...+

วันพุธที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

จิตอาสาที่ถูกมองข้าม "คนล้างส้วมศูนย์อพยพ"

ข่าวหน้า 1

12 พฤศจิกายน 2554 - 00:00
นอกจากอาหารที่ผู้ประสบภัยน้ำท่วมต้องมีกินครบ 3 มื้อเพื่อประทังชีวิตแล้ว "สุขา" หรือ "ห้องส้วม" ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน และอาจสำคัญกว่า...เมื่อถึงคราวต้อง "ปลดทุกข์"
แต่ในสภาพความเป็นอยู่ที่แออัดเบียดเสียด ณ ศูนย์อพยพวิทยาลัยพลศึกษา จ.ชลบุรี ที่ผู้คนเฮโลอพยพหนีมวลน้ำเหนือมาขอพักพิงอิงอาศัยเกือบ 4,000 คน ทำให้สุขาไม่เพียงพอต่อความต้องการ!
บางตึกมีผู้อยู่อาศัยกว่า 300 คน ทว่ามีห้องน้ำไว้ใช้เพียง 4 ห้อง สภาพของแต่ละห้องไม่ต้องพูดถึง นอกจากกลิ่นเหม็นที่ชวนให้เบือนหน้าหนีแล้ว หากหลงผลักประตูหวังเข้าไปทำธุระส่วนตัว ภาพอุจาดตาที่ไม่คิดว่าจะได้เห็นนั้นกลับปรากฏขึ้นโดยพลัน สิ่งปฏิกูลทั้งหลายแหล่ตกค้างอยู่ในโถส้วม ขณะที่บางห้องกองเรี่ยราดตามพื้น และยังลามถึงบริเวณด้านนอกจนคนที่เดินไปมาเผลอเหยียบให้ก็มี
ที่เป็นเช่นนี้ สาเหตุส่วนหนึ่งเพราะศูนย์พักพิงฯ เปิด-ปิดน้ำเป็นเวลา และห้องน้ำสาธารณะอื่นๆ ก็อยู่ไกลออกไป จนเด็กเล็กและผู้เฒ่าผู้แก่ไม่สามารถเดินทางไปใช้บริการได้ทัน บวกกับจำนวนคนนับไม่ถ้วนที่รอต่อคิวเข้าห้องน้ำ ส่งผลให้อาการ "เอาไม่อยู่" เกิดขึ้น และพร้อมปลดทุกข์แบบไร้ซึ่งสามัญสำนึกไว้ให้คนข้างหลังดูต่างหน้า
เหล่านี้เป็นที่มาของการได้เห็นผู้ประสบภัยบางส่วน เปลี่ยนสถานะเป็น "จิตอาสาล้างส้วม"
ธีรพนธ์ ลิภา อายุ 27 ปี ผู้ประสบภัยน้ำท่วมจากเขตสายไหม กรุงเทพฯ ที่อพยพลี้ภัยมาแล้ว 2 ครั้ง ในฐานะแกนนำจิตอาสาล้างสุขา เล่าให้ฟังว่า ตนสงสารคนแก่และเด็กที่ต้องเดินขึ้นลงบันไดไปเข้าห้องน้ำที่อยู่ไกลไม่ไหว ห้องน้ำที่มีอยู่บนตึกก็มีแค่ 4 ห้อง สภาพอย่างที่เห็นเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปหมด แถมเวลาไปเข้าห้องน้ำที่ตึกอื่นก็โดนค่อนขอดว่าอยู่ตึกโน้นทำไมมาเข้าที่ตึกนี้ ไปเข้าห้องน้ำที่ตึกของตัวเองสิ
"บางคนรอจนอึราดก็มีนะ เลยตัดสินใจทำเรื่องขอรถสุขาเคลื่อนที่จากกองอำนวยการ ขอไปตอนบ่ายตกค่ำก็ได้เลย เป็นรถสุขาสาธารณะที่มาจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี และที่มาเป็นจิตอาสาล้างห้องส้วมไม่มีใครบังคับผมนะ ผมมาด้วยใจ ใจที่เอาพื้นฐานเป็นที่ตั้งว่าขนาดเรายังอยากเข้าห้องน้ำสะอาด นั่งสบาย คนอื่นก็คงรู้สึกเช่นเดียวกัน อีกอย่างเราเป็นคนทำเรื่องขอรถมาเองด้วย ถ้าไม่ดูแลรักษาแล้วใครจะทำ จะให้พี่คนขับรถทำคนเดียวก็คงไม่ไหวกับจำนวนห้องน้ำและโถฉี่ผู้ชายเกือบ 30 ห้อง" ธีรพนธ์แจงให้ฟังเพิ่มเติมขณะกำลังใช้สายยางฉีดน้ำไล่ความสกปรกออกจากพื้น
จะว่าไปงานทำความสะอาดห้องน้ำหรือสุขา ถึงไม่ใช่งานยากหรือทำให้เหนื่อยมาก แต่เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากทำ! กับการเช็ดล้างธุระของคนอื่น
ขั้นตอนเริ่มต้นก็ต้องเคลียร์ขยะออก ทั้งกระดาษทิชชู่ที่เปียกน้ำ เปรอะสิ่งปฏิกูล หรือจะเป็นแบบแห้งเอย ผ้าอนามัยเอย เส้นผมเอย และอีกสารพัดผู้มาใช้บริการทิ้งไว้ในห้องน้ำ จากนั้นก็เทน้ำยาฆ่าเชื้อแล้วก็ลงมือขัดๆ และขัดจนสะอาดเอี่ยมอ่อง ก่อนล้างด้วยน้ำสะอาด จากนั้นก็เอาไม้ม็อบจุ่มน้ำยาถูพื้นลากถูให้ทั่ว แล้วจบลงที่ขั้นตอนสุดท้ายด้วยการฉีดพรมน้ำยาปรับผ้านุ่มให้ห้องสุขานั้นมีกลิ่นหอมละมุน และรอจนพื้นแห้งถึงเปิดให้ผู้อพยพใช้บริการได้
ซึ่งกว่าจะเสร็จตามขั้นตอนทั้งหมด ลุงพัชรพล สยามรัฐ วัย 49 พนักงานขับรถสุขาเคลื่อนที่ จาก อบจ.จันทบุรี บอกว่าใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง และวันหนึ่งต้องทำความสะอาดไม่ต่ำกว่า 2 รอบ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของผู้มาใช้
"ถ้าให้ผมทำคนเดียวนี่คงไม่ไหวครับ เพราะรถสุขาสาธารณะนี้มีห้องน้ำแยกหญิงชายอย่างละ 6 ห้อง และมีโถฉี่สำหรับผู้ชายอย่างเดียวอีก 16 โถ วันๆ หนึ่งมีคนเข้า-ออกเพื่อปลดทุกข์ทั้งปัสสาวะและอุจจาระกว่า 300 คน ถ้าทำคนเดียวนี่หนักเอาการ ขอบคุณผู้ประสบภัยกลุ่มนี้ที่เข้ามาช่วยเหลือเป็นจิตอาสาช่วยเช็ดล้างทำความสะอาด และเป็นครั้งแรกที่มีคนอื่นที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่เข้ามาทำแบบนี้อย่างไม่คิดรังเกียจ บางคนเป็นผู้ชายแต่ต้องมาคอยแกะเก็บผ้าอนามัยที่ทิ้งเรี่ยราดก็มี ขอบคุณจริงๆ ครับ"
ไม่ใช่แค่ธีรพนธ์ แต่ยังมีเยาวชนอีกกลุ่มหนึ่ง ได้ผันตัวมาเป็นสมาชิกจิตอาสาล้างห้องสุขากับเขาด้วย นำโดย "โต๊ด" กิตติพศ เรืองกิจ อายุ "ท็อป" ณัฐพล อ่อนสมทรง 2 ผู้อพยพจากเขตสายไหม และ "น้องใหม่" สุพัตรา แซ่ตั้ง ที่หนีน้ำมาจาก อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ที่ต่างเอ่ยเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่อยากให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์ และไม่ต้องการเป็นเพียงแค่ผู้ประสบภัยที่นั่งรอความช่วยเหลือจากคนอื่นเฉยๆ คิดว่าตัวเองยังมีเรี่ยวแรงพอที่จะทำเพื่อส่วนรวมได้ พอเห็นว่ามีคนอาสาล้างห้องน้ำก็เลยขออาสามาร่วมด้วย
"ถามว่าอยู่ที่บ้านพวกผมล้างห้องน้ำกันเองไหม ก็มีบ้างนะ อย่างของเพื่อนที่มาร่วมเขาก็บอกว่านานๆ ล้างที แต่ของผมนี่เป็นเกณฑ์บังคับให้ต้องล้างห้องน้ำที่บ้าน พอมาช่วยล้างที่รถสุขาเคลื่อนที่เลยชินไม่ได้รู้สึกรังเกียจอะไร แต่ขอหน่อยว่า สำหรับคนที่ใช้บริการ ไม่ต้องเห็นใจพวกผมก็ได้ แต่เห็นใจคนที่มาใช้ต่อทีหลังบ้าง ใครๆ ก็อยากเข้าห้องน้ำที่สะอาด ตัวคุณเองก็ชอบห้องน้ำที่สะอาด เมื่อมีรถมาบริการแล้ว หรือแม้แต่ห้องน้ำสาธารณะตามศูนย์พักพิงอื่นๆ ก็ตาม อยากให้ผู้อพยพช่วยกันรักษาความสะอาด อย่าทิ้งภาระของตัวเองไว้ที่คนอื่น ปลดทุกข์สบายตัวแล้ว ก็ควรดูแลห้องน้ำอย่างมีจิตสำนึกให้คนมาทีหลังสบายใจที่จะเข้าด้วย" ท็อปกล่าวด้วยรอยยิ้มแต่แฝงไว้ด้วยสีหน้าที่จริงจัง ก่อนจะจับม็อบมาถูกพื้นรถสุขาเคลื่อนที่อย่างขะมักเขม้น พร้อมกับตะโกนบอกผู้อพยพที่กำลังก้าวขึ้นรถเพื่อมาปลดทุกข์ว่า
"กรุณารอสักครู่ครับ ห้องน้ำยังไม่แห้งดี อีกสักครู่ค่อยกลับมาใช้บริการใหม่นะครับ"
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากกรมอนามัยระบุชัดว่า ถ้าใช้บริการห้องสุขาไม่สะอาด อาจเสี่ยงติดโรคดังต่อไปนี้ 1.เชื้อปรสิตซึ่งก็คือพยาธิต่างๆ ที่ปะปนออกมากับอุจจาระ เช่น พยาธิตัวกลม พยาธิตัวแบน พยาธิเส้นด้าย พยาธิปากขอ 2.เชื้อวัณโรคที่ปะปนมากับเสมหะของผู้ใช้ห้องน้ำที่เป็นวัณโรค 3.เชื้อแบคทีเรีย ซึ่งส่วนใหญ่มาจากทางเดินอาหารและอุจจาระ 4.เชื้อไวรัส ทั้งที่ก่อให้เกิดโรคในทางเดินหายใจและทางเดินอาหาร เช่น เชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคโปลิโอ นอกจากนี้ ห้องสุขาที่ไม่สะอาดอาจเป็นที่อยู่อาศัยของพาหะนำโรคต่างๆ เช่น แมลงสาบ แมลงวัน ยุง และหนู ซึ่งอาจก่อให้เกิดโรคต่างๆ รวมทั้งโรคฉี่หนูได้ และ 5.แม้จะไม่ก่อให้เกิดโรคในมนุษย์ แต่เชื้อรา เช่น ราดำ และราหลากชนิด ที่ฝังตัวอยู่ภายในห้องน้ำจะทำหน้าที่ย่อยสลายสิ่งปฏิกูลต่างๆ ในห้องน้ำทำให้เกิดกลิ่นอับและเหม็นชื้นได้
รถสุขาเคลื่อนที่ และห้องน้ำสาธารณะ ณ ศูนย์อพยพวิทยาลัยพลศึกษา จ.ชลบุรี ยังขาดแคลนอุปกรณ์ทำความสะอาดสุขาอีกมาก ทั้งไม้ม็อบ น้ำยาฆ่าเชื้อ น้ำยาถูพื้น น้ำยาปรับผ้านุ่ม แปรงจัดโถส้วม ใครใคร่มีจิตศรัทธาก็เชิญไปบริจาคได้ทันที หรือจะให้ดีและแปลงเป็นจิตอาสาช่วยล้างห้องน้ำก็จะดีไม่ใช่น้อย!.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น