...+

วันศุกร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ชีวิตนี้มีแตสุข - เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน

เฉลิมชัย
เฉลิมชัย
โฆษิตพิพัฒน
โฆษิตพิพัฒน

ชีวิตนี้มีแตสุข
ชีวิตนี้มีแตสุข”
ในยุคนี้นอยคนนักที่จะไมรูจักเฉลิมชัย โฆษิต
พิพัฒน ศิลปนผูยิ่งใหญ เจาของตํานานพูดไปดาไป
อันลือลั่น การที่คนคนหนึ่งซึ่งดูดุดัน กาวราว จะ
สามารถบรรจงสรางงานศิลปะที่ออนชอย งดงามราว
เนรมิตไดนั้น มีความพิเศษที่ไมเหมือนใคร เรามารูจัก
ตัวตนของเขาใหลึกซึ้งกวาที่เคยกันดีกวา
ขอเริ่มดวยความสําเร็จของอาจารยในวันนี้วามีที่มา
อยางไร
มีธรรมะและสติเปนธงชัยนําชีวิต รูตลอดเวลาวาเรา
กําลังทําอะไร ไมหวังจะกอบโกย รักในสิ่งที่ทํา มุงมั่นตั้งใจ
จริง ธรรมะสอนใหมีเปาหมาย ทําใหเราสามารถดํารงชีวิต
Page 2
รวมกับผูอื่นในโลกนี้อยางปราศจากทุกข เมื่อปราศจากทุกข
แลว เราจะมีความเมตตาตอเพื่อนมนุษย รูจักใหเกียรติผูอื่น
ทําใหเจริญกาวหนา ทําอะไรก็สําเร็จ
ทราบมาวาที่วัดนี้มีพนักงานเปนรอย แตไมมีปญหาใน
การทํางาน อาจารยมีหลักในการบริหารจัดการ
อยางไร
งาย! ใจตองเปนธรรมะมากที่สุด ใจตองไมมุงหวังให
เปนของกู ไมเอาเปรียบผูอื่น วัดนี้ไมเคยมีปญหา ไมมีใคร
ยายไปทํางานที่อื่น ไมมีใครทอดทิ้งเรา ทุกคนอยูกันดี ทุก
คนตองอิ่ม ครอบครัวเขาตองมีความสุข สวัสดิการเขาตองดี
ชีวิตครอบครัวเขาตองดี ใจที่เปนเมตตานั่นคือการบริหารที่ดี
ที่สุด
สวัสดิการมีอะไรบาง
ใหทุกอยาง ใหโบนัสเหมือนที่อื่น มีเงินใหยืมฟรีใน
กรณีฉุกเฉิน ที่นี่เราประชุมกันทุกเดือน หลังจากประชุมเสร็จ
ก็จะถามถึงปญหาครอบครัว ใครมีปญหาบอกมา ลูกเรียน
หนังสือฟรี รักษาพยาบาลฟรี อยูดีกินดี ไมตองเสียคาน้ําคา
ไฟ รักษาโรคทุกอยาง ตายเผาให ที่นี่เลี้ยงจนตายไมมี
เกษียณอายุ แกลงก็กวาดใบไมไป นี่ตายมา 3 คนแลว เราก็
เผาให ไมใชแคลูกศิษยเรา ชาวบานเราก็ทําให ฟรีหมด รถ
ขนศพ อาสนะ ไมตองเสียเงินสักบาท ไมวาใครตาย ไมวา
ยากดีมีจน เราจายให ศพละประมาณสองพันบาท อีกหนอย
เมรุเสร็จ คนงานก็เผาที่นี่เลย เผาฟรี
อาจารยกําหนดเงินเดือน เงินโบนัสอยางไร
พนักงานเขากําหนดของเขาเอง ประชุมกันเอง เรา
สอนเขาในเรื่องคุณธรรม ไมเห็นแกได ไมเห็นแกตัว สอน
มัชฌิมาปฏิปทา สอนธรรมะทุกอาทิตย สอนมาเปนสิบๆ ป
Page 3
ตั้งแตมันเปนคนชั่ว กระทั่งเปนคนดี ขี้เหลาเมายา สําสอน
เลว กลายเปนคนดีหมด เปนคนชอบเลี้ยงคนเลวใหเปนคนดี
ที่นี่พนักงานจะมีอํานาจในการตัดสินใจ ไมวาจะเปน
การขึ้นเงินเดือนหรืออะไร หัวหนาฝายรวม 13 ฝาย เราสอน
เขาเรื่องประชาธิปไตย การบริหารวัด สอนหมด ผูจัดการ
ควรทําอะไร ผูชวยผูจัดการทําอะไร เลขาฯทําอะไร หัวหนา
ฝายทําอะไร คนลางหองสวม คนสวน สอนเองหมด แลวทํา
ใหดูดวย ฝายประชาสัมพันธนี่สอนตั้งแตพูดไมโครโฟน เริ่ม
จากจดใหแลวบอก “มึงมานั่งขางกู กูพูดใหมึงฟง แลวมึง
พูดตาม สอนๆๆ จนเดี๋ยวนี้มันเกงชิ_หาย ทุกอยางสอนตัว
ตอตัว จบป.6-ป.4 ก็พอ ไมตองเรียนจบสถาบันไหน มึงมา
เรียนกับกู”
วิธีสอนตองสอนดวยความเมตตา สอนดวยการทําเปน
ตัวอยาง ไมไดสั่งอยางเดียว เราทําทุกอยางในวัดนี้ เช็ดถู
พื้น กวาดขยะ กวาดใบไม ทําจนพวกมันเกรงใจ เมื่อกอน
ตองใสหมวกเดินแทงขยะทั่ววัด ไมพูดสักคํา แทงขยะ แทง
ใบไมคนเดียว จนเดี๋ยวนี้ลูกศิษยเห็นใบไมหลนอยูใบเดียวก็
เก็บ เห็นเราจับไมกวาดมันวิ่งมาแยง ไมเคยตองถือไมกวาด
เลยตอนนี้หาอะไรเก็บไมไดเลย
เลิกงานแลวพายุมา มันวิ่งกันมาหมดเลย มาจากบาน
มาเก็บเต็นท เก็บของ กวาดใบไมที่ปลิว ถาฝนตกกลางคืน
ตีหามาดูเลย ออกมายี่สิบสามสิบคน มากวาดใบไมหมด
ภายในพริบตา นี่คือสิ่งที่ยิ่งใหญที่สุดในการบริหารจัดการ
คน บริหารจนความรูสึกในใจเขาเหมือนเรา มีความรักวัด
เหมือนกัน มีความรับผิดชอบเหมือนกัน มีความปรารถนาให
ความงดงามแกประชาชนเหมือนกัน
สอนมันวา “บุญของมึงอยูใกลกวาคนอื่น มึงเก็บใบไม
ใบหนึ่ง มึงเก็บขยะชิ้นหนึ่ง มึงดูแลวัดดวยความเปนหวงเปน
ใยก็เปนบุญของมึง มึงบริการประชาชนที่มาก็บุญของมึง
มนุษยคนอื่นสูมึงไมไดเพราะตองแสวงหาบุญ แตบุญของ
พวกมึงอยูใกลมึงตลอดเวลา”
Page 4
เงินเดือนคือสัมภาระของชีวิต แตบุญคือสัมภาระของ
จิตวิญญาณ ตองแสวงหาเอง
แลวภายในครอบครัวของอาจารยมีหลักในการจัดสรร
เงินอยางไร
สิ่งที่สําคัญที่สุดคืออยาเปนหนี้ หาไดเทาไรก็ใชแบบ
พอเพียง รูจักแบงสันปนสวน จะตองมีเงินเหลือติดกระเปา
ทุกครั้ง อยาใชจนหมดตูด เวลายากจนเนี่ย หาเงินไมได
จริงๆ ก็อด ไมกิน บางครั้ง ก็กินขาวกับน้ําปลา พอมีเงินตอง
มีเก็บและตองไมเปนหนี้ เมื่อกอน ประกวดผลงานไดเงิน
รางวัลมาหมื่นหา แทนที่จะเอามาเลี้ยงกัน นี่ไมเอา ไมเลี้ยง
ใคร เลี้ยงเพื่อนสนิทจริงๆ สองสามคน อยางเกง เลี้ยงขาว
สองสามรอยบาท ประเภทเลี้ยงเหลาเมาหัวราน้ําหมดไปหา
พัน อยาฝน ไมทํา เพราะวันขางหนาไมรูวาจะมีหรือเปลา
ตอนยากจน โคตรระวังในการใชเงิน จะใชเงินแบบวัน
ขางหนาอาจจะอด พอรวยแลวก็ยังเปนอยางนั้น จนกระทั่งรู
วาวันขางหนาไมอดแลว ไมจําเปนตองระวังแลว ก็สุรุยสุราย
ขึ้นมาบาง แตก็ยังเก็บเงิน ตอใหเที่ยวสําสอนขนาดไหนก็มี
เงินเก็บ ถาเราตาย เมียจะดูแลทุกอยางหมด ไมเคยเก็บเงิน
ใชสวนตัวแมแตบาทเดียว มีชีวิตที่เรียบงายที่สุด กินขาววัด
กินพรอมลูกศิษย มันเคาะระฆังก็ไปกินกับมัน ไมใชเงิน
ดูแลครอบครัวกอน จากนั้นทําบุญสรางวัดหมดเลย
อาจารยมีวิธีสอนลูกอยางไร
กับลูกสอนประจําวา “จงมีความสุข” ไมมีคําสอนอะไร
ที่มากกวานี้ ทุกอยางเปนไปตามกรรม ใหเขาทําทุกอยางที่
เขามีความสุข แตไมตองเบียดเบียนใคร
ทุกวันนี้สังคมไทยชอบพอกพูนกิเลสใหแกลูก เด็กถูก
พอแม ถูกสังคมยัดกิเลสใหไมรูจักพอ อยากได อยากดี
อยากเดน อยากทุกอยาง แตเราหยิบยื่นความสุขใหแกลูก
บอกเขาวาไมตองเครงเครียดในการเรียนมาก ไมเคี่ยวเข็ญ
Page 5
ลูก ไมจําเปนตองไดที่หนึ่ง แตจงเรียนอยางมีความสุข ให
ผาน ใหรอดพอ ขางหนาจะเปนยังไงลูกไมตองใฝฝน ไม
ตองอยากเปนหมอ ไมตองอยากเปนอะไรที่คนอื่นเขาอยาก
เปน ลูกจงถามใจของตัวเองวาลูกปรารถนาอะไรที่เปน
ความสุข แลวจงทําสิ่งนั้น ลูกไมตองไปสนใจวาอาชีพอะไร
ที่ทําใหลูกร่ํารวย อยานึกถึงความร่ํารวย จงนึกถึงความสุข
ในใจของตัวเอง แลวจงทํามัน ไดเงินนอยไมเปนไร แต
ความสุขมีคามากกวา
จงแสวงหาเงินเพื่อเลี้ยงชีวิตใหมีความสุข แต
ไมใชแสวงหาความร่ํารวยแลวทุกข
เสียชาติเกิด
แลวสอนใหเขารูจักความทุกขดวยหรือเปลา
แนนอน เมื่อเขามีความสุขแลวเราก็จะพูดถึงความทุกข
ทันที จะบอกเขาวา ขณะนี้ลูกมีความสุข แตลูกจะตองมี
ความทุกขตามมา เปนตนวา ทุกขเมื่อเสียของรัก ถูกเพื่อน
ขโมยของ หรือโตขึ้นมามีแฟนแลวแฟนทิ้ง เมื่อลูกมี
ความสุข จะพูดถึงความทุกขใหฟงดวย ไปงานศพตองพูด
ใครตายตองพูด เพื่อใหเห็นการพลัดพราก ยิ่งเพื่อนตายยิ่ง
ดีเลย เขาจะไดรูจักวา ดีเลว สุขทุกข คูกันเสมอ
แลวตัวอาจารยเอง สมัยวัยรุนเปนอยางไร
เราก็บาบอคอแตกของเราไป กินเหลาเมายา เที่ยวสํา
สอน แตโชคดีที่มีธรรมะมาตั้งแตเกิด เพียงแตมนุษยตอง
เปนไปตามวัย แตวาเรารูตัวตลอด เราบอกตัวเองวา
ตองการรูถึงความเลวเพื่อปลอยวางในอนาคต
Page 6
อาจารยเคยลองเสพยาไหม
ลองทุกอยาง กัญชา ยากลอมประสาท อยากรูวามัน
เปนยังไง แตไมติด เพราะตองการศึกษา ตองการเรียนรู
ไมไดหลงใหลไปกับมัน แตเด็กที่ออนแอ ไมมีธรรมะนั้น
อยาแตะตองสิ่งเหลานี้ เพราะมันไมมีเปาหมายอยางเรา วา
วันหนึ่งขางหนากูตองเปนคนดีคนที่ออนแอ พอเสพก็ติด
หลงใหลไปเลย แตเรารูจักเบรก มีสติ
รูสึกวาตัวเองมีธรรมะตั้งแตเมื่อไร
ตอนแรกไมรูหรอกวาเรามีธรรมะ แตวามันถูกสติเบรก
ตลอดเวลา เชนเมื่อวันที่เมาที่สุด กลับมาบานตอนตีสามตีสี่
นาจะมีความสุขกับสิ่งที่เสพมาทั้งหมด กินเหลา มีผูหญิง
สวยๆ คิดดูสิ มันนาจะมีความสุขใชไหม กลับมาบานแฮง
เมาชิ_หาย นอนเอนหลังอยูบนเตียง จิตมันถามเลยวา “
ไอ
เหลิม มึงสุขเหรอ มึงสุขจริงเหรอวะ
” เมื่อมีคําถาม เราถึงมี
ความรูสึกวา “
กูไมไดสุข กูเปนทุกข หนึ่ง กูปวดหัว สอง
พรุงนี้กูตองมีปญหากับผูหญิงแน ตองมีเรื่องวุนวายกับสิ่งที่
กูกระทําเมื่อคืนนี้ กูไมไดสุขเลย กูหลอกลวงตัวกูเอง
” การ
ตอบตัวเองนําไปสูการเรียนธรรมะ เริ่มจากการอานงานเขียน
ของอาจารยพุทธทาส “
คูมือมนุษย

หลังจากเหตุการณนั้นเลยรูวา เฮย! ในใจกูมีธรรมะนี่
หวา
ทําไมถึงเลือกศึกษาธรรมะของทานพุทธทาส
เพราะเราไมเชื่อเรื่องไรสาระ เราเชื่อเรื่องเหตุและผล
บังเอิญมีหนังสือ
คูมือมนุษย
อยูแลวที่บาน แตไมเคยอาน มี
หนังสือธรรมะอยูเต็มบาน เมื่อป 2525 ศึกษามาหมดนะ
ศึกษามโนมยิทธิ ศึกษาพระธรรมกาย ศึกษายุบหนอพอง
หนอ ศึกษาทุกสาย เพื่อมุงหวังไปสูไสยศาสตร เดิมทีสนใจ
เรื่องพวกนี้ แตปรากฏวาไมประสบความสําเร็จ ก็ละวางหมด
Page 7
อาจารยเชื่อเรื่องชาติภพไหม
เชื่อมาก และเชื่อวาธรรมะปฏิบัติในภพชาตินี้จําเปน
อยางยิ่งที่จะนําไปสูภพชาติที่เราปรารถนา ตอนนั้นศึกษา
ธรรมะของอาจารยพุทธทาสจนเขาใจ เมื่อเขาใจก็เริ่มดวย
การฆากิเลสในใจตัวเอง คือ กาวขามกระโดดไปสูการฆา
กิเลสในใจตัวเอง ฝกละกิเลส ตั้งแตความโลภ ความอิจฉา
ริษยา ความหลง ยึดมั่นถือมั่น ทุกอยาง
มีขั้นตอนไหมวาตองเริ่มละกิเลสตัวไหนกอน
เริ่มจากตัวที่งายที่สุดกอนเพื่อเปนกําลังใจ สําหรับ
ตัวเองที่งายที่สุดคือ ฆาเรื่องวัตถุ บาบอคอแตก ความบา
เพชร บาพลอย ฆาวัตถุ นําไปสูการฆาความหลง ความยึด
มั่นถือมั่น เหลานี้ฆากอน เพราะมันเปนตัวออนที่สุดของตัว
เรา แตบางทีมันเปนตัวแข็งที่สุดของคนอื่น
ฝกตัวเองใหกินเหลานอยลง กินอยางมีสติ เจอผูหญิง
สวย ชอบ แตหยุดยั้งตัวเอง ไมลามปามไปสูการเอาเปรียบ
ผูอื่น บางคนสวยมาก ทนไมได พาไปกินขาว กินขาวแลว
ไมเอา ถึงแมผูหญิงจะใหโอกาสก็ไมทํา สติเบรกตลอดเวลา
ไมทําอะไรที่ลวงเกินกาวขามไปสูสิ่งที่ผิดศีลธรรม
ตอนหลังถอดเครื่องเพชร ถอดนาฬิกาแพงๆ ทิ้ง ไมซื้อ
อีก ไมปรารถนา ใสเสื้อมอฮอม ในขณะที่เมื่อกอนไปออก
งานที่ไหนไมใสเครื่องเพชรไมได ทุกคนยังไมเชื่อ หาวา
ตอแหล เดี๋ยวมันก็กลับมาใสอีก
สําหรับอาจารย กิเลสตัวไหนฆายากที่สุด
ความโกรธ ความโกรธนี่ยากที่สุด อันนี้ฝกฆามาตลอด
จนเดี๋ยวนี้ ตั้งแตอยูวัดมา
สี่ปแรกก็ยังมีความโกรธ มีความไมพอใจ สติหยุดความ
โกรธไดชา แตไมเหมือนสมัยหนุมนะ สมัยหนุมเนี่ย
โหดเหี้ยมมาก ตัวนี้ยากที่สุด เหลืออยูตัวเดียว ทุกวันนี้ก็
Page 8
พยายามแก แตเดี๋ยวนี้ดีขึ้นมาก สามปหลังนี้ดีมาก ไมเคย
โกรธ หรือถาโกรธขึ้นมาก็หยุดยั้งไดเร็วกวาแตกอน
กับคนที่เรารักนี่โกรธไหม
โกรธหมด รักเริกอะไร โกรธหมด ไมพอใจกูโกรธหมด
ตัวนี้ฆามันทุกวัน ฆามันทั้งภายนอกภายใน เมื่อภายนอกเกิด
ความโกรธ สติตองกําหนดวา มึงโกรธแลว หยุดความโกรธ
คําสั่งจะออก แตเมื่อกอนนี้คําสั่งออก ทําเลย ไมสน กะซวก
ทันทีเลย
ตอนหลังนั่งสมาธิ ยอนรอบ ชอบนั่งสมาธิตอนตีสองตี
สาม มันจะยอนใหเราเห็น ภาพอยางละเอียด ทําไมกูยั้งไม
อยู จิตกูทําไมพายแพกับมัน จะเห็นภาพชัดมาก เอาละ รอบ
หนา เราจะยั้งดวยวิธีอะไร อยางนี้เขาเรียกวาแกภายนอก
แลวแกภายใน แตถาไมแกภายใน ภายนอกยังไงก็แกไมได
เคยอานหนังสือเลมหนึ่งบอกวา กอนตายถาจิต
สุดทายคิดถึงสิ่งดีๆ ที่เคยทํามา แมจะเคยทําชั่วมา
บาง แตถาจิตสุดทายกระหวัดไปถึงบุญกุศล ก็จะทํา
ใหไมตองไปเกิดในอบายภูมิ อาจารยเชื่ออยางนั้น
หรือเปลา
การฝกวิปสสนาฆากิเลสของตัวเองก็เพื่อมุงไปจิต
สุดทายนี่แหละ เราจะไดไมตองไปกระซิบขางหูคนที่กําลัง
จะตายใหคิดถึงวัด คิดถึงบุญกุศล เพราะเอาเขาจริงมันคิด
ไมไดหรอก ตัวกิเลสมันมีอํานาจมากกวา ความหวงผัว หวง
ทรัพยสมบัติ
ความกลัวตายมันมากกวา กูจะตายจริงเหรอ
โอย! กูไมอยากตาย กูไมอยากตาย หลานกูยังเล็กอยู ผัวกู
มันตองไปมีเมียนอยแน สมบัติที่ซอนไวยังไมไดบอกใคร
อยากจะพูด อยากจะบอกสารพัด คิดเหรอวาความคิดที่เพิ่ง
ไปทําบุญมาสามรอยหาสิบบาทมันจะแวบขึ้นมา ไมมีทาง
ดังนั้นตองฝกเพื่อที่วากอนตายจะไดคิดเรื่องดีๆ
หรือไมคิดเลย ซึ่งสุดยอด ตองฝกใหไปสูจุดนั้น
Page 9
พูดถึงสุขภาพอาจารยบาง เปนอยางไร ตรวจเช็คบาง
หรือเปลา
ไมตองเช็ค คนที่มีธรรมะแลวเขาไมอยากอยูในโลกนี้
หรอก สําหรับตัวเองเมื่อปวย บอกคนใกลชิดไวแลววาอยา
เปนกังวล จงปลอยใหตายอยาเอาหนากากมายัด อยาเอา
สายระโยงระยางมายัด จะทําอาการสํารวมสงบแลวตาย จะ
เขาสมาธิใหอยูในความวางแลวตาย ถารางกายไมดีเมื่อไหร
จะเขาสมาธิ พักผอน ไมกินยา ก็หายทุกที ยกเวนโรคอยาง
มะเร็ง อัมพาต หรืออะไรที่สูงๆ นี่เปนกรรม ตองยอมรับดวย
ความเบิกบาน ถือเปนการชดใชกันไป เมื่อปวยก็จะเปนสุข
ไดยินวาอาจารยเคยมีปญหาสุขภาพถึงขนาดจะสราง
วัดไมสําเร็จจนตองตั้งจิตอธิษฐาน
เปนกระดูกทับเสนประสาท เดี้ยง ชาทั้งตัว ปวด
ทํางานไมได ตอนนั้นสรางวัดมาได สักสามป เดี้ยงหมดเลย
นอนเจ็บทรมาน ไปหาหมอ หมอก็บอกตองผาคอ ชาไปขาง
หนึ่งแลวเจ็บปวดทั้งตัว ปวดแขนราวลงมา คอก็ยกไมขึ้น
นอนไดทาเดียวตลอด ตองใสปลอกคอ
แตวาเราเปนคนที่เชื่อเรื่องกรรม เชื่อวา เฮย! เปนเรื่อง
สวนตัวของกู ถามีกรรมทําใหไมสามารถสรางวัดได จงเปน
แลวตายไป หรือเปนอัมพาตเดี้ยงไปเลย แตถาบุญกูยังมีอยู
กูตองชนะ กูตองรอด เลือกเลย ยินดีทั้งสองทาง ยินดีใน
บุญ ยินดีในกรรม ยินดีในทุกขที่เกิดขึ้น ยินดีในสุขที่เกิดขึ้น
ยินดีทั้งสองอยางเทาเทียมกัน เสร็จแลวกลับมาวัด
เขาสมาธิ อดทนตอสูกับความเจ็บปวดของตัวเองอยูสาม
เดือน เอาชนะความเจ็บปวดทุกอยางดวยตัวเราเอง
จนกระทั่งหายเปนปลิดทิ้ง
Page 10
ไมไปหาหมอ
ไปหาหมอ หมอจะผา หมอจะจัดการทุกอยางตาม
ระบบของแพทย แตเราก็หลอกหมอวา ขอกลับบานมาคิด
ดูกอน
เชื่อวามันเปนสภาวะของกรรมซึ่งเขามาทดสอบใจเรา
รูเลยวานี่เปนเรื่องระหวางกูกับกรรมเกา ไมเกี่ยวกับหมอ ไม
เกี่ยวกับใคร
ตอนนั้นกลัวไหมวาจะสรางวัดไมเสร็จ
ไม สรางได เรื่องทุกอยางมันอยูที่ใจ
ถาเราเชื่อในตัว
เรา เชื่อวาธรรมะเปนสิ่งที่ดีที่สุดแลว เปนหนทางที่ถูกตอง
ที่สุดแลว ชีวิตเราจะมีแตความสุข โคตรความสุข
เราจะ
มองวาสรรพสิ่งสรรพสัตวในโลกลวนกระจอกงอกงอย ไร
สาระ ไมมีอะไรเปนแกนสาร โลกมนุษยนี้กูเดินทางมาแค
แวบเดียว เพื่อมาดูมันแลวกูก็จะไป มันไมมีคาอะไรเลยสัก
อยาง ปวยก็ไมอยากใหใครมายุงเกี่ยว
เปนอัมพาตอัม
พฤกษกูก็ยินดี กูจะนั่งรถเข็นดวยใจที่เบิกบาน บอกเมีย
เตรียมรถเข็นไวเลย ไมตองหวง ถาเดี้ยงก็จะบอกลูกศิษย
ลูกหาใหเข็นมาดูวัด แลวกูสั่งการมึง กูนั่งรถเข็น กูเดี้ยงขาง
หนึ่ง ถึงปากกูเบี้ยวหนากูยังยิ้ม
(ทําทาประกอบสมจริงมาก)
กูก็ยังมีความสุข แลวกูก็ปวยไปเรื่อยๆ แลวกูก็ตาย
จบที่สุด
ของวิบากกรรม ไมเห็นเปนไรเลย วัดนี่สรางไดอยูดี
แลวอาจารยหายไดอยางไร
นั่งสมาธิอยางเดียว นั่งมากที่สุด เปนความวางอยาง
เดียว ดับสมอง ดับทุกอยาง แลวก็จี้ไปตรงความเจ็บปวด
จนกระทั่งไรความเจ็บปวด เวลาออกสมาธิกลับมาปวดอยาง
เดิม ก็ไมเปนไร ไมสน ไมไปจองที่ความเจ็บปวด ไมไปคิด
วา “ทําไมกูถึงมีกรรมขนาดนี้” ทนรับกรรมดวยความเบิก
บาน ไมหดหูใจ ไมเศราหมอง ไมเสียใจ ไมรูสึกรําคาญ ไม
Page 11
อยากฆาตัวตาย พอเรายินดีเบิกบานในความเจ็บปวด ความ
เจ็บปวดนั้นก็เบาลง
จําไววา คนที่สุขจริงคือสุขไดแมกายเปนทุกข สองสิ่ง
นี้คูกันเสมอ ฉะนั้น จงยินดีรับทุกขที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง
เทากับยินดีในสุขที่เกิดขึ้น
ในการสรางวัดรองขุน คนพูดกันวามีปาฏิหาริยหรือมี
เทวดามาชวย อาจารยรูสึกแบบนั้นหรือเปลา
อยาไปสนใจ ไรสาระ บุญถึงมันก็สรางได บุญคืออะไร
คือธรรมะในใจของตัวเราเอง คือมีความเมตตา นําไปสู
ความสําเร็จทุกอยาง ประหนึ่งเทวดามาดูแลปกปกรักษา มา
คุมครองคุมภัย มนุษยถาสรางบุญมาก ทําอะไรก็สําเร็จ
งายดาย
จุดประสงคที่อาจารยสรางวัดรองขุน แทจริงแลวคือ
อะไร
ภายนอกเปนเรื่องของรูปธรรม วาสรางเพื่อค้ําจุน
ศาสนา เพื่อที่จะมอบใหแกชาติบานเมือง และเพื่อถวาย
พระบาทสมเด็จพระเจาอยูหัว ใหเปนศิลปะสมัยรัชกาลที่ 9
ที่ไม ลอกเลียนใคร เปนความกตัญูในบานเกิด ตองการ
ใหเกิดประโยชนในแงของเศรษฐกิจ ใหเปนแหลงทองเที่ยว
ที่ใหญระดับโลก
สวนภายในเปนเรื่องนามธรรม เพื่อเปนสัมภาระในการ
เดินทางของจิตวิญญาณไปสูสภาวะแหงการไมกลับมาเกิด
สมมุติถาเกิดอะไรขึ้นกับวัด อาจารยทําใจไดหรือ
ศึกษาธรรมะมาขนาดนี้ จะไปยึดมั่นอะไรเลา สรางก็
สรางไป ตายก็ตายไป ก็บอกแลววาความตายก็ไมสนใจ จะ
สนใจวัตถุพวกนี้ไดไง มันไมมีคาอะไร คาเหลานี้มันเปนคา
จากการปรุงแตงของมนุษยตัวอื่น ไมใชสัตวอยางกู ชวย
เขียนไปดวย มนุษยตัวอื่นมันยินดี มันยึดติดถือมั่น แตคน
Page 12
อยางเราไมใช เราสรางเพื่อปลอยวาง สรางเพื่อฆากิเลส
ของตัวเอง สรางเพื่อเปนสารประโยชนแกมวลมนุษยชาติที่
มันยังยึดติดและหลงใหลในสิ่งนี้อยู
จากจุดนี้แลวอาจารยตั้งใจจะทําอะไรตอคะ
สรางความเมตตาใหแกกลา หยิบยื่นทุกอยางใหแก
ประชาชน ประเทศชาติ และศาสนา จะทําประโยชนใหแก
มนุษยคนอื่นจนลมหายใจสุดทาย เมตตาคือสิ่งที่สูงที่สุด
ของบุญบารมี นี่คือการสรางบุญบารมีในรอบสุดทายของ
ตัวเอง
วาไปแลวก็เปนการทําเพื่อหลุดพนของตัวเอง แปลวา
ยังมีตัณหาใชหรือไม
ใชสิ ตองเขาใจวาตัณหาของมนุษยมีทั้งฝายดีแหละ
ฝายเลว ฝายดีตองมีความทะเยอทะยาน มุงไปสูความหลุด
พน ถาไมมีตัณหา จะพยายามเหรอ ทุกอยางมันตองมี
ตัณหาหมด เขาเรียกวาตัณหาฝายดี กอนหลุดพนตองมี
ตัณหาทั้งนั้น ตัณหาในที่นี้คือมีความอยากที่จะหลุดพน คน
ไมมีความมุงมั่น ไมอยาก มันจะเปนอะไรได ไมงั้นจะมี
ศาสดามาไดไง จะมีผูหลุดพนมาไดไง
การเปนมนุษยมันดีตรงนี้ สัตวมันไมมีความมุงมั่น ไมมี
แรงทะเยอทะยาน การเกิดเปนมนุษยจึงเปนการพัฒนา
ธรรมะของตัวเอง พัฒนาภพชาติของตัวเอง การไดเกิดเปน
มนุษยนั้นโชคดีที่สุด เพราะมนุษยมีความทะเยอทะยาน มี
เปาหมาย
บั้นปลายชีวิตอาจารยคิดจะบวชไหม
ไมตองการบวช เพราะเชื่อวาไมตองบวชก็สามารถละ
ภพชาติได เราบวชภายใน ไมตองบวชภายนอก เราอยู
รวมกับผูอื่นอยางมีความสุข ชวยเหลือ เมตตา ไม
Page 13
เบียดเบียนผูอื่น ไมเอารัดเอาเปรียบใคร ทําหนาที่ของเรา
ใหดีที่สุดอยางมีคุณธรรม
คําถามสุดทาย อาจารยคิดวาตัวเองเปนอัจฉริยะหรือ
เปลา
ไมเลย อัจฉริยะเปนเพียงคําจํากัดความของคนที่
เหนือกวาผูอื่น เราไมไดเหนือกวาผูอื่น เรามองคาของใจ
มากกวาวัตถุ ไมมองวัตถุเหนือใจ คนอาจมองวาเรา
เหนือกวาคนอื่นในเรื่องวัตถุ แตเรากลับเห็นวาตัวเอง
กระจอก ไมมีคาเลย ใจของเราที่ตอสูมา ที่ฝกฝนมานั้น
สําคัญกวา
วัตถุเดี๋ยวนี้ผุพังไปตามกาลเวลา มันไมคนทน
ไมไดงดงามอยางนี้ไปตลอด สุดทายมันเปนอนิจจัง ทุกขัง
อนัตตา เปนของไมเที่ยง แตสิ่งสําคัญคือใจเรา
ดังนั้นใครจะ
บอกเปนอัจฉริยะอะไร ไมสนใจ ไมเคยเยอหยิ่งทรนงวา
พิเศษเหนือกวาคนอื่น
สิ่งเดียวที่พิเศษกวาคือ “กูไมมีทุกข”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น