...+

วันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ถอดความคำสอนท่าน ว.วชิรเมธี จากรายการวู้ดดี้เกิดมาคุย ฉบับเก็บตก ภาค 2

โดยคุณ autumn whispers

หลังจากรายการวู้ดดี้เกิดมาคุยออกอากาศท่าน ว.วชิรเมธี แล้ว มีเสียงตอบรับชื่นชอบล้นหลาม อาทิตย์ต่อมาจึงมีการนำบทสัมภาษณ์ที่ถูกตัดออกจากการออกอากาศครั้งแรกมาให้ ชมอีก เชิญอ่านบทสัมภาษณ์คำต่อคำ

====================================

สัปดาห์ ที่แล้วสำหรับใครที่ยังไม่ทราบหรือไม่ได้ติดตามชม วู้ดดี้ได้มีโอกาสสนทนาธรรมกับพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ปรากฎว่าหลังจากที่เรานำเสนอเทปอาทิตย์ที่แล้วที่เราออกอากาศปุ๊บ มีคุณผู้ชมเป็นจำนวนมหาศาลชื่นชมแง่คิดของพระอาจารย์ ว.วชิรเมธีอย่างมาก ก็เลยถามผมนะครับว่า เอ...จริงๆ แล้วมันมีประเด็นอื่นอีกมั้ยที่เราไม่ได้นำเสนอออกอากาศ

เอางี้ดี กว่าครับ เรื่องแรกที่ผมจะนำเสนอก็คือเกล็ดเล็กเกร็ดน้อยที่เราพูดคุยกันเกี่ยวกับ เรื่องของการเป็นพุทธศาสนิกชนซึ่งเทปอาทิตย์ที่แล้วเราไม่ได้แตะประเด็นนี้ สักเท่าไหร่นัก ผมเลยรู้สึกเสียดายแทนคนที่ไม่ได้ชม คืนนี้ก็เลยจะนำเสนอเลยแล้วกันนะครับ ชมครับ

วู้ดดี้ : กราบนี่นะครับ ต้องมือขวาก่อนหรือมือซ้ายก่อน
ว.วชิรเมธี : จริงๆ พร้อมกันดีที่สุด

วู้ดดี้ : เอ้า...ผมเข้าใจว่าจะต้องเป็นอย่างนี้ทุกครั้ง
ว.วชิร เมธี : หลายสำนักสอนอย่างนั้นนะ จริงๆ มีผู้อธิบายว่าบางทีพระท่านชราภาพ ถ้าท่านลงพร้อมกันท่านหน้าคะมำ ท่านลงทีละข้างมันรับน้ำหนักได้

วู้ดดี้ : อ๋อ นั่นคือที่มา
ว.วชิร เมธี : ที่มา เพราะฉะนั้นถ้าจะกราบให้ถูกนะลงพร้อมกันนั่นแหละ เดี๋ยวพระอาจารย์สอนตรงนี้ อัญชลีตรงหน้าอก วันทาโน้มตัวลงมา 45 องศา แล้วก็หัวแม่มือเราอยู่ตรงหว่างคิ้วนะ อภิวาทกราบลงไปพร้อมกันเลย

วู้ดดี้ : ก้นนี่คือ
ว.วชิร เมธี : ไม่โด่ง หน้าผากต้องแตะพื้น พระอาจารย์ให้สูตรไว้นะ เบญจางคประดิษฐ์นะ แบมือออก ศอกต่อเข่า หน้าผากแตะพื้น ลองดู ขึ้นมาก่อน อัญชลี วันทา อภิวาท (3 ครั้ง) ท่าสุดท้าย วันทาแล้วเราจะวางมือที่ตักของเรา เอ้า...เป็นชาวพุทธสมบูรณ์แบบแล้วทีนี้

วู้ดดี้ : ตั้งแต่เล็กจนโตผมก็เคยสวดมนต์ คุณพ่อคุณแม่ก็เคยสอนว่าสวดมนต์ก่อนนอน อิติปิโส นะโมตัสสะ ถามจริงๆ ว่าคนเราต้องสวดมนต์ทำไมฮะ
ว.วชิรเมธี : ในทางพุทธ การสวดมนต์ถ้าคุณสวดแบบไม่รู้เรื่องอะไรเลย อย่างน้อยที่สุดคุณได้บุญ
วู้ดดี้ : ได้บุญยังไงฮะ
ว.วชิร เมธี : ก็มีความปรีเปรมอิ่มเอมใจไง พระอาจารย์ตั้งแต่เด็ก โยมแม่พาสวดมนต์ทุกคืน ไม่เคยรู้ความหมาย โตขึ้นถึงมารู้ แต่ตลอดเวลาที่ได้ทำกับแม่นะ มีความสุขมาก เพราะฉะนั้นการที่ผู้ใหญ่ชวนเราสวดมนต์อย่างน้อยที่สุดท่านคงอยากให้เราได้ บุญเป็นเบื้องต้น ประการที่สองท่านต้องหวังว่าเราเป็นชาวพุทธเราควรจะสวดมนต์บ้าง เพราะอย่างน้อยที่สุดการสวดมนต์ก็เป็นสัญลักษณ์ของการเป็นพุทธ แสดงว่าคุณน่ะมีที่พึ่งแล้ว แล้วก็ประการที่สาม เวลาสวดมนต์ด้วยกันพ่อแม่ลูกมันได้ความอบอุ่น ได้ความสัมพันธ์ ขณะเดียวกันประการที่สี่ ถ้าคุณเข้าใจบทสวดมนต์ คุณแปลด้วยนะ คุณได้ปัญญา

วู้ดดี้ : นั่นคือสิ่งที่ผมอยากจะถามต่อ มันผิดมั้ยถ้าเกิดวู้ดดี้จะสวดมนต์โดยการใช้ภาษาไทยและไม่ใช่ภาษาบาลี
ว.วชิรเมธี : ไม่ผิด ไม่มีกฎหมายฉบับไหนเขียนเอาไว้ว่าสวดมนต์ต้องภาษาไทยหรือบาลี


วู้ดดี้ : นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ แปลว่า
ว.วชิรเมธี : ขอนอบน้อมต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ตรัสรู้ได้โดยชอบโดยพระองค์เองพระองค์นั้น

วู้ดดี้ : นี่คือครั้งแรกที่ผมทราบความหมายนะเนี่ย
ว.วชิรเมธี : เห็นมั้ย เพราะฉะนั้นมาคุยกับพระอาจารย์บ่อยๆ แล้วจะทราบอะไรดีๆ ไปเรื่อยๆ ธรรมะมีแต่ของดีๆ ทั้งนั้นนะ

วู้ดดี้ : นะโมตัสสะ ภาษาอังกฤษพูดยังไงครับ
ว.วชิรเมธี : พระอาจารย์สำเนียงไม่ดีหรอก
วู้ดดี้ : มันประมาณไหนครับ
ว.วชิร เมธี : ก็แปลออกมาในลักษณะว่า ข้าพเจ้าขอนอบน้อม หรือข้าพเจ้าขอแสดงความเคารพต่อพระผู้มีพระภาค จะไม่แปลยาวยืดเหมือนที่พระอาจารย์แปล แต่ว่าฝรั่งสวดนะเชื่อมั้ย ฝรั่งเขาก็ไม่สวดคำแปลหรอกนะ พระอาจารย์ไปสอนฝรั่งบอกว่าภาษาไทยว่าอย่างนี้ ภาษาบาลีว่าอย่างนี้ ฝรั่งชอบภาษาอะไรรู้มั้ย

วู้ดดี้ : ภาษาอะไรครับ
ว.วชิรเมธี : ภาษาบาลี
วู้ดดี้ : เพราะว่า?
ว.วชิรเมธี : เพราะว่าพระพุทธเจ้าตรัสเป็นภาษาบาลี ฝรั่งถ้าเขาได้สวดเป็นภาษาบาลีเขาจะรู้สึกว่าเขาเป็นศิษย์พระพุทธเจ้า

วู้ดดี้ : เหมือนเข้าถึง
ว.วชิร เมธี : เพราะฉะนั้นถ้าให้ดีที่สุดนะวู้ดดี้ สวดภาษาบาลีก่อน ถ้าคุณได้ภาษาบาลี คุณกำลังสวดด้วยภาษาเดียวกันกับที่พระพุทธเจ้าใช้ หลังจากนั้นคุณถึงจะแปล แต่ถ้าบาลีลำบากนักก็เอาเฉพาะคำแปลก็ได้ ถ้าได้แค่นี้ขึ้นมาเป็นชาวพุทธอีกขั้นหนึ่งแล้วนะ

วู้ดดี้ : แล้วเวลาเราสวดก่อนนอน มันจำเป็นมั้ยฮะต้องตั้งท่า เพราะบางที ผมยอมรับ ผมก็นอนไปเลยแล้วผมก็สวดอย่างนี้แล้วผมก็ปั๊บๆๆ สามครั้ง อันนื้คือวู้ดดี้ทำเป็นประจำ
ว.วชิรเมธี : พระอาจารย์ว่าแค่นี้มันประเสริฐมหาศาลแล้วนะ ในโลกนี้มีคนอีกเท่าไหร่ที่เขาไม่เคยได้ยินคำว่าสวดมนต์ ไม่เคยได้ยินคำว่ากราบ แต่คุณรู้จักใช่มั้ย แล้วคุณก็ยังทำถึงแม้จะไม่ต้องตามมาตรฐานเป๊ะๆๆ แต่คุณก็ยังมีพระอยู่ในใจ มันไม่เป็นปัญหา พระพุทธเจ้าไม่ได้อยู่บนขื่อ

วู้ดดี้ : อยู่ในนี้ป่าวฮะ
ว.วชิรเมธี : อยู่ในใจคุณ คุณจะทำท่าทำทางอะไรคุณก็ทำของคุณไปสิ
วู้ดดี้ : ไม่ต้องทำท่าด้วยซ้ำไปก็ได้ แต่ให้เราระลึกถึง
ว.วชิร เมธี : นั่งเงียบๆ พระอาจารย์เดินทางไปต่างประเทศ พระอาจารย์นั่งอยู่ในเครื่องบิน พระอาจารย์นั่งสมาธิ ฝรั่งหลับหมด พระอาจารย์เดินจงกรมในเครื่องบิน

วู้ดดี้ : เขาไม่งงเหรอฮะ ว่าทำไมพระหรือคนห่มเหลืองนี้เดินไปรอบๆ เครื่องบิน
ว.วชิรเมธี : ก็ครั้งล่าสุดที่กลับมาจากฝรั่งเศส เขาก็มาถามพระอาจารย์ทำอะไร อาจารย์บอก walking meditation
วู้ดดี้ : 55555 พระอาจารย์นั่ง first business หรือ economy
ว.วชิรเมธี : economy หรือ first business พระอาจารย์ก็นั่งได้ทั้งนั้น

วู้ดดี้ : เวลาพระอาจารย์บินเดี่ยว แอร์หรือสจ๊วตต้องประเคนให้มั้ย แล้วเขาจะเข้าใจขั้นตอนหรือวิธีการประเคนเหรอครับ
ว.วชิรเมธี : คุณวู้ดดี้ไม่ต้องห่วงถ้าคุณรู้ภาษาอังกฤษ คุณอธิบายได้ ก็ไม่เป็นปัญหา พระอาจารย์ก็งูๆ ปลาๆ มั่วไปกับเขา

วู้ดดี้ : Please lift give me อย่างนี้เหรอครับ
ว.วชิรเมธี : โอ๊ย สบาย เขารู้
วู้ดดี้ : เขาก็ประเคนเหรอครับ แล้วถ้าเป็นแอร์ผู้หญิงแล้วมาแตะเนื้อต้องตัว
ว.วชิร เมธี : โยมไม่ต้องห่วงเลยนะ ฝรั่งเขาเจอคนมาแล้วทุกประเภท พอมาเจอพระบางทีไม่ใช่แค่มาประเคนนะ เชื่อมั้ยว่าฝรั่งชอบคุยกับพระ แต่พระอาจารย์บางครั้งภาษาอังกฤษก็ไม่ดี อย่ามาคุยกับฉันมากนะ ฉันพระปฏิบัติ เงียบเลย จริงๆ ไม่อยากพูดมาก
วู้ดดี้ : 55555

ต้องบอก นะครับว่ามีอยู่ประเด็นหนึ่งที่เรานำเสนอเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ที่มีหลายคนติดต่อมายังรายการของเรา email มาหาผม และมีการ comment กันอย่างล้นหลามเลยทีเดียวก็คือการที่รายการของเรานำเสนอภาพท่านติช นัท ฮันห์ ผิด เอาเป็นว่าบอกได้เลยว่าผมไม่ได้ทำอย่างนี้มาก่อน แต่ว่าขอโทษมากกกกก

ครับคุณผู้ชมครับ ขอโทษจากใจจริง ถือว่าเป็นการผิดพลาดที่ไม่ควรให้อภัย แต่ถ้ารักกันจริงควรจะให้อภัยกันหน่อย ดังนั้นเพื่อเป็นการแก้ตัวเราได้แก้เรียบร้อยแล้ว นี่ละครับคือภาพจริงของท่านติช นัท ฮันห์ เห็นแค่นี้ไม่เพียงพอ ใส่เข้าไปในก้อนสัมภาษณ์อีกรอบดีกว่า แล้วคุณจะได้เห็นเต็มๆ ว่าเมื่อของจริงออกมา แก้ไขเรียบร้อยแล้วมันจะเป็นยังไง

ช่วงหน้า ยังมีอีกหลายประเด็นที่วู้ดดี้อยากจะนำเสนอใจจะขาดนะครับ ที่สำคัญครับมีประเด็นที่หลายคนสงสัยมากคือ 1. วู้ดดี้ร้องไห้จริงหรือเปล่า 2. วู้ดดี้ร้องไห้เพราะอะไร

มาคุยกัน ต่อนะครับ ในคืนนี้ผมจะนำเสนอภาพหรือประเด็นต่างๆ ที่ไม่ได้นำเสนอออกอากาศเมื่อสัปดาห์ที่แล้วกับพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี นะครับ พูดถึงแนวความคิดแล้วผมเองก็คิดมาโดยตลอดว่าศาสนาโดยเฉพาะศาสนาพุทธเป็น ศาสนาที่ไกลตัวผมมาก แต่ปรากฎว่าผมได้ค้นพบว่าเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวสุดๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมค้นพบยิ่งกว่านั้นก็คือแนวคิด บางทีคนเราอาจจะไม่เข้าใจว่าควรต้องคิดยังไง หรือว่าเรียงลำดับความคิดยังไงถึงจะใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้อย่างมีความสุข

ระหว่าง ที่เราได้มีโอกาสนทนาธรรมกับพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี วู้ดดี้ตั้งข้อสังเกตอย่างหนึ่งเกี่ยวกับประเทศชาติบ้านเรา ผมมีความรู้สึกว่าเป็นไปได้มั้ยว่าประเทศของเราขาดนักปราชญ์ ในบางครั้งประชาชนก็เลยดูเหมือนว่าจะอ่อนแอ ไม่รู้จะเดินตามใคร เมื่อผมนำเสนอประเด็นนี้ให้กับพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ท่านเองตอบผมว่าอย่างนี้ครับ

ว.วชิรเมธี : พระอาจารย์คิดว่าเมืองไทยมีนักปราชญ์ แล้วบางทีมีเยอะกว่าเมืองนอกด้วย แต่ว่าคนไทยไม่ค่อยใช้บริการนักปราชญ์ คนไทยใช้บริการพ่อมดหมอผีมากกว่า
วู้ดดี้ : นอกจากพระแล้วมีนักปราชญ์จริงๆ เหรอครับท่าน
ว.วชิรเมธี : เมืองไทยมีนักปราชญ์แต่เราใช้นักปราชญ์ไม่คุ้ม

วู้ดดี้ : ทำไมพี่น้องชาวไทยถึงไม่ค่อยอินเรื่องนี้ เพราะอะไร
ว.วชิรเมธี : เพราะวัฒนธรรมของไทยเป็นวัฒนธรรมความเชื่อมากกว่าวัฒนธรรมความรู้ ใครพูดอะไรมาเราเชื่อ เราไม่ค่อยถามว่าทำไม เราถามว่าแล้วไง ถ้าถามว่าทำไม เมื่อไหร่ ปัญญามันก็เกิดขึ้น บางทีถ้าเราถามว่ามีอะไรสงสัยมั้ย...เงียบ ปีที่แล้วพระอาจารย์ไปแสดงธรรมที่บอสตัน ท่องนะโมตัสสะ ฝรั่งมันยกมือ ถามว่ายูยกมือทำไม ไอขอใช้สิทธิ์ เดี๋ยวรอให้ฉันเทศน์เสร็จก่อน ที่เมืองไทยอาตมาไปเทศน์ถามว่ามีใครสงสัยมั้ย

วู้ดดี้ : เงียบ เป็นเพราะว่าตั้งแต่เด็กเราถูกบ่มมาว่าอย่าถามมาก อย่าซักมาก
ว.วชิรเมธี : ใครถามมากใครซักมากจะถูกเพื่อนในห้องมอง

วู้ดดี้ : โง่
ว.วชิรเมธี : เราบอกว่าเรื่องมาก แต่ในวัฒนธรรมอื่น คนที่ถามมากคนที่ซักมากคนนั้นคือพระเอก คนนั้นคือคนที่เด่นที่สุด ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เจอประโยคนี้เข้าไป ถอยหลังกันหมด

วู้ดดี้ : อะไรครับ
ว.วชิร เมธี : ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ เราก็กลัวสิใช่มั้ยเจออย่างนี้ แต่ถ้าไปถามฝรั่ง ฝรั่งจะไม่พูดคำนี้ ฝรั่งบอกว่าไม่เชื่อต้องศึกษา ไม่มีปัญญาต้องเรียนรู้ ฉะนั้นเมืองไทยไม่ใช่ไม่มีนักปราชญ์แต่นักปราชญ์ของไทยไปโดดเด่นบนเวทีโลก แต่ว่าในบ้านของเรา เราใช้แต่พ่อมดหมอผีไง อย่างล่าสุดเกิดสุริยุปราคา 22 ก.ค. มีน้องนักข่าวคนหนึ่งโทรศัพท์มาสัมภาษณ์พระอาจารย์ บอกว่าพระอาจารย์ตอนนี้มีคนออกมาทำนายว่าบ้านเมืองจะเข้ากลียุคจะเกิดสึนามิ ผู้นำทางการเมือง ผู้นำทางจิตวิญญาณจะเกิดอันตรายต้องระมัดระวัง ก็ต้องสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา
อาตมาถามว่าที่ลอนดอน ที่อเมริกา ที่ปารีส เขาไม่เห็นตื่นเต้น ทำไมเมืองไทยตื่นเต้น เพราะเมืองไทยฟังพ่อมดหมอผี เห็นมั้ยว่าเราอยู่ในวิธีคิดแบบนี้ปราชญ์จะเกิดได้ยังไง

วู้ดดี้ : พระบางองค์นั่งสมาธิแล้วสามารถที่จะลอยได้ หรือมนุษย์เราสามารถที่จะลอยได้ ถ้าเกิดเรานั่งสมาธิขั้นสูงๆ แล้วมันมีจริงมั้ย
ว.วชิรเมธี : ในทัศนะพระอาจารย์นี่เป็นเรื่องธรรมดามาก
วู้ดดี้ : การลอยตัวนี่เหรอ
ว.วชิรเมธี : เป็นเรื่องธรรมดาที่สุดและเป็นเรื่องที่ในแวดวงปฏิบัติแทบไม่พูดถึงเพราะว่ามันไม่มีราคาที่จะให้พูดถึง

วู้ดดี้ : แต่อาจารย์เชื่อว่ามี
ว.วชิรเมธี : มันเป็นเรื่องธรรมดา ทำไมเราจะทำไม่ได้ มนุษย์สมัยก่อนเขาไม่ได้เดินทางโดยเครื่องบินนะ เขาเหาะเหิรเดินหาวเพราะจิตเขาวิวัฒนาการสูงสุด เขาไม่ต้องใช้วัตถุมารองรับกายเลยนะ
วู้ดดี้ : จริงเหรอฮะ
ว.วชิรเมธี : เขาเหาะไปเลย ไปไหนมาไหนเขาเหาะไป พุทธจิตมันมีอำนาจขนาดนั้น ใช่มั้ย

วู้ดดี้ : แต่ตามหลักวิทยาศาสตร์มันเป็นไปไม่ได้
ว.วชิรเมธี : แล้วคุณคิดว่าวิทยาศาสตร์เป็นใครล่ะ พอวิทยาศาสตร์บอกว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้ใช่มั้ย วิทยาศาสตร์มันยิ่งใหญ่ขนาดนั้นเลยเหรอ

วู้ดดี้ : แต่มันไม่มีข้อพิสูจน์ที่ครับพระอาจารย์ มันไม่มีข้อพิสูจน์ เราไม่เคยเห็นใครในอดีตที่สามารถเหาะได้
ว.วชิรเมธี : สิ่งที่ยังไม่ได้พิสูจน์เราสรุปว่ามันไม่มีได้มั้ย
วู้ดดี้ : ไม่ได้
ว.วชิรเมธี : ใช่ เพราะฉะนั้นอย่างมงายในวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง

วู้ดดี้ : ผมเคยได้ยินว่าอย่างมงายในไสยศาสตร์ แต่วันนี้ท่านบอกว่าอย่างมงายในวิทยาศาสตร์
ว.วชิรเมธี : ก็มีแต่คนไทยบางคนเท่านั้นแหละที่พูดว่าถ้าพุทธอธิบายด้วยวิทยาศาสตร์ไม่ได้ แล้วมันจะต่ำต้อย จึงไปพยายามเอาวิทยาศาสตร์มาอธิบายพุทธศาสนาเสียใหญ่โต บางทียิ่งทำยิ่งฉุดพุทธศาสนาให้ต่ำลง เพราะวิทยาศาสตร์เพิ่งเกิดเมื่อวานนี้ ในขณะที่พุทธศาสนาเกิดมาแล้วตลอดเวลา อยู่ในโลกนี้ไม่เคยไปไหน

วู้ดดี้ : ตลอดในการสนทนาของเรา พระอาจารย์ใช้คำว่าเจริญพร ภาษาอังกฤษคือ Yes
ว.วชิรเมธี : ถูกต้อง
วู้ดดี้ : ไม่ใช่หมายความว่าให้พรกับคุณ
ว.วชิรเมธี : ไม่ใช่ Buddha bless you เจริญพรก็คือ Yes
วู้ดดี้ : โอเค ดีครับ นั่งฟังอยู่ก็ไม่เข้าใจนิดนึงแต่ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าเจริญพรแปลว่าใช่ ถูกนะครับ

มาถึงอีกประเด็นที่คนสงสัยนะครับ มีหลายคนตั้งคำถามว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ววู้ดดี้ร้องไห้จริงหรือเปล่า แล้วก็ร้องไห้เพราะอะไร ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าร้องไห้จริงๆ ครับ แต่คิดได้ไงครับคำถามนี้ว่าผมแกล้งร้องไห้รึเปล่า ร้องไห้เพราะอะไร มันคงไม่มีอะไรมากไปกว่าคำว่าผมรู้สึกว่าผมเข้าใจมากขึ้นว่าความสุขที่เกิด จากปัญญามันคืออะไร ที่สำคัญก็คือเราใช้เวลานานพอสมควรในการฟังท่าน กว่าเราจะเสียน้ำตา คือมันอินครับเรียกว่าซึ้งในรสพระธรรมเอางี้ดีกว่า แต่เผอิญว่าเวลาในรายการสัปดาห์ที่แล้วมันไม่เพียงพอคงต้องมีการตัดทิ้งไป เยอะ คนก็เลยสงสัย อยู่ดีๆ มองท่านอยู่แล้วตัดมาอีกทีก็ร้องไห้มาเลยมันเกิดอะไรขึ้น ก็หวังว่าคงจะเข้าใจแล้วนะครับ

ว.วชิรเมธี : พระอาจารย์ขอเล่านิทานเรื่องพุทธปรัชญาเรื่องหนึ่งเปรียบเทียบแล้วกันนะ มีพระสงฆ์ปฏิบัติธรรมแล้ววันหนึ่งล่วงลับดับขันธ์ไป พระรูปหนึ่งตายแล้วไปเกิดเป็นหนอนอยู่ในส้วม รูปหนึ่งตายไปเกิดเป็นเทวดาอยู่บนสวรรค์ รูปที่เกิดเป็นเทวดาอยู่บนสวรรค์วันหนึ่งส่องทิพยเนตรลงมาเห็นเพื่อนเป็น เกิดเป็นหนอนในส้วม สงสารมากเลย เหาะลงมาเลยนะ ตะโกนอยู่หน้าหลุมส้วม เพื่อน...ไปอยู่บนสวรรค์นะ แกมาอยู่ในหลุมส้วม โอ้โห ทุกข์นะเนี่ย
เพื่อนหนอนได้ยิน ฉันจะบอกให้เวลาแกอยู่บนสวรรค์แกจะกินข้าวแกทำยังไง ก็ต้องเนรมิตเอาสิ อุ๊ย...แกยังเนรมิตเหรอ ฉันไม่ต้อง ฉันอยู่ในส้วม ทุกเช้า delivery มาเลย
วู้ดดี้ : 55555
ว.วชิรเมธี : ฉันมีความสุขมาก ฉันกินเสร็จแล้วฉันก็กลิ้งเกลือก อุจจาระคงคลังเต็มไปหมดเลย ฉันไม่มีปัญหาเรื่องความไม่มั่นคงในชีวิต

ขอบพระคุณอีกครั้งหนึ่ง พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ที่ชี้นำให้เราเห็นแสงสว่างในชีวิตของเรา ขอบพระคุณคุณผู้ชมด้วยที่เปิดใจติดตามชมรายการตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่รู้จะพูดยังไงจริงๆ เพราะถ้าเปิดมาชมกลางรายการหรือเปิดดูแค่ตอนต้นแล้วปิดไป อาจจะไม่ได้อะไรเลยแม้แต่นิดเดียวนะครับ ขอบคุณอีกครั้งหนึ่งที่เปิดมาชมรายการของเราทุกคืนวันอาทิตย์นะครับ

http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A8432715/A8432715.html

โดยคุณ autumn whispers

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น