...+

วันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เมตตาบารมี บารมีที่สะสมได้ง่ายแต่มีผลานิสงส์สูง

เมตตาบารมี บารมีที่สะสมได้ง่ายแต่มีผลานิสงส์สูง


อานิสงส์ของการเจริญเมตตาเจโตวิมุติฌานสมาบัตินี้ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้ในพระสุตตันตปิฎกหลายแห่งว่ามี ๑๑ ประการ ดังต่อไปนี้

ย่อมหลับเป็นสุข ๑ ย่อมตื่นเป็นสุข ๑ ย่อมไม่ฝันร้าย ๑ ย่อมเป็นที่รักแห่งมนุษย์ทั้งหลาย ๑ ย่อมเป็นที่รักแห่งอมนุษย์ทั้งหลาย ๑ เทวดาทั้งหลายย่อมรักษา ๑ ไฟยาพิษหรือศาตราย่อมไม่กล้ำกรายได้ ๑ จิตย่อมตั้งมั่นเป็นสมาธิได้โดยรวดเร็ว ๑ สีหน้าย่อมผ่องใส ๑ เป็นผู้ไม่หลงใหลทำกาละ (เมื่อจะสิ้นลมก็ยังมีสติอยู่เสมอ) ๑ เมื่อไม่แทงตลอดคุณอันยิ่ง ย่อมเป็นผู้เข้าถึงพรหมโลก (ถึงแม้ไม่บรรลุธรรมสูงสุด คือ นิพพาน) ๑

นอกจากนี้ พระพุทธองค์ยังได้ทรงแสดงธรรมแก่อนาถบิณฑิกเศรษฐีถึงอานิสงส์ของทาน และบุญซึ่งลงทุนน้อย แต่ได้ผลมากกว่า ไว้ในเวลามสูตร โดยลำดับ ดังนี้

“…การมีจิตเลื่อมใสในพระรัตนตรัย คือ พระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์เป็นสรณะ มีผลมากกว่าสร้างวิหารทานถวายสงฆ์

การที่บุคคลมีจิตเลื่อมใสสมาทานศีล ๕ มีผลมากกว่าการมีจิตเลื่อมใสในพระรัตนตรัย

การที่มีจิตเจริญด้วยเมตตาแม้เพียงเวลาชั่วสูดของหอมมีผลมากกว่าการมีจิตเลื่อมใสสมาทานศีล ๕…”

การพัฒนาจิตใจให้เจริญด้วยเมตตาอย่างจริงจังต่อเนื่อง เรียกว่า “การบำเพ็ญเมตตาบารมี” ซึ่งเป็นหนึ่งของบารมี ๑๐ ทัศ หรือ “ทศบารมี” ซึ่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเมื่อยังทรงเสวยพระชาติเป็นพระโพธิสัตว์ ได้เคยทรงบำเพ็ญมาแล้ว

เมตตาสามารถแผ่กระจายออกไปได้ทุกทิศทาง ไม่มีขอบเขต ไม่กำหนดสถานที่ กาลเวลา เมตตาเป็นเรื่องของจิตใจ จึงไม่จำเป็นต้องอาศัยทรัพย์สิ่งของ ไม่ต้องลงทุนลงแรงแต่อย่างใด และเป็นการสมควรอย่างยิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติธรรมพึงให้ความสำคัญ และน้อมนำมายืดถือปฏิบัติเพื่อประโยชน์สุขของตนเองและสังคมโลกต่อไป

-------------------------------------------------
เมตตาบารมี บารมีที่สะสมได้ง่ายแต่มีผลานิสงส์สูง
พลตำรวจตรี สุชาติ เผือกสกนธ์
__________________


Read more:http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=cartoonthai&month=07-2011&date=08&group=13&gblog=213#ixzz1S3f2iNZv

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น