยพิบัติอย่างไร(ก็ไม่รู้) มาตราการน่าจะรุนแรงเหมือนสภาวะน้ำท่วมดิลิเวอรี่ เพราะเห็นรัฐแจ้งตัวเลขคร่าวๆกันมาให้ได้ยินแล้วว่าแปดแสนเก้าแสนล้านบาท ฟังแล้วหนาวหูตามกระแสลมหนาวที่พัดผ่านเจียนๆ(จริงๆ)
โชคดีที่หนูเป็นชาวชุมชนแก่นธรรม ได้อ่านธรรมะออนไลน์มานาน ก็พอจะรู้บ้างว่าจะทำอย่างไรดี อย่างน้อยก็มีคำว่า"รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี"
แต่จากเท่าที่สังเกตุผู้คนรอบข้างมักจะได้ยินเสียงรำพึงตั้งแต่เล็กๆน้อยๆจนกระทั่งเป็นเสียงคำรามใหญ่ๆโตๆ บางท่านถึงกับพูดว่าเครียด...เครียดโว้ย...เครียดฉิ....หาย (หาเจอหรือยังก็ไม่รู้ว่าฉิบมันอยู่ตรงไหน)
บางท่านหนีออกไปต่างจังหวัดนานสิบกว่าวันตามภาษาคนมีเงินถุงสตางค์เป็นถัง ก็ยังมิวายบ่น"เครียดวุ้ย" จึงไม่ต้องสงสัยหรอกค่ะว่าคนที่จมน้ำสีดำ แถมไม่มีอะไรจะกินเขาจะเป็นทุกขืยังไง มีอะไรๆก็ช่วยๆกันนะคะ
หนูเองก็พยายามจะร่วมช่วยจัดหากล่องยาไปแจกกัน ไม่รู้ว่าจะทำให้พวกท่านได้แค่ไหนอย่างไร เผื่อท่านมีไข้ถ่ายเหลวขาดยาจะได้มีใช้ทันท่วงที กำลังเร่งประชุมพ้องเพื่อนอยู่ค่ะ
ขอย้ำว่าท่านผู้อ่านที่มีถังพักน้ำอยู่ใต้ดินใช้อุปโภคบริโภคและเผชิญภาวะน้ำท่วม โปรดตรวจสอบด้วย เพราะบางสำนักงานเขตในกรุงเทพมีเจ้าหน้าที่จู๊ดๆไปหลายรายแล้ว อย่างเช่นที่เขตบางพลัดน่ะเจ้าค่ะ เพราะถังน้ำฝังอยู่ใต้ดิน น้ำอะไรต่อมิอะไรก็เลยไปรวมกันให้ใช้ โปรดระวังด้วยค่ะ
สำหรับท่านที่ต้องร่วมชะตากรรมพร้อมหนูที่น้ำท่วมองค์ท่วมเอว อย่างน้อยเราก็ต้องอยู่กับมันให้ได้ ตามที่เขากรอกรูหูอยู่ทุกวันมันส์ดี แต่อย่าลืมอาบน้ำอาบท่าให้หมดจดทุกซอกทุกมุม แล้วล้างเท้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อด้วยก็จะดีค่ะ
และสำหรับท่านที่ลุยน้ำไปทำงาน ช่วยใส่รองเท้าบู๊ธรัดเชือกเป็นปราการด่านแรกด้วยนะคะ เซฟได้เยอะราคาขายแถวโบ๊เเบ้ประมาณคู่ละสองร้อยบาทต้นๆ ถ้าคิดว่ามันท่วมนานหลายอาทิตย์หาซื้อไปใส่เถอะค่ะ คุ้มแสนคุ้ม กันโรคเท้าเปื่อยปากจัด โรคฉี่หนูที่เกิดจากหนูไม่ใช่หนูนะคะ และอื่นๆที่ทางคุณหมอหน้าจอท่านพรีเซ้นท์กันมาแทบจะทุกวัน และหนูรับรองว่าไม่ได้ ค่าสปอนเซอร์จากใครๆมาสักบาทเดียว...เชื่อเถอะ
ข่าวสารขยะก็รับฟังให้มันน้อยหน่อย ใครพูดอะไรให้ฟังทางสื่ออย่างมีสติหรือข่าวไม่จริงก็เปลี่ยนช่องหนี ไปดูการ์ตูนหรือละครน้ำเน่าที่มันเน่าน้อยกว่าที่เราเจอจริงก็ยังดี แล้วตามติดตามข่าวสารเท่าที่จำเป็นจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ ที่ท่านพูดว่าน้ำเน่ากำลังจะมาและจะแช่นานเท่าไร แล้วมันจริงตามที่ท่านพูดก็เชื่อท่านไปเถอะ่ค่ะ จะได้เตรียมตัวไว้แต่เนิ่นๆ จะรุกจะรับจะถอยจะได้ไม่หวาดผวาไปทางนั้นทีทางโน้นที สมดังเพลงต้นตระกูลไทยใจช่างเหี้ยมหาญ...
สิ่งที่ต้องทำให้มากในตอนนี้ก็คงต้องหาทางประหยัดกันให้มากๆ เพราะหนทางในการที่ต้องใช้เงินยังมีอีกเยอะและยาวนาน จับต้นชนปลายกันให้ดี อย่าตื่นตระหนกกับราคาสินค้า ข้างทางจากพวก...มากเกินไป
หนักนิดเบาหน่อยคนไทยให้อภัยกันเสมอ เชื่อว่าเรายังจะต้องร่วมฝ่าวิกฤตภัยพิบัติครั้งนี้ไปด้วยกัน หนูเองก็เอาสติมาตั้ง รู้ว่าสติคือความระลึกได้ สัมปชัญญะคือความรู้ตัว เหมือนน้ำท่วมบ้านก็เตรียมรับมือตามคู่มือที่เขาจัดไว้ให้ ช่วยตัวเองให้ถึงที่สุด เพราะเราถอยไปไหนไม่ได้อีกแล้ว บ้านก็มีหลังเดียวและในชีวิตที่ต้องผ่อน...ผ่อน...ผ่อน
แต่ตอนนี้ต้องผ่อนลมหายใจยาวๆๆๆๆๆๆ ตามที่ได้ฝึกจากตามหาแก่นธรรม ทำงานปกติ หากไม่ไหวก็ต้องทิ้งสมบัติ โคตรเพชรไว้ที่บ้าน แล้วไปเช่าบ้านใกล้ที่ทำงานอยู่ โจรจ๋าถ้าอยากได้อะไรจริงๆก็เชิญนะคะ
แต่...เหลือสิ่งจำเป็นให้หนูบ้างนะคะ ไม่อยากรบกวนคุณตำรวจค่ะ เดี๋ยวท่านบอกว่า"เอาอยู่"
มาตราการสุดท้ายถ้าไม่พ้น น้ำดื่มหมด มาม่าถ่ายออกไปจากตัวหมดแล้วก็ยอมมอบตัวขึ้นรถทหารหาญไปศูนย์พักพิงฯ แล้วค่อยกลับมาทำงานใหม่
แต่ถ้าทางบริษัทฯเขาให้ไปแล้วไปเลย ก็หางานใหม่ หาไม่ได้ก็ไปขับแท๊กซี่ก่อน แล้วค่อยมาว่ากันมันอีกทีดีออก
หนูเองก็ไม่ใช่คนเก่งกล้า แต่ก็ไม่ใช่พวกบ้าห้าร้อยจำพวกนะคะ ก็อย่างว่า "ซู่...สู้ๆ" ตามที่หลวงตาช้วนวัดแคนางเลิ้ท่านชอบสอให้ชาวชุมชนแก่นธรรมตามที่มีผู้เขียหลายท่านนถึงนะค่ะ ปริญญาบัตรอยู่กับตัวกลัวอะไร แถมได้ปริญญากิตติมศักดิ์ยามน้ำท่วมครั้งนี้แล้ว ดูสิว่าใครจะไม่กล้ารับเราเข้าทำงานต่อไป
อยู่เมืองไทยไม่ต้องกลัวอด แต่อย่าได้เอาแต่เป็นชาวขอ ขอกันอยู่นั่นแหละขอกันจนเคยตัว ขอกันจนไม่รู้ว่าจะขอจากใคร พุทธศาสนาสอนให้เราพึ่งตัวเองก่อนเป็นปฐม เพื่อให้ใจแข็งแรงเพราะมันสงบมีกำลัง ไม่ฟุ้งซ่าน เหมือนเราออกกำลังให้กล้ามเนื้อโตๆ มันจะได้แบกของหนักกันได้ดีไงคะพี่น้อง ไม่ต้องรออะดีนาลีนจากต่อมหมวกไตมาเป็นแรงส่งตอนตื่นเต้นก็ได้ มันแข็งแรงได้เองจากกการฝึกหัดกล้ามเนื้อ
เมื่อยอมรับความจริงในภัยพิบัติ และัใจสงบลงแล้ว ใจก็จะตั้งมั่นและโล่งอก หลังจากนั้นก็จะรู้ว่าจะทำอะไรต่อไป ควรจะทำอะไรเป็นอย่างแรกควรจะทำอะไรเป็นอย่างหลังตามลำดับความสำคัญ เพราะไม่ต้องมามัวโศกมัวเศร้าไปกับน้ำ พระท่านว่าปัญญามันเกิด
อย่าปล่อยให้ใจไหลไปตามน้ำล่ะคะ น่าเสียดายเพราัะการเกิดเป็นคนนั้นแสนยาก เดี๋ยวไม่เป็นผู้เป็นคน บ้าสติแตกยิ่งไปกันใหญ่ คราวนี้ซ่อมไม่ได้แล้ว
ใครมีเวลาว่างไหว้พระสวดมนต์ให้ใจมันนิ่งๆนะคะ อย่าให้ใจล้ม
ถ้าจะนึก ก็ให้นึกถึงแต่ก่อนเราเคยมีอะไร เดี๋ยวนี้เหลืออะไร แล้วจะเอาเรี่ยวแรงและสติปัญญาหลังฟื้นฟูไปหามันใหม่ เพื่อตนเองและครอบครัว
อ้อ...ขอโทษนะคะมีเอ็มเอสเอ็มแจ้งมาเป็นครั้งที่สองให้หนูไปเสียเงินค่าโทรศัพท์มือถือค่ะ ขอตัวก่อนนะคะเดี๋ยวจะติดต่อกับโลกภายนอกไม่ได้เพราะเป็นของบริษัทมือถือสิงคโปร์ด้วยค่ะ

ธรรมะสวัสดีค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น