...+

วันพุธที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ทางเลือกใหม่ในยุคคนดีเดินตรอกขี้ครอกยึดถนน โดย ไสว บุญมา

วันนี้คงเป็นที่ประจักษ์อย่างแจ้งชัดว่ายุคใหม่ได้เริ่มต้นแล้ว เนื่องจากคนดีมีความรู้สึกว่าหาที่เดินลำบาก แต่เมืองไทยไม่ขาดเพื่อนเพราะหลายประเทศก็เป็นเช่นเดียวกันรวมทั้งบางประเทศที่เรียกว่าก้าวหน้าในอเมริกาและยุโรปด้วย ฉะนั้น สำหรับคนไทย การหาประเทศอยู่ใหม่ก็อาจมิใช่ทางเลือกที่ดี

ท่ามกลางข่าวสารด้านวิกฤตเศรษฐกิจและการเมืองอันสับสนอาจมีน้อยคนสังเกตว่า จอร์จ โซรอส งดรับเงินจากผู้อื่นเพื่อนำไปเก็งกำไรดังที่เคยทำจนสร้างตำนานของการสร้างความร่ำรวยมหาศาลจากกิจการเก็งกำไร จริงอยู่เขายังใช้เงินส่วนตัวและของคนในครอบครัวเก็งกำไรต่อไป แต่การงดรับเงินจากผู้อื่นเป็นพฤติกรรมตรงข้ามกับความคาดหมายเนื่องจากตามธรรมดาภาวะเศรษฐกิจยิ่งปั่นป่วนมากขึ้นเท่าไร เขายิ่งทำกำไรได้มากขึ้นเท่านั้น และตอนนี้แนวโน้มชี้ชัดว่าภาวะเศรษฐกิจโลกจะปั่นป่วนมากขึ้น คาดกันว่าจอร์จ โซรอส จะใช้เวลาทำงานการกุศลมากขึ้นเพราะวันนี้เขาอายุ 81 ปีแล้ว หรือไม่เขาก็ไม่อยากยุ่งกับกฎเกณฑ์ใหม่ๆ ของรัฐบาลซึ่งต้องการควบคุมกองทุนเพื่อเก็งกำไรให้เข้มงวดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีแนวโน้มที่ชี้บ่งว่า แนวคิดทางด้านการเก็งกำไรได้เปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ นั่นคือ กองทุนเพื่อเก็งกำไรออกไปกว้านซื้อ หรือหาทางครอบครองที่ดินเพื่อการเกษตรในประเทศต่างๆ แม้กระทั่งในอเมริกาใต้และในแอฟริกา

เนื่องจากกองทุนจำพวกนี้ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องบอกเหตุผลกับใครเพราะไม่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ฉะนั้น สาเหตุของการเปลี่ยนพฤติกรรมของพวกเขาจึงเดากันไปต่างๆ นานา เช่น ตอนนี้มีกองทุนเพื่อเก็งกำไรจำนวนมากซึ่งมีเงินทุนจำนวนมหาศาลทำให้การแข่งขันเข้มข้นจนพวกเขาต้องมองหาสินทรัพย์ใหม่ๆ และการเก็งกำไรในที่ดินเพื่อการเกษตรอาจสร้างกำไรได้ถึงสองทาง นั่นคือ ทางแรก ราคาที่ดินเพื่อการเกษตรจะขึ้นไปเรื่อยๆ เนื่องจากมันมีปริมาณลดลงเพราะการเสื่อมสภาพของดินอันเนื่องมาจากการใช้สารเคมีและการชลประทานที่มีการระบายน้ำไม่เพียงพอ การใช้ที่ดินสร้างโรงงานและบ้านเรือนเพราะประชากรโลกเพิ่มขึ้น และผืนดินกลายเป็นทะเลทรายจากภาวะโลกร้อน ทางที่สอง ราคาสินค้าเกษตรนับวันจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการอาหารและพืชพลังงานจากการเพิ่มขึ้นของจำนวนคนยังผลให้การทำเกษตรกรรมได้กำไรสูง

นอกจากนั้น การมีที่ดินไว้ในครอบครองให้ความปลอดภัยสูงกว่าการมีเงินตราและหุ้นเนื่องจากที่ดินไม่สูญหายไปไหน หากยังทำประโยชน์ได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเช่นเดียวกับทองคำ จะเห็นว่าราคาของทองคำพุ่งขึ้นไปอย่างไม่หยุดยั้งในช่วงนี้เพราะมีความต้องการสูงมากอันเนื่องมาจากความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจและการเมืองทั่วโลก ยิ่งกว่านั้น ที่ดินเพื่อการเกษตรมีค่าสูงกว่าทองคำในแง่ที่มันผลิตอาหารและพลังงานได้ในยามคับขันซึ่งทองคำทำไม่ได้

ด้วยเหตุดังกล่าว ชาวต่างชาติจึงหมายตาเข้ามาซื้อ หรือครอบครองด้วยการเช่าจำพวก 99 ปีที่ดินเพื่อการเกษตรของไทยเพราะอากาศและแหล่งน้ำเอื้อให้ทำนาทำไร่ได้ตลอดปี จากนี้ไปพวกเขาจะยิ่งสนใจมากขึ้นและโอกาสที่พวกเขาจะทำสำเร็จก็มีมากขึ้นด้วยเพราะปัจจัยสองอย่างคือ ผู้นำจำพวกฉ้อฉลและมีผลประโยชน์ทับซ้อนของไทยจะเข้ามามีบทบาทในด้านการบริหารจัดการที่ดินมากขึ้น และชาวไร่ชาวนาจะตาโตเมื่อมีผู้เสนอซื้อที่ดินในราคาสูงกว่าปกติ จึงขายให้พวกเขาไปด้วยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่าเงินที่ดูเสมือนก้อนใหญ่นั้นจะหมดไปในเวลาอันสั้นเมื่อบริหารจัดการไม่เป็นและจากภาวะข้าวยากหมากแพงซึ่งจะเกิดขึ้นต่อไป ชาวไร่ชาวนาที่คิดว่าตนไม่ยากจนแล้วเหล่านั้นจะกลายเป็นปัญหาสังคมในวันข้างหน้าเนื่องจากจะหางานทำไม่ได้ ในขณะที่ค่าใช้จ่ายจะเพิ่มขึ้นเพราะความคุ้นเคยกับการบริโภคแบบใหม่ในช่วงที่มีเงินก้อนใหญ่จากการขายที่ดิน

ในภาวะเช่นนี้มีทางออกอย่างไร? เนื่องจากเราคงหวังอะไรไม่ได้จากนักการเมืองฉ้อฉลในยุคขี้ครอกออกยึดถนนยังผลให้คนดีต้องหนีไปเดินตามตรอกนี้ ฉะนั้น ผู้ที่มีเงินและเวลาอยู่บ้างควรหาทางซื้อที่ดินไว้เพื่อใช้ผลิตอาหารและพืชพลังงานเอง พืชพลังงานในที่นี้ไม่จำกัดอยู่ที่จำพวกใช้ทำน้ำมัน กลั่นแอลกอฮอล์หรือดีเซลชีวภาพ หากเป็นไม้ที่ใช้ทำฟืนและถ่านก็ได้ นอกจากจะทำรายได้หรือลดรายจ่ายแล้ว ต้นไม้ยังช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งทำให้เกิดภาวะโลกร้อนอีกด้วย ยิ่งกว่านั้น การถือครองที่ดินในช่วงนี้จะเป็นการป้องกันมิให้ที่ดินหลุดจากมือคนไทยไปอยู่ในมือต่างชาติซึ่งจะผลิตอาหารส่งตรงไปยังประเทศของตนในขณะที่คนรู้เท่าไม่ถึงการณ์อดอยาก

การครอบครองที่ดินเพื่อการเกษตรเป็นทางเลือกที่ดีในยุคที่ขี้ครอกออกยึดถนน เศรษฐกิจและการเมืองโลกปั่นป่วนสูงมาก และหากที่ดินไทยยังอยู่ในครอบครองของคนไทยผู้ใช้มันทำประโยชน์อย่างเต็มที่ ยุคขี้ครอกออกยึดถนนในเมืองไทยจะสิ้นสุดลงในเวลาอันสั้นเพราะพวกขี้ครอกจะมีอันเป็นไปเร็วขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น