...+

วันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ถ้าเลือกนักการเมืองเลว เราก็ชั่วกว่า โดย โสภณ องค์การณ์

นักลงทุนธุรกิจการเมืองระดับขาใหญ่ รายย่อย ยังเร่งแข่งกันโกหกพกลม ซื้อเสียงในเกมชิงอำนาจรัฐ ศึกเลือกตั้งครั้งนี้เดิมพันสูง ฝ่ายใดแพ้จะต้องจมอยู่ในปลักฝ่ายค้านอีกนาน เว้นแต่สถานการณ์ก่อนวันกาเบอร์ไม่เป็นใจ มีกลุ่มอำนาจอื่นเข้ามาปิดเกม

เห็นพวกเสนอหน้ามาให้เลือก ติดโปสเตอร์ออดอ้อน โอ้อวดว่าตัวเองเก่งกาจสารพัด พร้อมทำงานเพื่อบ้านเมือง เอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ต้องบอกว่า “พวกนี้โกหกแบบหน้าด้านๆ ไม่กะพริบตา นึกว่าชาวบ้านโง่ ไม่รู้เท่าทัน”

คนรักษาการนายกฯ “มาร์ค โพเดียมเลี่ยมทอง” ผู้นำค่ายสะตอ ชี้ชวนเสียงดังฟังชัดแล้วว่า “ขอให้ไปใช้สิทธิเลือกคนเลวน้อยที่สุด” แค่นี้ยังไม่ซึ้งตรึงใจอีกหรือ!

เท่ากับยืนยันว่าพวกเสนอหน้ามาให้เลือก มีแต่คนเลว ไม่มีคนดีเลย! คำขอของ “มาร์ค โพเดียมเลี่ยมทอง” ยังไม่รับรองตัวเองว่าเป็นคนดี นับประสาอะไรกับพวกเกล็ดแตกลายงา หนอกหนา เขี้ยวโง้ง ซ่อนมีดซุยไว้ในรอยยิ้มแสยะ แนวผีดิบหิวเลือด

เราเห็นความคึกคักของพวกจ้องโกงกิน นักทรยศหักหลัง พยายามจับมือประสานผลประโยชน์แบบไม่อายฟ้าดิน ถ้าตกขบวน ต้องอดอยากปากแห้งอีกนาน

จะมีแผ่นดินไหนที่คนเสนอหน้ามาเป็นผู้แทนล้วนเป็นคนเลว? หลังจากได้ยินคำพูดอ้อนของ “มาร์ค โพเดียมเลี่ยมทอง” แล้ว ไม่มีใครกล้าออกมาปฏิเสธ

การนิ่งเป็นการยอมรับว่าตัวเองอยู่ในข่ายเลว ตามที่หนุ่มมาร์คว่า! บางคนคันปากอยากจะสวนเต็มที่ แต่จนใจ ทำไม่ได้ เพราะหนุ่มมาร์คไม่ได้พูดแบบเอาดีเข้าตัว เอาชั่วให้คนอื่น! เมื่อเลวหมด ประเด็นที่เหลือคือ ใครชั่วมาก เลวน้อยกว่ากัน

แต่ชาวบ้านส่วนหนึ่งยังไม่ว่าอะไร กระดี๊กระด๊าผ่านโพลว่าจะเลือกพรรคนั้น พรรคนี้! โพลต่างๆ ทำงานถี่ยิบ ปั่นกระแสชี้นำ ขยายผลต่อโดยสื่อไร้จิตสำนึก

วิญญูชนคนทนทุกข์กับการเมืองน้ำเน่าไม่ต้องให้ใครมาบอก เห็นโปสเตอร์หาเสียง 2 ข้างทาง หลับตาชี้ว่า “ไอ้นี่ชั่ว กังฉิน” ไม่ผิดตัวแน่! พวกลงสนามครั้งแรกก็เหมือนยอมรับว่าเป็นคนชั่ว เพราะหัวหน้า แกนนำ คนบงการนั้น ชั่วเต็มร้อย!

การเมืองในสังคมพัฒนา คนมีมลทินติดตัวเพียงเล็กน้อย ยังไม่กล้าเสนอหน้ามาเป็นบุคคลสาธารณะ! ถ้ามีใครด้านหน้ามา ระบบสังคมนั้นจะไม่ยอมรับ คนไม่เลือก

เมื่อเห็นว่ามีนักการเมืองเลวๆ มาให้เลือก เรายังเลือก เท่ากับว่าเราชั่วกว่า!

สภาผู้แทนราษฎรจึงเป็นแหล่งรวมอาชญากรดิ้นรนให้รอดพ้นคดีอาญา เป็นสถาบันฟอกตัวคนชั่ว ออกกฎหมายปลดเปลื้องโทษ ผ่านกระบวนการนิรโทษกรรม เป็นการเหยียบย่ำกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมไร้ค่า บ้านเมืองไร้ขื่อแปเป็นที่พึ่งพา

นักเลือกตั้งเดินสายออดอ้อนขอเสียง ชาวบ้านตื่นเต้น แทนที่จะร่วมมือกันเปิดโปงความชั่วร้าย? นั่นเป็นเพราะโครงสร้างด้านจิตสำนึก ค่านิยม คุณธรรม หลักการความถูกต้องดีงามเสื่อม ผุกร่อน ด้วยอำนาจเงิน คนในสังคมไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง

เมื่อกลไกกฎหมาย เจ้าหน้าที่บ้านเมือง ไม่ทำหน้าที่ สังคมก็ไร้หลัก!

หาเสียงเพียง 2-3 สัปดาห์ ยังไม่รู้ว่าใครจะเป็นนายกฯ คนใหม่! ดูตัวเก็งแล้ววิญญูชนได้แต่ทอดถอนใจ สมเพชชะตากรรมแผ่นดิน มีตัวเวรรังควาญไม่รู้จบสิ้น

นอกจากตัวเต็ง ยังมีพวกเสนอหน้ามาเอง หรือคนอื่นดันข้างหลัง มาให้เป็นตัวเผื่อเลือก โดยเจ้าตัวไม่รู้สึกเจียมกะลาหัว ไม่คิดสักนิดว่าในชีวิตนี้ได้ทำประโยชน์อะไรให้บ้านเมือง นอกจากโกง สุมหัวกับเดนคน ตั้งเป็นก๊วนซ่องโจรภายใต้ชื่อพรรคการเมือง

สิทธิในการลงคะแนน 1 เสียงของแต่ละคนจึงมีค่ามาก ในสายตาของนักการเมืองเสือหิว! ถ้าไม่ได้เสียงของประชาชน นักการเมืองจะไม่มีสิทธิเข้าไปปล้นสะดม ปู้ยี่ปู้ยำบ้านเมือง โอนถ่ายทรัพย์สินแผ่นดินเข้ากระเป๋าตัวเอง พวกพ้อง

เสียงในคูหาเลือกตั้งจึงเหมือนเป็นกุญแจให้กังฉิน โจรการเมืองเข้าไปเปิดคลัง และลายแทงขุมทรัพย์! ธุรกิจการเมืองจึงเป็นการทุ่มเงินเสี่ยงลงทุน ถ้าชนะก็เกินคุ้ม เมื่อเดิมพันสูงกว่า 2 ล้านล้านบาทต่อปี! ซื้อเสียงครั้งเดียว ได้ถลุงงบประมาณ 4 ปี

นั่นมากกว่า 8 ล้านล้านบาท! เมื่อมีการประเมินว่านักการเมืองจะลงทุนครั้งนี้ 3-5 หมื่นล้านบาท พรรคที่ชนะจะได้งาบหนักๆ ถอนทุน บวกกำไรหลายเท่าตัว

อัตราการโกงล่าสุดสูงถึง 50 เปอร์เซ็นต์ การลงทุนเพียงไม่ถึง 5 หมื่นล้าน ได้ผลาญงบประมาณ 1 งวดก็เกินคุ้ม จากนั้นใช้เงินต่อเงิน ต่อยอด วางฐานสร้างเครือข่าย ทำให้กลไกกฎหมายต่างๆ เดี้ยงหมดสภาพโดยอำนาจเงินและอิทธิพลการเมือง

ชาวบ้านคนขายสิทธิขายเสียงแลกเศษเงิน ต้องนั่งทำตาปริบๆ รออีก 4 ปี จนกว่าจะใช้สิทธิได้อีกครั้ง ถึงเวลานั้นเงินซื้อเสียงคงเพิ่มตามอัตราเงินเฟ้อ และการแข่งขัน ทุกพรรคต้องเพิ่มงบเมื่อเห็นการลงทุนซื้อเสียงทำกำไรเร็วกว่าธุรกิจอื่นๆ

เห็นหรือยัง “เหลี่ยม” คุยโม้ให้ฟังว่าไปลงทุนทำเหมืองเพชร เหมืองทอง หวยบนดินในแอฟริกา ลงทุนธุรกิจน้ำมันในตะวันออกกลาง ทิ้งเมีย ทิ้งสัญชาติไทย ก็ยังอาลัยเมืองไทย เมื่อเห็นชัดแล้วว่าคนบ้านนี้เมืองนี้ หลอกง่าย ซื้อง่าย เอาแต่ได้ เห็นแก่ตัว

สโลแกน “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” หรือ “ยิ่งลักษณ์ทำ” เป็นดีเอ็นเอเดียวกัน! ต้องรู้แล้วว่า “เหลี่ยม” เคยคิดดีต่อเมืองไทยหรือไม่? แม้แต่เมีย ลูก ญาติพี่น้อง เครือข่ายบริวารก็ถูกนำไปเข้าขบวนการอาชญากรรม ซุกหุ้น เลี่ยงภาษี โกงแบบมีเชิง ก่อการร้าย

การทุ่มเงินครั้งนี้ “เหลี่ยม” หวังยึดอำนาจรัฐ นิรโทษกรรมให้ตัวเอง ล้างแค้นศัตรู ได้ถิ่นที่อยู่คืน! เดินหน้าถอนทุน โกยกำไร ใช้อิทธิพลกดหัวคนทั้งแผ่นดินแน่ๆ นิ! อิอิอิ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น